Galaxy Z Fold5 สมาร์ตโฟนจอพับรุ่นใหม่ของ Samsung วันนี้ทีมงานมารีวิวประสบการณ์ใช้งานจากคนไม่เคยใช้สมาร์ตโฟนจอพับให้ชมกัน
รีวิว Galaxy Z Fold5 จากคนที่ไม่เคยใช้จอพับมาก่อน ใช้แล้วเป็นไงบ้าง?
ไฮไลท์สเปค
- หน้าจอภายนอก 6.2” HD+ Dynamic AMOLED 2X
- หน้าจอภายใน 7.6” QXGA+ Dynamic AMOLED 2X
- จอสว่างสุด 1,750 nits รีเฟรชเรท 120Hz
- วัสดุตัวเครื่อง Gorilla Glass Victus 2, ขอบเครื่อง Armor Aluminum
- ชิป Snap Dragon 8 Gen 2 for Galaxy
- ทนน้ำทนฝุ่น IPX8
- กล้องหลัก 50MP + Ultrawide 12MP + Telephoto 10MP
- กล้องหน้า 10MP, UDC 4MP
- RAM 12GB
- ความจุ 256GB, 512GB, 1TB
- แบตเตอรี่คู่ 4,400 mAh, Fast Charge 25W, Wireless 15W
- Android 13, One UI 5.1.1
จอพับแนบสนิทจริงไหม?
Galaxy Z Fold5 มาพร้อมเทคโนโลยีบานพับแบบ Flex Hinge ทำให้เวลาพับหน้าจอแนบสนิททั้งสองฝั่ง ไม่มีช่องว่างระหว่างหน้าจอเกิดขึ้น เมื่อเทียบกับ Galaxy Z Fold4 จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน เรียกได้ว่ารอบนี้ Samsung พัฒนาหน้าจอออกมาได้ดีเลยทีเดียว
เมื่อทดสอบลองนำมาหนีบกระดาษ ถือว่ายังหนีบได้อยู่ นั่นหมายความว่าหน้าจอ Galaxy Z Fold5 แนบสนิท รวมถึงได้ลองเอาเหรียญหรือบัตรมาสอดที่หน้าจอด้วย พบว่าไม่สามารถสอดได้ ขณะที่ Galaxy Z Fold4 มีช่องว่างระหว่างหน้าจอ
จอในใหญ่สะใจ ดูคอนเทนต์เต็มตา
จอแสดงผลหลักด้านในมีขนาด 7.6″ มาพร้อมความสว่างสูงสุด 1,750 nits, Refresh Rate 120Hz เวลาดูคอนเทนต์ต่าง ๆ เล่นโซเชียล ดูยูทูป ดูหนัง เห็นภาพได้ใหญ่เต็มตา ส่วนเรื่องของสีก็คมชัดสดใสเหมือนเดิมตามสไตล์ซัมซุง
จอนอกใช้งานได้ดีไม่แพ้กัน
จอนอกขนาด 6.2″ อัตราส่วนขนาด 21.6:8 ทำให้เวลาใช้งานมือเดียวทำได้สะดวกขึ้น นิ้วมือเอื้อมแตะได้ถึงทุกพื้นที่ของหน้าจอ แต่ข้อเสียคือเวลาใช้แป้นพิมพ์อาจต้องเล็งนิ้วนิดนึง เพราะอัตราส่วนแคบทำให้แป้นพิมพ์มีขนาดเล็กลงไปด้วย
ใช้งานต่อเนื่องไม่มีสะดุด
ซัมซุงออกกแบบมาให้ Galaxy Z Fold5 สามารถใช้งานระหว่างจอนอกและจอในได้อย่างต่อเนื่องแบบไม่มีสะดุด เช่น เปิดดูยูทูปในหน้าจอใหญ่ เมื่อพับจอลงแอปยูทูปก็จะมาแสดงผลต่อที่หน้าจอนอกเลย
ใช้งานแอปทั่วไปรองรับจอใหญ่ด้วย
การใช้งานแอปโซเชียลต่าง ๆ สามารถแสดงผลได้เตฌฒหน้าจอทั้งแนวตั้งและแนวนอน แต่จะมีบางแอป เช่น แอป LINE จะปรับการแสดงผลให้ใกล้เคียงกับการใช้บนแท็บเล็ตมากขึ้น
Multi Tasking ทำอะไรได้เยอะ
สามารถใช้งานแอปได้พร้อมกันสูงสุด 3 แอป โดยการใช้งานแบบ Multi Window สามารถใช้งานหลายแอปพร้อมกันแบบลื่นไหล ไม่มีสะดุด จะทำงานด้านเอกสาร ลากวางไฟล์ก็สามารถทำได้ง่ายๆ และแถบแอปด้านล่างรองรับการแสดงแอปได้สูงสุด 12 แอป ส่วนแถบ panel ด้านข้างรองรับการแสดงผลสูงสุด 22 แอป
การใช้งานแบบ Flex Mode
Flex Mode ถือเป็นจุดเด่นของซัมซุงเลยทีเดียวที่สามารถใช้งาน Flex Mode แทนขาตั้งกล้อง หรือใช้ในเรื่องการทำงานให้สะดวกมากยิ่งขึ้นได้ โดยหน้าจออีกฝั่งจะเปลี่ยนเป็น Touch Pad ใกล้เคียงกับการใช้เรียกได้ว่า
รองรับ S Pen
ข้อดีของการรองรับ S Pen ก็คือสามารถใช้ประโยชน์จากหน้าจอใหญ่ของ Galaxy Z Fold5 ได้อย่างเต็มที่ จะจดโน้ตสำคัญ แบบเร่งด่วนเวลาอยู่นอกสถานที่ก็สามารถทำได้เลย แล้วยิ่งในตอนนี้ Galaxy Z Fold5 รองรับการใช้งานแอป GoodNotes ด้วย จึงทำให้ Galaxy Z Fold5 ตอบโจทย์การทำงานได้ครอบคลุมสุดๆ
แต่ S Pen ของ Galaxy Z Fold5 จะต้องซื้อเพิ่ม ไม่มีแถมแยกมาให้กับตัวเครื่อง
Flex Cam เพิ่มฟีเจอร์ใหม่
กล้องของตัว Galaxy Z Fold5 ยังคงใช้สเปคเหมือนกับรุ่นก่อนหน้าเลย โดยมีกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก 50MP + กล้อง Telephoto 10MP + กล้อง Wide 12MP ส่วนกล้องหน้าให้มา 10MP และ กล้อง UDC 4MP
มาพร้อม Dual Preview ที่สามารถใช้กล้องหลังถ่ายรูปไปพร้อมกับการเห็นตัวเองในขณะที่ถ่ายได้ด้วย
จุดเด่นอื่นๆ ของตัว Galaxy Z Fold5 ยังมีอีกเยอะมากหากใครอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปชมคลิปรีวิวเพิ่มได้เลยที่ช่อง YouTube : iMoD Ofiicial
ราคา