รีวิว Element Case Black OPS Elite’18 สำหรับ iPhone XS, XS Max และ XR ค่าตัว 8,490 บาท

รอบที่แล้วผมได้ รีวิว Element Case Black OPS รุ่นพิเศษ Limited Edition เพื่อ iPhone X ค่าตัว 7,990 บาท!!! คงจะได้เห็นความสุดยอดของเคสนี้กันไปแล้วถ้าหากใครยังไม่ได้ชมก็สามารถย้อนไปดูก่อนได้นะ สำหรับรอบนี้อัปเกรดรุ่นใหม่เพิ่มอีก เอาใจสาวก Element Case ที่ชื่นชอบตระกูล Black OPS วันนี้เรามี Element Case รุ่น Black OPS Elite’18 และ Black OPS’18 มาให้ได้ชมกัน จะมีความพิเศษอย่างไรไปติดตามพร้อมกันครับ

รีวิว Element Case Black OPS Elite’18 สำหรับ iPhone XS, XS Max และ XR ค่าตัว 8,490 บาท

สำหรับรุ่น Black OPS หากใครยังไม่ทราบที่มาที่ไปของการออกแบบเคสรุ่นนี้เราขอนำข้อมูลมาแชร์ให้ได้ทราบกันก่อนนะครับ สำหรับรุ่นนี้เป็นหนึ่งในซีรีส์ แทคทิกคอล (TACTICAL) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากอุปกรณ์ทางการทหารที่มีความดุดันทนทานสูง อย่างเช่น รถถัง อากาศยานขับไล่ และ ปืน

Black OPS เป็นเคสในตำนานซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อการลุยที่ดูดุดันเหมือนกับอุปกรณ์ทางการทหารชั้นยอด ใช้วัสดุที่ไม่ค่อยได้เห็นแบรนด์อื่นๆ นำมาใช้อย่างเช่น G10 ที่เป็นเซรามิกใยแก้วแบบเดียวกับที่ใช้ทำด้ามปืน และ อลูมินัมเคลือบสารที่ทำให้ทนทานมากยิ่งขึ้นเพื่อให้ลุยไปได้แม้จะเข้าไปในสนามรบ จึงทำให้เคสรุ่นนี้มีความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใครนั่นเองครับ

ต่อไปชมสเปกของเคสรุ่นกันนี้กันก่อนแล้วกันครับว่ามีคุณสมบัติเด่นอย่างไร

1. DROPSHOCK BODY –  ระบบดูดซับแรงกระแทก 3 ชั้น ด้วยการออกแบบที่ผสมผสาน Aluminium, Polycarbonate และ TPU เข้าด้วยกัน ทำให้ป้องกันการกระแทกที่รุนแรงได้
2. CNC MACHINED ALUMINUM – ใช้ Aluminium เกรดเดียวกับที่ใช้ในการผลิตอากาศยาน นำมาขึ้นรูปด้วยเครื่อง CNC (Computer Numerical Control) ควบคุมการผลิตด้วยคอมพิวเตอร์ ทำให้ได้สัดส่วนที่แม่นยำพร้อมการทำ Hard Anodized ให้กับ Aluminium เพื่อให้สีของวัสดุนั้นติดทนนานทนทานต่อการสึกกร่อนใช้งานได้อย่างยาวนาน
3. G10 REINFORCED BACK PLATE – เคสหลังผลิตด้วยวัสดุ fibreglass laminate ขึ้นรูปด้วยเครื่อง CNC ด้วยคุณสมบัติของวัสดุ G10 คือแข็งแรงทนทานต่อแรงกด แรงบิด แรงกระแทก ทนการกัดกร่อนของสารเคมีที่เป็นกรด ด่าง และน้ำมันเบนซิน คุณสมบัติที่โดดเด่นคือ ไม่ลื่นมือเมื่อเปียกน้ำ ทำให้เคสมีความกระชับและไม่หลุดมือแม้จะโดนของเหลวก็ตาม
4. FAST TAP™ CNC BUTTONS – ปุ่มกด Aluminium ขึ้นรูปด้วยเครื่อง CNC ให้การป้องกัน iPhone อีกทั้งทำให้การกดปุ่มเพิ่มลดเสียงและปุ่มด้านข้างทำได้อย่างง่ายดาย 
5. DEEP POCKET CLIP ATTACHMENT – คลิปสแตนเลสยาวสีดำที่ผ่านการเคลือบด้วยเทคโนโลยี PVD (Physical Vapor Deposition) เพื่อเพิ่มความสวยงามและป้องกันการผุกร่อนพร้อมเพิ่มอายุการใช้งาน แถวล็อคกับกระเป๋ากางเกงหรือเข็ดขัดได้อย่างแน่นหนา
6. SPLASHPROOF TACTICAL HOLSTER™ INCLUDED – กระเป๋าพกพาชนิดพิเศษและใช้งานง่าย ช่วยปกป้อง iPhone ของคุณทุกสถานการณ์ ประกอบไปด้วยวัสดุสุดล้ำอย่างไนลอน 600D ชนิดพิเศษ ที่สามารถกันน้ำสาดได้ ง่ายต่อการถือพกพาและพร้อมต่อการปกป้อง iPhone ในทุกสถานการณ์
7. SLS SCREW LOCK SYSTEM™ – ระบบล็อคแบบ SLS (Screw Lock Systems) สุดยอดแห่งการป้องกัน ด้วยจำนวนสกรูสแตนเลสมากถึง 10 ตัวที่ล็อคเคสรอบด้านของ iPhone เพิ่มการป้องกันการกระแทกเมื่อ iPhone หล่นจากที่สูง
8. MIL-SPEC APPROVED – ได้รับมาตรฐาน Military Grade ด้านความปลอดภัย ผ่านการ Drop-test สุดโหดโดยไม่ทำให้ตัวเครื่องเกิดความเสียหาย

Element Case Black OPS Elite’18 และ Black OPS’18

สำหรับเคสที่นำมารีวิวรอบนี้มี 2 รุ่นคือ

• Element Case Black OPS’18 สำหรับ iPhone XR ราคาอยู่ที่ 7,990 บาท (ภาพล่างซ้าย)
• Element Case Black OPS Elite’18 สำหรับ iPhone XS Max ราคาอยู่ที่ 8,490 บาท (ภาพล่างขวา)

โดยรวมแล้วตัวเคสจะเหมือนกันทั้งรูปลักษณ์การออกแบบ วัสดุที่ใช้ผลิต ส่วนที่ต่างกันคืออุปกรณ์ที่แถมมาในกล่องและรุ่น Elite’18 จะมีมาตั้งมาให้ นอกนั้นจะเหมือนกัน

แกะกล่อง Element Case Black OPS Elite’18

กล่องด้านหน้า

กล่องด้านข้าง

ดึงแถบผ้าสีแดงเพื่อเปิดกล่อง

อุปกรณ์ที่มีในกล่องรุ่น Black OPS Elite’18 จะประกอบไปด้วย

1. เคส Element Black OPS Elite’18
2. ชุดคลิปที่ผลิตจากโลหะสำหรับหนีบหรือสอดติดกับเข็มขัดซึ่งติดตั้งไว้กับตัวเคสมาแล้วเรียบร้อย ส่วนนี้สามารถถอดออกได้
3. ชุดกล่องอุปกรณ์ดีไซน์พิเศษที่พิมพ์โลโก้ Element Case ไว้ด้วยบนกล่อง ในกล่องนั้นประกอบไปด้วยไขควง 6 แฉกสำหรับหมุนสกรูที่ติดตั้งอยู่บนเคส ทั้งนี้ก็แถมสกรูสำรองมาให้ด้วย 5 ชิ้น โดย 4 ชิ้นใช้สำหรับบัมเปอร์และอีก 1 ชิ้นใช้ำสำหรับคลิปหนีบ
4. กระเป๋าผ้าสนามสีดำมีช่องสำหรับใส่ iPhone และอุปกรณ์อื่นๆ รวม 2 ช่อง ด้านหลังของกระเป๋าสามารถติดกับเป้สะพายหลังเมื่อเดินออกสนามหรือติดกับเข็มขัดก็ได้เช่นกัน ระบบล็อคของช่องเปิดกระเป๋านั้นใช้ตีนตุ๊กแก
5. เอกสารแนะนำการติดตั้งใช้งานเคสรุ่นนี้มี 2 ภาษาคือ อังกฤษและฝรั่งเศส

แกะกล่อง Element Case Black OPS’18

สำหรับรุ่นนี้อุปกรณ์จะมีน้อยกว่ารุ่น Elite โดยในกล่องจะประกอบไปด้วย

1. เคส Element Black OPS’18
2. ชุดกล่องอุปกรณ์ดีไซน์พิเศษที่พิมพ์โลโก้ Element Case ไว้ด้วยบนกล่อง ในกล่องนั้นประกอบไปด้วยไขควง 6 แฉกสำหรับหมุนสกรูที่ติดตั้งอยู่บนเคส ทั้งนี้ก็แถมสกรูสำรองมาให้ด้วย 4 ชิ้น
3. เอกสารแนะนำการติดตั้งใช้งานเคสรุ่นนี้มี 2 ภาษาคือ อังกฤษและฝรั่งเศส

ความแตกต่างของ Black OPS Elite’18 vs. Black OPS’18 คืออะไร?

นอกจากราคาและอุปกรณ์ที่แถมมาแตกต่างกันแล้วที่ตัวเคสจุดที่ต่างกันอีกหน่อยก็คือ รุ่น Elite’18 จะมีขาตั้งให้ด้วยเผื่อในกรณีใช้งานในแนวนอน

โดยมีปุ่มปลดล็อคขาตั้งให้เพื่อความสะดวกในการปลดขาตั้งออกมา

เปรียบเทียบน้ำหนักของเคสรุ่น Black OPS Elite’18 หนัก 111 กรัม ซึ่งหากติดตั้งรวมกับ iPhone XS Max แล้วจะได้น้ำหนักรวมกันอยู่ที่ 327 กรัม

ส่วนรุ่น Black OPS’18 นั้นน้ำหนักของเคสจะอยู่ที่ 103 กรัม ซึ่งไม่มีตัวคลิปหนีบ ซึ่งถือว่าน้ำหนักก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก

การติดตั้งเคส Element Case Black OPS

ทั้ง 2 รุ่นติดตั้งเหมือนกันซึ่งจะต้องใช้ไขควง 6 เหลี่ยมที่แถมมาด้วยในการถอดสกรู ย้ำแนะนำว่าตอนขันสกรูเข้านั้นอย่าฝืนให้แน่นมาก ขันเบา ๆ ให้หยุดหมุนได้ก็เพียงพอ ไม่เช่นนั้นเวลาถอดสกรูออกหัวสกรูอาจจะหลวมได้

ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยก็จะหล่อประมาณนี้

ประสบการณ์ใช้งาน

Element Case Black OPS เป็นเคสที่ออกแบบมาเพื่อการกันกระแทกขั้นสุดทั้งผ่านการทดสอบทางการทหารเป็นที่เรียบร้อยทำให้สบายใจได้ว่า iPhone ของเราได้รับการป้องกันอย่างแน่นอนครับ

ว่าในเรื่องการใช้งานทั่วไปกันบ้างครับ

• ปุ่มกดทุกจุดใช้งานง่ายตอบสนองดี
• รองรับการชาร์จไร้สาย (ต้องถอดคลิปหนีบออกก่อน)
• เว้นช่องสำหรับพอร์ต Lightning ไว้ค่อนข้างใหญ่ ทำให้ใช้กับสายชาร์จ 3rd Party ที่หัวใหญ่ ๆ ได้
• เว้นช่องสำหรับปุ่ม Mute ใช้งานได้ง่าย
• ใช้ร่วมกับฟิล์มกระจกแบบเต็มจอได้ เคสไม่ดันกระจก
• ขอบเคสสูงกว่าหน้าจอ คว่ำจอได้ไม่ทำให้เห็นรอย
• เคสด้านหลังสูงกว่าเลนส์กล้อง
• คลิปหนีบแข็งแรงแน่น หนีบกับกระเป๋ากางเกง, เข็มขัดหรือเป้สะพายได้
• ขอบเคสแข็งแรงมากผลิตจากอะลูมิเนียมเกรดดี ระวังนอนเล่นอย่าให้ตกใส่หน้าฝากละกัน
• เคสจับกระชับดีมาก
• ใส่แล้วดูหล่อสุด ๆ ดูมีพลัง
• น้ำหนักเยอะกว่าเคสกันกระแทกทั่วไป อย่าง UAG, Mous ประมาณ 2 เท่า
• เคสนี้เหมาะสำหรับการออกไปใช้งานภาคสนามและกิจกรรมที่หนักหน่วง

ส่วนที่ต้องระวังมากที่สุดมองว่าเป็นเรื่องของสกรูที่หัวค่อนข้างหลวมได้ง่าย ถ้าออกแรงมากเกินไปหัวหกเหลี่ยมนั้นจะหมุนไม่ได้ส่งผลให้ถอดเคสไม่ได้อันนี้ต้องระวังกันหน่อยนะครับ

ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย

สำหรับผู้ที่สนใจ Element Case Black OPS สามารถสั่งซื้อหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซด์ Vgadz.com ราคาจัดจำหน่าย

• Element Case Black OPS’18 สำหรับ iPhone X, XS, XS Max และ XR ราคาอยู่ที่ 7,990 บาท 
• Element Case Black OPS Elite’18 สำหรับ iPhone X, XS, XS Max และ XR ราคาอยู่ที่ 8,490 บาท 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Website: www.vgadz.com/
INBOX: m.me/elementcasethailand
Tel : 081-170-3446
Line: https://line.me/R/ti/p/%40vgadz

• Facebook
• X
• LINE