HatYai4G ผมนั่งคิดอยู่นานว่าจะเขียนเรื่องนี้ดีไหม? แต่เมื่อเป็นประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ บวกกับช่วงนี้เปิดตัว iPhone 6s, 6s Plus นักหิ้วและร้านหน้าใหม่จึงเกิดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เลยอยากเอาเรื่องนี้มาเป็นบทเรียนกรณีศึกษาให้ทุกคนได้อ่านกัน
HatYai4G เป็นร้านเล็ก ๆ ที่ขายสมาร์ทโฟนออนไลน์แห่งหนึ่ง (อยู่หาดใหญ่ตามชื่อ) โดยการให้บริการจะเป็นแบบไม่มีหน้าร้าน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร สำหรับพ่อค้า-แม่ค้ามือใหม่ที่ต้องการลดต้นทุน การซื้อขายดำเนินไปได้ดีนับปีและเป็นที่ถูกใจหลายคน เนื่องจาก “มีราคาที่ถูกกว่าเครื่องศูนย์ค่อนข้างมาก” และประเทศมาเลเซียมักจะมีเครื่องสเปคพิเศษที่ไม่มีขายในไทย และเป็นที่ต้องการของหลายคน (เช่น รองรับสองซิม)
ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีเนื่องจากเจ้าของร้าน “เน้นขายปริมาณโดยเอากำไรน้อย” และได้รับการบอกต่ออย่างรวดเร็ว คะแนนรีวิวใน Facebook สูงถึง 4.1 ดาว (ลูกค้ากว่า 720 รีวิว)
จนเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ร้านเริ่มไม่ส่งของ และยังมีการรับออเดอร์ใหม่อยู่เรื่อย จนทำให้หลายคนเริ่มไม่พอใจและคิดว่าจะถูกโกง จึงมีการสร้างกลุ่มลูกค้า พูดคุยปัญหาจากร้าน HATYAI 4G ซึ่งรวบรวมผู้เสียหายที่แสดงตัวได้กว่า 60 คน ยังไม่นับที่ยังไม่แสดงตัวอีกเป็นร้อย และมีการตั้งกระทู้ถามถึงใน Pantip อยู่บ่อยครั้ง
การชี้แจงล่าสุดและเป็นเพียงครั้งเดียวของทางร้าน ผ่านทาง Fanpage ระบุอย่างสั้น ๆ จากทีมงาน (ซึ่งเป็นลูกจ้างอยู่ที่กรุงเทพ) เพียงแค่ว่าสินค้าอาจแค่ล่าช้า … แต่หลายคนกลับรู้สึกว่าการล่าช้าของรอบนี้ มันไม่เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา และสุดท้ายทางร้านก็หนีปัญหาด้วยการ ปิดมือถือ
ผู้เสียหายหลายคนลงทุนไปดูหน้าร้านด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นหน้าร้านและศูนย์กระจายสินค้าแห่งเดียวในกรุงเทพฯ หรืออาจเรียกว่าเป็นแห่งเดียวในประเทศก็ว่าได้ ปรากฎว่าไม่พบทรัพย์สินที่มีค่าของร้านอยู่แล้ว ตู้โชว์และสิ้นค้าทั้งหมดหายไป (ดูจากรูปเห็นแค่ตุ๊กตา) ซึ่งไล่เรียงสรุปได้ดังนี้
- ลูกจ้างบอกว่าไม่สามารถติดต่อเจ้าของที่หาดใหญ่ได้
- ลูกจ้างเริ่มหยุดงานเพราะคิดว่าสิ้นเดือนอาจไม่ได้เงินเดือน
- ลูกจ้างบอกว่ามีการขนสินค้าออกจากหน้าร้าน (โดยเพื่อนหรือหุ้นส่วนเจ้าของร้าน)
- ทางเจ้าของสถานที่ระบุว่าร้านนี้ค้างค่าเช่ามาหลายเดือนแล้วเช่นกัน
แทบจะสรุปได้ 99.99% เลยว่าอาการแบบนี้โกงแน่นอน แต่สุดท้ายแล้วทุกคนก็เริ่มหาต้นตอว่า “แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้น และเจ้าของที่แท้จริงไปไหน” บางคนสันนิฐานว่า อาจเพราะมีการเปลี่ยนเจ้าของใหม่, โดนโกงจากหุ้นส่วน, หมุนเงินไม่ทัน, ตั้งใจโกงอยู่แล้ว ฯลฯ
แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุผลอะไรก็ตาม คนที่โอนเงินสั่งซื้อไปในล็อตล่าสุดและล็อตก่อนล่าสุด ล้วนแต่ไม่ได้สินค้าแทบทั้งสิ้น (แต่มีรายงานว่าลูกค้าบางรายก็ได้พัสดุส่งสินค้ามาถึงบ้านจำนวน 2-3 ราย) และที่สำคัญคือมีลูกค้าที่ส่งเครื่องเคลมกว่า 8 เดือนแล้วยังไม่ได้เครื่องคืน !!!
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
เล่ามาเสียยาวอันที่จริงอ่านแค่ตรงนี้ก็ได้ ธุรกิจหิ้วมือถือหรือพรีออเดอร์เกือบทั้งหมดล้วนเป็นสีเทาจนเกือบดำ เนื่องจากไม่ได้มีการนำเข้าอย่างถูกต้อง ที่สำคัญคือเกือบทั้งหมดไม่เสียภาษี เมื่อไม่ได้่ทำเป็นหลักเป็นแหล่ง พอมีปัญหาจึงแทบจะไม่สามารถตามตัวใครมารับผิดชอบได้
บางทีเราอาจต้องคิดว่าการเลือกซื้อเครื่องหิ้วราคาถูก แท้จริงแล้วมันคุ้มจริงหรือ?