ก่อนหน้านี้ทีมงานได้รีวิวกระจกกันรอยสำหรับ iPhone X ให้ชมกันไปแล้วหากใครยังไม่ได้อ่านก็ลองไปอ่านข้อมูลก่อนนะครับ ส่วนรีวิวรอบนี้จะมาแนะนำว่า iPhone X ของเราเนี่ยควรติดกระจกกันรอยแบบไหนดี จะเลือกแต่ละแบบมันดียังไง พร้อมทั้งจะอัปเดตกระจกกันรอยรุ่นที่ 2 ของ 3D Super Strong Max ให้ฟังกันด้วยนะครับ รีวิวกันรอยแบบไหนเหมาะกับ iPhone X และกระจกกันรอยเต็มจอกันฝุ่นมาแล้ว
ว่าด้วยเรื่องของกระจกกันรอยสำหรับ iPhone X นั้นจะมีให้เลือก 2 แบบคือ แบบเต็มจอและแบบไม่เต็มจอ
- แบบเต็มจอ จะมีให้เลือก 1 สีคือสีดำ เมื่อติดตั้งแล้วจะเต็มหน้าจอและบังส่วนที่โค้งของจอเอาไว้
- แบบไม่เต็มจอ จะเป็นสีใสติดแล้วจะไม่คลุมส่วนที่โค้งและจะมีรอยบากที่แบ่งไว้บริเวณลำโพงด้านบน(บางยี่ห้อจะทำรอยบอกไว้ในส่วนของกล้องหน้า TrueDepth ไว้เลย)
ต่อไปจะมาดูว่าข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบนั้นเป็นยังไง
ข้อดีข้อเสียของกระจกแบบเต็มจอ vs. ไม่เต็มจอ
ข้อดี/เสีย ของกระจกกันรอยแบบเต็มจอ
ข้อดีสวยงามติดแล้วคลุมส่วนของจอด้วยทำให้ขอบของจอโดนปกป้องจากรอยที่จะเกิดขึ้นได้
- ติดแล้วดูผ่านๆ เหมือนไม่ได้ติดฟิล์ม ทำให้งานดูเรียบร้อย
- ไม่มีขอบโผล่ขึ้นมาทำให้ swipe ที่ด้านล่างจอเพื่อกลับโฮมนั้นไม่มีอะไรมาขวางนิ้วให้เสียอารมณ์
- ทำความสะอาดง่ายบริเวณด้านหน้าของกระจก
- แข็งแรงทนทาน
- ติดตั้งกับเคสจะทำให้ไม่มีช่องว่างระหว่างเคสกับกระจก
ข้อเสีย
- ฝุ่นเข้าที่ใต้กระจกบริเวณขอบทำให้ดูไม่สวยงามและเสี่ยงต่อการทำงานที่ผิดพลาดของกล้องหน้าและ Face ID ถ้ากระจกรุ่นนั้นไม่ได้ออกแบบมาเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว
- ขอบกระจกมีโอกาสแตกง่ายกว่ารุ่นที่ไม่เต็มจอถ้ากระจกที่นำมาผลิตนั้นไม่ได้คุณภาพหรือแข็งแรงเพียงพอ
- ราคาสูงกว่ารุ่นไม่เต็มจอ
- กระจกแบบเต็มจอบางรุ่นจะใช้งานร่วมกับเคสบางตัวไม่ได้ เนื่องจากเคสนั้นจะดันฟิล์มกระจกให้เกิดเป็นฟองอากาศ
ข้อดี/เสีย ของของกระจกกันรอยแบบไม่เต็มจอ
ข้อดีกระจกใสไม่จำเป็นต้องทำกระจกเป็นสีๆ
- ฝุ่นไม่ซ่อนอยู่ที่กระจก
- ราคาถูกกว่ารุ่นเต็มจอ
- พื้นที่ของกระจกที่ติดลงจอทุกส่วนถูกติดบนจอทั้งหมดจะไม่มีส่วนที่บังพื้นที่การแสดงผลของจอ
- ทำความสะอาดง่ายทั้งบนกระจกและขอบกระจก
- ใช้งานได้กับทุกเคสเนื่องจากเคสนั้นจะไม่ดันถึงขอบกระจกอย่างแน่นอน
ข้อเสีย
- ไม่คลุมส่วนโค้งของจอทำให้ขอบจอมีโอกาสที่จะเป็นรอยได้
- ไม่สวยเท่าแบบเต็มจอ เมื่อเวลามองแล้วจะเห็นเด่นชัดว่าเครื่องนี้ติดกระจกกันรอยอยู่
- ขอบล่างของกระจกจะขัดๆ กับนิ้วตอนที่ตวัดขอบจอล่างเพื่อกลับหน้าโฮมในบางจังหวะ
- ขอบกระจกคมในบางยี่ห้อสามารถทำอันตรายต่อนิ้วได้
จะเลือกกระจกกันรอยแบบไหนดี?
การเลือกกระจกกันรอยนั้นจะมีหลายปัจจัย เช่น ราคา ความสวยงามและคุณภาพของกระจก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งานว่าจะเลือกแบบไหนที่เหมาะที่สุดสำหรับเรา ถ้าใครอยากประหยัด, ขอบกระจกไม่แตกง่ายและไม่อยากมีปัญหากับการใช้งานร่วมกับเคสก็แนะนำให้เลือกกระจกชนิดไม่เต็มจอไปเลย ส่วนใครที่มีทุนพอสมควร ต้องการความสวยงามเรียบร้อยให้กับ iPhone X และต้องการการป้องกันรอบด้านก็เลือกฟิล์มที่แบบเต็มจอ แต่อย่างไรก็ตามฟิล์มกระจกแบบเต็มจอสำหรับ iPhone X ต้องเลือกรุ่นที่สามารถป้องกันฝุ่นเข้ากระจกด้วยจะดีที่สุด ไม่เช่นนั้นปัญหาที่จะตามมานั้นก็ไม่จบ เช่น กล้องหน้าไม่ชัดหรือรอยฝุ่นที่เห็นแล้วมันช่างดูสกปรกไม่สวยงามเอาซะเลย
รีวิวกระจกกันรอย Hi-Shield 3D Super Strong Max รุ่นปรับปรุง ป้องกันฝุ่นเข้าใต้กระจกได้แล้ว
ข้อมูลทางเทคนิคของกระจกนิรภัยกันรอย Hi-Shield 3D Super Strong Max รุ่นใหม่ล่าสุดเพื่อการปกป้อง iPhone X
- ตัวกระจกผลิตจาก Corning Gorilla Glass จาก USA
- กระจกหนา 0.33 มม. มาตรฐาน
- มาพร้อมเทคโนโลยี Hydrofluoric ที่เพิ่มความเเข็งแกร่งขึ้น 2 เท่า (2X ShatterProof) ผ่านการอบ Tempered กว่า 6 ชั่วโมง
- ผ่านการทดสอบด้วยการปล่อยลูกตุ้มเหล็ก หนัก 64 กรัมจากความสูง 140 ซม. กระจกยังคงสามารถปกป้องหน้าจอจากแรงกระแทกได้อย่างไร้ริ้วรอย !!! (ชมคลิป)
- พื้นผิวเคลือบด้วยสาร Oleophobic เข้มข้น ที่ช่วยลดรอยนิ้วมือ และคราบมัน ได้มากกว่า
- หน้าจอสัมผัสลื่นแค่ปลายนิ้วกันรอยขีดข่วนได้มากขึ้น
- ให้ภาพคมชัดระดับ HD 98%
- เพิ่มความเเข็งแรงบริเวณ “ขอบกระจก” (Strong-edge) ให้รับแรงกระแทกมากกว่า กระจก 3D ทั่วไป กดที่ขอบแรงๆ ไม่ทำให้ขอบกระจกแตก
- หน้าจอสวยเนี้ยบติดเข้ารูปขอบโค้ง 3D เหมือนกับจอ iPhone จับแล้วไม่คมบาดมือ
- ป้องกันฝุ่นเข้าบริเวณเหนือเซนเซอร์ต่างๆ ได้ดีขึ้น ชมคลิปรีวิวได้จากด้านล่าง
แกะกล่อง
อุปกรณ์ที่มีในกล่อง
- กระจกนิรภัยกันรอย 3D Super Strong Max 1 ชิ้น สีดำสำหรับ iPhone X
- ฟิล์มพลาสติกกันรอยด้านหลังแบบใส ติดเนียนไม่มีฟองอากาศที่ Apple โลโก้
- ผ้าไมโครไฟเบอร์คุณภาพสูงสำหรับเช็ดทำความสะอาด
- กระดาษแอลกอฮอล์แบบเปียกเช็ดคราบหน้าจอก่อนติดตั้งกระจก
- สติกเกอร์ดูดเม็ดฝุ่นใช้ติดเม็ดฝุ่นออกก่อนติดตั้งกระจก
- ชมขั้นตอนการติดตั้งกระจกคลิกที่นี่
จุดเด่นของรุ่นใหม่นี้อยู่ที่การเพิ่มระบบกันฝุ่นไม่ให้เข้าที่ใต้กระจกบริเวณเหนือลำโพงบนของตัวเครื่องจึงช่วยป้องกันฝุ่นได้ดีขึ้น ซึ่งอาการดังกล่าวจะพบบ่อยเมื่อใส่ iPhone X เข้าที่กระเป๋ากางเกง ถ้ารุ่นไหนที่ไม่มีการป้องกันเพียงติดเสร็จแล้วใช้กระดาษทิชชู่เช็คบริเวณดังกล่าวฝุ่นก็จะเข้าไปสะสมแล้ว อันนี้ต้องเลือกให้ดี
ภาพหลังติดตั้งกระจก 3D Super Strong Max และผ่านการใช้งานมาประมาณ 4 วัน ยังไร้ฝุ่นที่บริเวณเหนือลำโพง
กระจกรุ่นนนี้สามารถใช้งานกับเคสกันกระแทกอย่าง UAG และเคสจาก Apple ได้โดยที่เคสไม่ดันกระจก
ทดสอบรุ่นนี้กันฝุ่นได้จริงไหม?
ทดสอบโดยการใช้แป้งเด็กเทลงในถุงพลาสติกจากนั้นใส่ iPhone X ที่ติดตั้งกระจกกันรอย 3D Super Strong Max รุ่นใหม่เข้าไปแล้วเขย่าพบว่าแป้งไม่เข้าที่บริเวณใต้กระจกเหนือลำโพงด้านบนแล้ว ชมตัวอย่างตามคลิปได้เลย หลังจากแกะออกมาสภาพก็จะเป็นแบบนี้ จะเห็นว่ามีคราบแป้งจริงแต่ว่าจะโดนเทปกาวดักเอาไว้ไม่ให้ผ่านเข้าในช่องดังกล่าวนั่นเอง
ทดสอบกล้องหน้าใช้งานได้ชัดเจนปกติ ทดสอบกับ FaceID ก็สามารถใช้งานได้ผ่านปกติเช่นกันครับ ส่วนเรื่องความแข็งและการกันรอยสามารถดูที่คลิปต่อไป รีวิวกระจกกันรอย Hi-Shield HD แบบไม่เต็มจอสำหรับ iPhone X
มาดูรุ่นที่ไม่เต็มจอกันบ้างครับ Hi-Shield ก็มีให้เลือกซื้อเหมือนกัน นี่คือกล่องของรุ่นนี้ สติกเกอร์ติดหน้ากล่องจะเป็นสีม่วงและเขียนกำกับไว้ว่า HD High Definition เป็นกระจกใสความคมชัดระดับ HD ติดตั้งแล้วไม่บดบังจอหรือลดความสวยงามของจอ iPhone X อุปกรณ์ที่มีให้ในกล่อง
- กระจกนิรภัยกันรอย HD 1 ชิ้น แบบใสสำหรับ iPhone X
- ฟิล์มพลาสติกกันรอยด้านหลังแบบใส ติดเนียนไม่มีฟองอากาศที่ Apple โลโก้
- ผ้าไมโครไฟเบอร์คุณภาพสูงสำหรับเช็ดทำความสะอาด
- กระดาษแอลกอฮอล์แบบเปียกเช็ดคราบหน้าจอก่อนติดตั้งกระจก
- สติกเกอร์ดูดเม็ดฝุ่นใช้ติดเม็ดฝุ่นออกก่อนติดตั้งกระจก
หลังติดตั้งด้านบนจะเว้นช่องลำโพงเอาไว้เพื่อการสนทนาและในส่วนของกล้องหน้า TrueDepth นั้นจะถูกปิดทับด้วยกระจกใสซึ่งระบบกล้องหน้าและ Face ID ก็ยังใช้งานได้อย่างปกติไม่พบปัญหาแต่อย่างใด ที่ขอบของกระจกนั้นจะเท่ากับขนาดของส่วนแสดงผลบนจอพอดี ซึ่งส่วนนี้ผมคิดว่าน่าจะทำล้ำออกมาอีกสักนิดน่าจะสวยขึ้น
ด้านล่างติดแล้วออกมาได้ดังนี้ครับ ตัวขอบกระจกเท่าที่ลองใช้งานมีความมนน้อยกว่ารุ่น 3D Super Strong Max
- การใช้งานร่วมกับเคสสามารถใช้ได้ทุกไร้ไม่มีปัญหา
- FaceID ใช้ได้ปกติ
- กล้องหน้าใช้ได้ปกติ
- กันรอยนิ้วมือได้ดี
ราคาของรุ่นนี้อยู่ที่ 690 บาท
สรุป
Hi-Shield 3D Super Strong Max รุ่นนี้(ล็อตผลิตเดือน 12/2017) ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพเรื่องการกันฝุ่นไม่ให้เข้าไปใต้จอเป็นที่เรียบร้อยแล้วหากใครกังวลเรื่องฝุ่นเข้าใต้จอก็หายห่วงได้เลย การใช้งานร่วมกับเคสอย่าง UAG ก็บอกเลยว่าใช้ได้สบายไม่ดันฟิล์ม
ข้อควรพิจารณ์กระจกกันรอยมีโอกาสแตกได้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับมุมที่ตกกระทบซึ่งจะแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ Hi-Shield 3D Super Strong Max มีการรับประกันกระจกแตกให้นาน 6 เดือน
ในส่วนของฟิล์มไม่เต็มจอนั้นการจะหมดห่วงเรื่องฝุ่นและราคาประหยัด ใช้งานร่วมกับเคสได้ทุกรุ่นแต่ที่มีส่วนขอบกระจกล่างที่นิ้วเราอาจจะปัดไปโดนจุดนั้นเท่านั้นเอง
ซื้อกระจกกันรอย 3D Super Strong Max แถมประกันฟิล์ม 6 เดือน
www.hishieldgadget.com ได้
ราคาและสถานที่จัดจำหน่ายและโปรโมชั่น
- 3D Super Strong Max สำหรับ iPhone X = 1,490 บาท
- Facebook : https://goo.gl/6hhV4N
- Inbox Facebook : https://goo.gl/VZmxrK
- Line@: https://goo.gl/moNSKn
- IG : hishieldgad
หมายเหตุโปรโมชั่นสอบถามผ่านหน้าเพจหรือช่องทางออนไลน์ของ Hi-Shield ได้โดยตรง