Google ยอมจ่ายเงิน 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ($3 Billion) หรือคิดเป็นเงินไทยมีค่าเท่ากับ 99,921,964,933.50 บาท ตีเป็นตัวเลขกลมๆ ก็เกือบ 1 แสนล้านบาทให้กับทาง Apple เพื่อขอให้ Google Search ตั้งค่าเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นในระบบ iOS
ปี 2014 จ่ายเพียง 1 พันล้าน แต่ปีนี้โดดไป 3 พันล้านเหรียญ
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 ทาง Google จ่ายเงินให้ Apple เพียง 1 พันล้านเหรียญแต่มาปีนี้ 2017 จำนวนที่จ่ายนั้นเพิ่มมากขึ้นมาอยู่ที่ราวๆ 3 พันล้านเหรียญเพื่อให้ Google Search ถูกตั้งเป็นค่าเริ่มต้นในระบบ iOS ที่เราได้ใช้งานกันใน Safari นั่นแหละ เวลาที่ป้อนคำค้นหา คำเหล่านั้นก็จะถูกส่งป้อนเข้าใน Google Search เลย นั่นแหละคือสิ่งที่ Google ต้องการ
นักวิเคราะห์รายงานว่ารายได้ของ Google Search ปี 2014 อยู่ที่ 16,000 ล้านเหรียญเทียบกับ 2017 มีรายได้ประมาณ 50,000 ล้านเหรียญทำให้ยอดที่จะต้องจ่ายให้ทาง Apple ก็น่าจะเพิ่ม 3 เท่าเช่นกัน
Google จ่ายหนักขนาดนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
แน่นนอนว่า เงิน เงิน เงิน ที่ Google ต้องจ่ายออกไปถึง 3 พันล้านเหรียญนั้นเพิ่มมากขึ้นเทียบกับปี 2014 ถึง 3 เท่านั้นและจำนวนเงินนี้เทียบเป็น 5% ของรายได้ที่ทาง Apple หาได้จากบริการต่างๆ (Operation Services) อย่าง iCloud, Apple Music และค่าธรรมเนียมที่เก็บได้จากการขายแอปบน App Store
ข้อดีที่ทาง Google จะได้จากดีลครั้งนี้การเป็นระบบค้นหาเริ่มต้นในอุปกรณ์ iOS ที่มีมากกว่า 1,200 ล้านอุปกรณ์ (นี่นับเฉพาะ iPhone ที่ขายได้แล้ว)โดยข้อมูลเผยว่ารายได้ว่า 50% จาก Google Mobile Search มาจากอุปกรณ์ iOS ถ้า Google ไม่คว้าส่วนนี้เอาไว้อาจจะทำให้รายได้นั้นขาดหายไป อีกทั้งเป็นการป้องกันคู่แข่งระบบค้นหาอื่นๆ เข้ามาแทนที่ได้อีกด้วย
สถานการณ์เช่นนี้ถือว่าได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่ายคือ Google และ Apple
มีความเป็นไปได้ที่ Apple จะมีรายได้จากค่าลิขสิทธิ์เพิ่มมากขึ้นอีกเท่าตัว
นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้อีกว่าทาง Apple มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างมูลค่าจากการเก็บค่าลิขสิทธิ์เพิ่มเติมจากผู้ผลิตแอปที่ต้องการให้แอปของตนเองนั้นเข้ามาเป็นแอปพื้นฐานที่มาพร้อมกับ iOS เลย เช่น แอปแชทยอดฮิตอย่าง WeChat vs. LINE, โซเชี่ยลเน็ตเวิร์กอย่าง Facecook vs. SnapChat หรือ Twitter, แอปเรียกรถอย่าง Uber vs. Lyft, แอปขายของออนไลน์อย่าง Amazon vs. Jet.com หรืออย่างเช่นแผนที่ Google Maps vs. Mapquest ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้และสามารถสร้างรายได้ให้ Apple เพิ่มขึ้นอีกมหาศาล (อย่าคิดเพียงว่าขายเครื่องได้น้อยกว่าแล้วแพ้คู่แข่งที่ขายเครื่องได้มากกว่าเท่านั้น)
ขอบคุณข้อมูลจาก Businessinsider