กำลังร้อนแรงสำหรับสมรภูมิฟิล์มกันรอยสำหรับ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus นั้นตอนนี้เริ่มมีทางเลือกที่หลากหลายออกมาให้ได้เห็นกันบ้างแล้วทั้งนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้ใช้งานที่มีตัวเลือกสินค้าที่มากขึ้น รอบนี้ขอพามาดูแบรนด์ที่ชื่อว่า HiShield กันครับ
กระจกนิระภัยหรือว่ากระจกกันรอยหลายคนคงจะได้ยินมาแล้วแหละแต่อาจจะเข้าใจผิดว่ามันติดแล้วจะไม่มีทางทำให้จอ iPhone แตก ขอบอกก่อนเลยว่า “ไม่ใช่อย่างนั้น!”
กระจกนิระภัยดีอย่างไร?
สิ่งที่ทำให้กระจกนิระภัย(กระจกกันรอย) ได้รับความนิยมนั้นสรุปได้ดังนี้
- ความทนทาน ด้านกันรอยขีดข่วนได้ดีกว่ามากเมื่อเทียบกับแผ่นฟิล์มพลาสติกทั่วไป
- ดูดซับแรงกระแทกได้ดีกว่า เช่น มีวัตถุแข็งหนักพอประมาณตกใส่จอ ถ้าฟิล์มธรรมดาอาจจะแตกได้ใน 2-3 ครั้ง แต่กระจกกันรอยนั้นอาจจะต้อง 7-10 ครั้งเป็นต้น
- อายุการใช้งานที่นานกว่า
- ความสะดวกในการสัมผัสหรือทัชหน้าจอนั้นกระจกจะทำได้ดีกว่า
- ความสวยงามที่มากกว่า
- ทำความสะอาดได้ง่ายกว่า
และอย่างที่บอกไปว่าหลายคนเข้าใจว่า “ติดกระจกกันรอยแล้วหน้าจอจะไม่แตก” ขอบอกครับว่าผิด จอมันแตกได้อยู่แล้วถ้าตกในมุมที่พอเหมาะหรือถูกทับด้วยน้ำหนักอันเกินกว่าที่จะจกจอจะรับแรงดันนั้นไหว แต่มันจะช่วยลดความเสียหายได้ดีกว่านั่นเอง
เอาหละ! กระโดดมาดูตัว HiShiled ตัวนี้ดูบ้างว่ามันน่าสนใจยังไง
คุณสมบัติที่โดดเด่นของ HiShiled
- HiShiled เป็นฟิล์มกระจกที่สามารถตัดแสงสีฟ้าจากแหล่งที่มีการปล่อยแสง Blue Light (คลื่นแสงพลังงานสูง ที่มีความยาวคลื่น 400-500 นาโนเมตร) ซึ่งหากได้รับมากๆในระยะเวลาต่อเนื่องนานๆนั้น อาจส่งผลทำให้เซลล์จอประสาทตาเสื่อม
- ป้องกันรอยขีดข่วนระดับสูง ด้วยความแข็งระดับ 9H และรองรับแรงกระแทกได้
- การเคลือบด้วยเทคโนโลยี Oleophobic & Hydrophobic Coating สามารถป้องกันคราบรอยนิ้วมือและป้องกันการจับตัวของหยดน้ำได้ดีเยี่ยม
- ความหนา 0.33mm พร้อมการผลิตอย่างคุณภาพ ทำให้พอดีกับขอบของโทรศัพท์รุ่นนั้นๆได้ดีมาก
- ผิวสัมผัสกระจกที่ลื่นเสมือนไม่ได้สะดุด
- การติดตั้งที่ทำได้ง่าย สามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน
แกะกล่อง HiShield
สิ่งที่มาให้ในกล่องได้แก่
- แผ่นกระจกกันรอย
- ชุดทำความสะอาดหน้าจอแบบเปียกเป็นแผ่นกระดาษชุบแอลกอฮอล์
- ผ้าเช็ดจอคุณภาพละเอียดมากๆ เพิ่งเคยเห็นแบรนด์แรกที่ให้มาแล้วไม่อยากทิ้งเลย เอาไว้ใช้เช็ดจอหรือแว่นยังได้
- แผ่นสีฟ้าเป็นสติกเกอร์สำหรับการดึงฝุ่นออก
การติดตั้งก็ไม่ได้ยากแต่ขอเน้นดังนี้
- ต้องเช็ดจอให้สะอาดขั้นแรกเช็ดด้วย Alcohol Prep Pad เสียก่อนเพื่อกำจัดคราบไขมันและรอยสกปรกให้ออกจากหน้าจอ
- ใช้ผ้าเช็คให้สะอาดจนมั่นใจว่าไม่มีฝุ่น
- ใช้สติกเกอร์สีฟ้าที่ให้มาด้วยทำการดึงเศษฝุ่นและรอยนิ้วมือออกถ้ายังเหลืออยู่
- ขณะติดกระจกถ้า iPhone หน้าจอดำให้กดปุ่มโฮมด้วยเพื่อให้เห็นขอบจอจะได้ติดตรง
- ติดตรงแล้วค่อยรีดฟองอากาศออกให้เรียบ
หลังติดตั้งเสร็จจะได้ดังนี้
กระจกนั้นจะเป็นแบบใสทั้งแผ่นจะติดปิดบริเวณรอบจอเท่านั้นจะไม่ได้คลุมถึงส่วนโค้งของจอ และที่เด่นอีกจุดคือบริเวณปุ่มโฮมนั้นขอบจะมนเข้ารูปค่อนข้างสวยเลย
ช่วงทดสอบ
HiShield แจ้งไว้ว่าลดรอยนิ้วมือ, ลดการเกาะตัวของหยดน้ำ, กันรอยขีดข่วนและการกระแทก ทีมงานขอทดสอบแบบโหดๆ ให้ดูแล้วกันนะครับมีทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ
เริ่มที่กันรอยนิ้วมือ
ภาพบน รอยนิ้วมือบนจอ iPhone 6 vs. ภาพล่าง กระจก HiShield
ถามว่าเป็นรอยไหม? ตอบได้ว่าเป็นเหมือนกันนะแต่น้อยกว่าเท่านั้นเอง
เรื่องของหยดน้ำ
ภาพบน รอยนิ้วมือบนจอ iPhone 6 vs. ภาพล่าง กระจก HiShield เอาจริงๆ แล้วก็ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่เพราะจอ iPhone 6 มันก็กลมดิ๊กอยู่ละ
การกันรอยขีดข่วนและกันกระแทกดูที่วีดีโอได้เลย
กันรอยทำได้ดีเยี่ยมทนต่อคมมีดคัตเตอร์, กุญแจเหรียญต่างๆ ได้อย่างสบายส่วนเรื่องกันกระแทกนั้นถือว่าทำได้ดีเช่นกัน รับน้ำหนักจากวัตถุหนักประมาณ 110 กรัม ตกจากที่สูงระดับ 30 ซม. ทนได้ 7-10 ครั้งกว่ากระจกแตก
สรุปผลการทดสอบ
ส่วนที่ชื่นชอบสำหรับ HiShield คือ
- การติดฟิล์มที่ทำได้ดีโค้งมนและไม่บาดมือเพียงแต่ยังไม่เต็มจอเท่านั้น
- มีเทคโนโลยี Blue Light Cut ที่ช่วยถนอมสายตาได้ด้วย
- วัสดุดีจากประเทศญี่ปุ่น
- ทีมบริหาร HiShield เจ้าของเดียวกับฟิล์ม Hi-Kool ในรถยนต์ ซึ่งมีประสบการณ์ทางด้านนี้อยู่แล้วก็เพิ่มความน่าเชื่อถือได้ดีอีกระดับหนึ่ง
ส่วนที่ยังไม่ให้ใจเต็ม 100 ไปก็คือเรื่องติดไม่เต็มจอนี่แหละผมเลยให้คะแนนที่ 8/10 ครับผม ถ้าใครอยากได้ฟิล์มแบบแบบใส่และไม่เต็มจอผมแนะนำตัวนี้เพราะได้ทั้งการตัดแสง Blue Light ด้วย ซึ่งว่ากันจริงๆ ฟิล์มกระจกนั้นราคาอยู่ในช่วง 700-1000 บาทแล้วแต่ยี่ห้อ(ที่ไม่ใช่แบรนด์ No Name นะ) เลือกตัวนี้ผมถือว่าคุ้ม
เป็นเจ้าของ HiShield ได้ที่ไหนบ้าง?
HiShield มีฟิล์มหลายแบบนอกจากของ iPhone นะ สำหรับรุ่นอื่นๆ ก็มีเช่นกัน ตัวที่รีวิวนี้ราคาอยู่ที่ 890 บาท หาซื้อได้ที่
iStudio
- iStudio by Copper Wired สาขา J-Avenue ทองหล่อ ชั้น G
- iStudio by Copper Wired สาขา Saimparagon ชั้น 3
- iStudio by Copper Wired สาขา Central World ชั้น 3
- iStudio by Copper Wired สาขา Siam Discovery ชั้น 4
- iStudio by Copper Wired สาขา Digital Gateway ชั้น G
- iStudio by Copper Wired สาขา Silom Complex ชั้น 3
- iStudio by Copper Wired สาขา Central พระราม 3 ชั้น 2
- iStudio by Copper Wired สาขา The Circle ราชพฤกษ์ ชั้น G
- iStudio by Copper Wired สาขา Amorini ชั้น 2
- iStudio by Copper Wired สาขา All Season Place ชั้น G
- iStudio by Copper Wired สาขา Park Venture ชั้น 2
- iStudio by Copper Wired สาขา United Center 3
- iStudio by Copper Wired สาขา Central Embassy
- iStudio by Copper Wired สาขา Asiatique ชั้น G
- iStudio Copper Wired สาขา Portochino ชั้น 1
- iStudio by Copper Wired สาขา The Scene ทาวน์อินทาวน์ ชั้น 2
.Life
- .Life by Copper Wired สาขา Siam Paragon
- .Life by Copper Wired สาขา Central World
- .Life by Copper Wired สาขา Central พระราม 3
- .Life by Copper Wired สาขา Central พิษณุโลก
- .Life by Copper Wired สาขา Rainhill
- .Life by Copper Wired สาขา Central พระราม 9
- .Life by Copper Wired สาขา Mega Bangna
- .Life by Copper Wired สาขา Promenade
Up2U
- ร้าน Up2U สาขา Fashion Island ชั้น 3 โซนตรงข้าม Banana IT
- ร้าน Up2U สาขา Fashion Island ชั้น 3 ตรงข้าม ช็อป Samsung
- ร้าน Up2U สาขา Fashion Island ชั้น 3 ตรงข้ามทางเข้า Robinson
- ร้าน Up2U สาขา Central แจ้งวัฒนะ ชั้น 4
- ร้าน Up2U สาขา Paradise Park ชั้น 2
ข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ : www.hishieldgadget.com Facebook : Hishield ฟิล์มกันรอย และ Instagram : hishieldgadget