Apple ได้ปล่อย iOS 15.4 Beta มาพร้อมฟีเจอร์ ใช้ Face ID ขณะใส่หน้ากากอนามัย มาให้ทดสอบ แต่ก็มีข้อมูลบางประเด็นที่ผู้ใช้ควรทราบ ก่อนที่ Apple จะปล่อยให้ใช้งาน
สิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับฟีเจอร์ใช้ Face ID ขณะใส่หน้ากากอนามัย ของ iOS 15.4
1. หลักการทำงานของฟีเจอร์ใช้ Face ID ขณะใส่หน้ากากอนามัย
ระบบจะจดจำพื้นที่รอบ ๆ ดวงตาเพื่อใช้ยืนยันตัวตน (แบบเดิมคือจำทั้งใบหน้า) นั่นหมายความว่าในการสแกนหน้า Face ID ตอนที่ใส่หน้ากากอนามัยนั้น ผู้ใช้ต้องมองที่ iPhone
2. ใช้ปลดล็อค iPhone, ยืนยันตัวตนของแอปต่าง ๆ ได้
นอกจากจะใช้สแกนหน้าเพื่อปลดล็อค iPhone ได้แล้ว ฟีเจอร์ใช้ Face ID ขณะใส่หน้ากากอนามัย ก็ยังสามารถใช้สแกนหน้าเพื่อยืนยันตัวตนในแอปต่าง ๆ ได้ เช่น ยืนยันการเข้าใช้งานแอป เป็นต้น
3. ใช้สแกนหน้าตอนใส่แว่นใส หน้ากากอนามัยได้ แต่สแกนผ่านแว่นกันแดดไม่ได้
ในการตั้งค่าใช้ Face ID ขณะใส่หน้ากากอนามัยนั้น จะมีตัวเลือกเพิ่มเติมให้ผู้ใช้ที่ใส่แว่นใส แว่นสายตา สามารถสวมแว่นแล้วสแกนเพิ่มได้ แต่ยังไม่รองรับแว่นกันแดด คาดว่ามาจากตัวแว่นกันแดดที่เป็นสีทึบบดบังพื้นที่รอบดวงตา จึงไม่สามารถสแกนใบหน้าช่วงบนได้นั่งเอง
4. รองรับเฉพาะ iPhone 12, iPhone 13 ส่วน iPad Pro ยังไม่รองรับ
ณ ตอนนี้ ฟีเจอร์ใช้ Face ID ขณะใส่หน้ากากอนามัย ยังรองรับเฉพาะ iPhone รุ่นใหม่ ๆ อย่าง iPhone 12 ขึ้นไป (iPhone 12, iPhone 12 mini, iPhone 12 Pro, iPhone 12 Pro Max, iPhone 13, iPhone 13 mini, iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max) ไม่รองรับ iPhone รุ่น Face ID เก่า ๆ
ส่วน iPad Pro นั้น ถึงแม้ว่าจะมี Face ID แต่ก็ไม่รองรับาการใช้ฟีเจอร์นี้แต่อย่างใด ต้องลุ้นกันต่อไปว่า iPhone รุ่น Face ID เก่า ๆ รวมถึง iPad จะได้ใช้ฟีเจอร์นี้ในตัวทดสอบเวอร์ชันถัดไปหรือไม่
5. iOS 15.4 ตอนนี้เป็น Beta อยู่
สำหรับ iOS 15.4 Beta ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใช้ Face ID ขณะใส่หน้ากากอนามัยนั้น ตอนนี้ยังเป็นเวอร์ชันทดสอบ Beta ตัวแรกอยู่ คาดว่าหลังจากนี้ยังจะมี Beta อื่น ๆ ปล่อยให้อัปเดตออกมาอีก ซึ่งอาจมีการปรับปรุงการใช้งานเพิ่มเติมได้
วิธีตั้งค่า ใช้ Face ID ขณะสวมใส่หน้ากากอนามัย | iOS 15.4 Beta
ชมคลิป