Samsung Galaxy S24 Series เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วในงาน Galaxy Unpacked 2024 รอบนี้เปิดตัวออกมา 3 รุ่น จะมีไฮไลท์อะไรน่าสนใจบ้าง ไปชมกันเลย
สรุปเปิดตัว Galaxy S24 Series ทั้ง 3 รุ่น มีอะไรใหม่ ชมสรุปสเปคที่นี่!
ซัมซุงจัดงาน Galaxy Unpacked 2024 โดยใช้ชื่องาน Galaxy AI เมื่อวันที่ 18 มกราคม เวลาตี 1 “Galaxy AI is here” รอบนี้พูดได้เต็มปากว่า ซัมซุงก้าวเข้าสู่นวัตกรรม AI Phone แบบเต็มตัว ซึ่งเปิดตัวมาพร้อมกับ Galaxy S24 Series ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ Galaxy S24, Galaxy S24+, Galaxy S24 Ultra
Galaxy AI is here
ซุมซุงก้าวเข้าสู่ยุคของมือถือ AI แบบเต็มตัวกับ Galaxy S24 Ultra นิยามใหม่ AI Phone ที่จะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น สร้างสรรค์ได้มากขึ้น จัดการทุกอย่างได้ง่ายขึ้น ด้วยพลังจาก Galaxy AI โดยมีไฮไลท์ฟีเจอร์เด่น ดังนี้
Circle to Search
อยากรู้อะไรก็แค่วง แล้วกดค้นหาได้ทันที จะใช้ปากกา S Pen หรือใช้นิ้วมือวาดวงกลมล้อมรอบก็ได้ จะเป็นตอนที่เล่นโซเชียล ค้นหาเสื้อผ้า สถานที่ หรือร้านอาหาร เพียงแค่วงสิ่งที่อยากรู้ หลังจากนั้นผลการค้นหาบน Google ก็จะแสดงขึ้นมาทันที ต่อไปนี้เราก็จะได้คำตอบโดยไม่ต้องออกจากหน้าฟีดโซเชียล หรือแอปที่เล่นอยู่เลย
Live Translate
ฟีเจอร์นี้จะทลายทุกกำแพงภาษา และเปิดประสบการณ์ให้เราสามารถพูดคุยกับชาวต่างชาติในหลายๆ ภาษาได้ด้วยฟังก์ชัน Live Translate ซึ่งเป็นตัวช่วยแปลภาษาระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถสื่อสารกันได้อย่างไร้ขอบเขต และยังใช้กับการพิมพ์แชทแปลภาษาแบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย
Note Assist
ตัวช่วยสรุปข้อความใน Samsung Note ได้ในพริบตาด้วย AI ไม่ว่าจะจดบันทึกหรือสรุปข้อความ แค่กดปุ่ม Summarize และยังสามารถกดแปลภาษาได้ด้วย
Photo Assist
ภาพที่ถ่ายจาก Galaxy S24 สามารถปรับเปลี่ยนมุม ปรับขนาด หรือแต่งภาพ ได้ง่ายกว่าเดิมด้วย AI หากภาพที่ไปถ่ายมาแล้วยังไม่ถูกใจ ยังไม่เพอร์เฟค รอบนี้ไม่ต้องออกไปถ่ายใหม่ให้ยุ่งยากเลยแค่ใช้ AI ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการย้ายวัตถุ ปรับความตรง หรือใช้ AI Generate เติมพื้นที่ว่างบนภาพก็สามารถทำได้ เรียกได้ว่า ครบ จบ ในมือถือเครื่องเดียวจริงๆ
Galaxy S24 Ultra
ตัวท็อปสุด รอบนี้เปลี่ยนดีไซน์หน้าจอใหม่ไปใช้ จอแบน (Flat Screen) ตามที่ผู้ใช้หลายคนร้องขอ ไม่ต้องเจอปัญหาติดฟิล์มหน้าจออีกต่อไป ขอบหน้าจอก็ปรับใหม่ให้มีความสมมาตรมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขอบบน ล่าง ซ้าย ขวา ก็มีขนาดเท่ากัน
สเปคจอให้มาเท่าเดิม ขนาด 6.8″ ใช้หน้าจอแบบ Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด 3120 x 1440 (Quad HD+) Refresh Rate 120 Hz ส่วนที่เพิ่มเติมคือให้ความสว่างหน้าจอมาเป็น 2,600 nits อัปเกรดจากรุ่นเดิมเยอะมาก ไม่ต้องมาเพ่งหน้าจอระหว่างใช้งานกลางแจ้งอีกต่อไป
วัสดุกระจกใช้เป็น Corning Gorilla Armor ส่วนกรอบเครื่องรอบนี้ถือเป็นไฮไลท์เด่น เพราะเปลี่ยนไปใช้วัสดุไทเทเนียมที่ให้ความแข็งแรงทนทานเพิ่มขึ้น 56% และด้วยความที่กรอบเครื่องปรับให้มีความเหลี่ยมจากรุ่นเดิมจึงทำให้จับถือได้ถนัดมือมากขึ้น มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำและฝุ่นที่ระดับ IP68
ปากกา S-Pen ยังมีมาให้เหมือนเดิมในตัวสามารถ เขียน แตะ และลากเพื่อสั่งการบนหน้าจอแบนราบได้อย่างแม่นยำตามต้องการ
ชิปเซ็ต Galaxy S24 Ultra อัปเกรดไปใช้ Sapdragon 8 Gen 3 ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เพราะโดยปกติแล้วสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ก็จะได้อัปเกรดไปใช้ชิปรุ่นใหม่ด้วย โดยรอบนี้ซัมซุงเน้นเรื่อง NPU มีประสิทธิภาพเร็วขึ้น 41%, GPU เร็วขึ้น 30% และ CPU เร็วขึ้น 20%
เรื่องกล้องมีอัปเกรดขึ้นเล็กน้อยจากรุ่นเดิม โดยกล้องหลังเลนส์ Telephoto ให้ความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น 50MP ซูม 5X, 10MP ซูม 3X ส่วนกล้องหลักความละเอียด 200MP เท่าเดิม, กล้อง Ultra-Wide 12MP และกล้องหน้า 12MP และมี ProVisual Engine ทำให้การถ่ายภาพในตอนกลางคืนชัดเจนขึ้น
แบตเตอรี่ให้มาเท่าเดิม 5,000 mAh ใช้งานได้ยาวนานทั้งวัน ดูวิดีโอได้สูงสุด 30ชม. และฟังเพลงได้มากสุด 95ชม. พร้อมกับอัปเกรด RAM มาให้เป็น 12GB ทั้ง 3 รุ่นความจุ ดังนี้
- RAM 12GB | 256GB
- RAM 12GB | 512GB
- RAM 12GB | 1TB
Galaxy S24 Ultra ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบด้วย OneUI 6.1 มาพร้อมสีใหม่ 4 สี ได้แก่ Titanium Black, Titanium Gray, Titanium Violet, Titanium Yellow
และสีพิเศษสำหรับการสั่งซื้อออนไลน์บนหน้าเว็บไซต์ของ Samsung ได้แก่ Sapphire Blue, Jade Green, Sandstone Orange
Galaxy S24 | S24+
ดีไซน์ของ S24 และ S24+ ยังคงใช้ดีไซน์คล้ายเดิม โดยขอบเครื่องจะมีความเหลี่ยมมากขึ้น คล้ายรุ่นพี่อย่าง S24 Ultra ไม่มีความโค้งมนเหมือน S23, S23+ แล้ว ส่วนพื้นผิวตัวเครื่องก็ยังเรียบเนียน ทำให้ถือได้สบายมือขึ้น
และหน้าจอรอบนี้ทั้ง 2 รุ่นก็อัปเกรดให้มีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย โดยตัว S24 ขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 6.2” ความละเอียด 2340 x 1080 (FHD+) ส่วน S24+ ใหญ่ขึ้นเป็น 6.7” ความละเอียด 3120 x 1440 (Quad HD+) ใช้หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ส่วน Refresh Rate ปรับเป็น 1-120 Hz ทั้งหมด ความสว่างอัปขึ้นสูงสุด 2,600 nits เหมือนกัน
ใช้กระจก Gorilla Glass Victus 2 รุ่นใหม่ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ขอบเครื่องใช้วัสดุ Armor Aluminum มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ที่สเปคยังเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า ได้แก่
- กล้อง Wide 50MP
- กล้อง Ultra-Wide 12MP
- กล้อง Telephoto 10MP (3x Optical Zoom)
- กล้องหน้า 12MP
Galaxy S24 | S24+ เปลี่ยนไปใช้ชิป Exynoss 2400 ทั้ง 2 รุ่น ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบด้วย OneUI 6.1 จากทาง Samsung
แบตเตอรี่ได้รับการอัปเกรดขึ้นมาจากรุ่นก่อนหน้าทั้งตัว S24 และ S24+ โดยมีขนาดแบตเตอรี่ดังนี้
- Galaxy S24 ความจุแบตเพิ่มขึ้น 4,000 mAh
- Galaxy S24+ ความจุแบตเพิ่มขึ้น 4,900 mAh
สเปค RAM มีให้เลือก ดังนี้
Galaxy S24
- RAM 8GB | 256GB
- RAM 8GB | 512GB
Galaxy S24+ อัปเกรด RAM เพิ่มขึ้น
- RAM 12GB | ROM 256GB
- RAM 12GB | ROM 512GB
Galaxy S24, S24+ มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Onyx Black, Marble Gray, Cobalt Violet, Amber Yellow และสีพิเศษสำหรับการสั่งซื้อออนไลน์บนหน้าเว็บไซต์ของ Samsung ได้แก่ Sapphire Blue, Jade Green, Sandstone Orange
ราคา Galaxy S24 Series
ปัจจุบัน Samsung Galaxy S24 Series เปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้วตั้งแต่วันที่ 18 – 25 ม.ค. 2567 และจะเปิดขายหน้าร้านวันที่ 31 ม.ค. 2567 มีรายละเอียดราคา ดังนี้
Galaxy S24
- 8GB | 256GB : 33,900
- 8GB | 512GB : 37,900
Galaxy S24+
- 12GB | 256GB : ฿38,900
- 12GB | 512GB : ฿43,900
Galaxy S24 Ultra
- 12GB | 256GB : ฿46,900
- 12GB | 512GB : ฿52,900
- 12GB | 1TB : ฿62,900
ใครที่พรีออเดอร์เครื่องกันไปแล้วก็อย่าลืมมองหาฟิล์มกระจกกันรอยหน้าจอเตรียมกันไว้ด้วยนะ เพื่อการปกป้องหน้าจอเครื่องใหม่ของเราให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น และไม่เกิดความกังวลระหว่างการใช้งานด้วย อย่างฟิล์มกระจกกันรอย Focus 3D UV Nano Glass ตัวนี้ แนะนำเลยสำหรับ Galaxy S24 Ultra โดยเฉพาะ
เป็นกระจกกันรอยเต็มหน้าจอ แบบใสไร้ขอบสีลงโค้งถึงสุดขอบ แข็งแรงระดับ 9H ป้องกันรอยขีดข่วน คมชัดระดับ HD สีสันสดใส สีไม่เพี้ยน รองรับการใช้งานกับ S-Pen ขีดเขียนแค่ไหนก็ไม่เป็นรอยบนจอ สแกนนิ้วได้ไว ไม่มีหน่วง รุ่นนี้ใช้กาว UV คุณภาพสูง ติดแล้วแนบสนิท ขอบไม่เด้ง ลอกออกแล้วไม่มีคราบกาว ใช้งานได้กับทุกเคส รับประกัน 180 วัน เคลมได้ทุกกรณีเลย ในราคา 1,590 บาท
ถัดมาอีกรุ่น เหมาะสำหรับคนที่ชอบสัมผัสแบบบางพิเศษ ไม่หนาจนเกินไป ต้องนี่เลย Focus Full Frame Ultra Slim รุ่นนี้มีรองรับ Galaxy S24 ทุกรุ่น ด้วยความที่กระจกบางพิเศษทำให้สแกนนิ้วบนจอได้ไว กันรอยขีดข่วนได้ถึงระดับ 9H มั่นใจทุกการใช้งาน ตัวกระจกเต็มจอปกป้องถึงขอบจอ ฝุ่นไม่เข้า ติดตั้งเองได้ง่ายที่บ้าน แถมฟรีฟิล์มหลังหลังเครื่องป้องกันรอยขีดข่วน ในราคาเพียง 490 บาท คุ้มสุดๆ
ส่วนใครท่ีอยากปกป้องแบบรอบเครื่องจริงๆ ตั้งแต่กระจกหน้า กระจกหลัง ไปจนถึงเลนส์กล้อง ต้องนี่เลย Focus Perfect Clear Ring รองรับ Galaxy S24 ทุกรุ่น ทั้งกันกระแทก กันรอยขีดข่วน เลนส์ใสสมจริง ให้ภาพคมชัด เรียบเนียนไปกับหน้าจอ เหมือนไม่ได้ติด รองรับการใส่เคสทุกรุ่น ราคาเริ่มต้น 490 บาท ไปหาซื้อกันได้เลยที่เว็บไซต์ focusshield.com หรือหาซื้อได้ที่ตัวแทนจําหน่ายท่ัวประเทศ และร้าน Focus Store ทุกสาขา