in Review

รีวิว HOLLYLAND LARK M1, C1 ไมโครโฟนไร้สาย ตัวเล็ก น้ำหนักเบา เสียงมีคุณภาพ

โดย Nooknick Yanika 22/02/2023, 14:39 2K Views

ใครที่กำลังมองหาไมโครโฟนไร้สายเพื่อใช้ในการถ่ายทำวิดีโอ, vlog แบรนด์ HOLLYLAND ถือว่าเป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่น่าสนใจ จุดเด่นคือสินค้าของเขามีน้ำหนักเบา ขนาดเล็ก คุณภาพเสียงดี วันนี้ทีมงาน iMoD จะมารีวิวไมโครโฟนไร้สาย HOLLYLAND รุ่น LARK M1 และ Lark C1 ให้ได้ชมกัน บอกเลยว่าเด็ด!

รีวิว HOLLYLAND LARK M1, C1 ไมโครโฟนไร้สาย ตัวเล็ก น้ำหนักเบา เสียงมีคุณภาพ

รู้จักแบรนด์ Hollyland

หลายคนอาจยังไม่รู้จักแบรนด์ Hollyland จะพามารู้จักแบรนด์นี้แบบคร่าว ๆ ก่อน Hollyland เป็นแบรนด์จากประเทศจีน บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์จำพวกตัวส่งมูลไร้สาย, วิดีโอ,โซลูชั่นการส่งสัญญาณเสียง รวมถึงผลิตภัณฑ์ HDMI และผลิตภัณฑ์อินเตอร์คอม

จุดเด่นของแบรนด์นี้คือเทคโนโลนีและอุปกรณ์ไร้สาย ผลิตภัณฑ์ที่ทำออกมาขายค่อยข้างมีคุณภาพสูง ดังนั้นอุปกรณ์ของแบรนด์นี้จึงเหมาะกับมืออาชีพ และคนทั่วไปก็ใช้ได้เช่นกัน

สิ่งที่จะมารีวิวให้อ่านกันก็คือไมโครโฟนไร้สาย 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่

ไมโครโฟนไร้สาย HOLLYLAND LARK M1(Duo) – ใช้ได้กับกล้องและมือถือ (รองรับบางรุ่น เช็คที่นี่ : https://shorturl.asia/rCAbc)
ไมโครโฟนไร้สาย HOLLYLAND LARK C1(Duo) – ใช้ได้กับอุปกรณ์ iOS เช่น iPhone, iPad โดยเฉพาะ มีรุ่นที่รองรับสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์ให้เลือกซื้อด้วย (รองรับบางรุ่น เช็คที่นี่ : https://shorturl.asia/cMRp2)

ไมโครโฟนไร้สาย HOLLYLAND LARK M1 และ Lark C1

จุดเด่นของไมโครโฟนไร้สายทั้งสองรุ่น

มี HearClear Noise Cancellation ช่วยลดเสียงรบกวน
เชื่อมต่อง่าย และรวดเร็ว
ระยะการเชื่อมต่อสูงสุด 200 เมตร
ใช้งานต่อเนื่องสูงสุด 20 ชั่วโมง
ไมโครโฟนขนาดเล็ก น้ำหนักเบา หนาเพียง 1 ซม.

อุปกรณ์ในกล่อง HOLLYLAND LARK M1

ไมโครโฟนหรือ Transmitter (ตัวส่งสัญญาณ) 2 ชิ้น (ได้ 2 ชิ้นเพราะเป็นรุ่น Duo)
Receiver (ตัวรับสัญญาณ) 1 ชิ้น
Charging Case (กล่องชาร์จ) 1 ชิ้น
กระเป๋าเก็บกล่องชาร์จ) 1 ชิ้น
Furry Windshield (อุปกรณ์ลดเสียงลม) 2 ชิ้น
ขั้วสัญญาณไมค์ (TRS) 3.5มม. ถึง TRS 3.5มม. (ใช้งานกับกล้อง) 1 ชิ้น
สายสัญญาณแปลงเข้ากล้องและมือถือ (TRRS) 3.5มม. ถึง TRS 3.5มม. (ใช้งานกับโทรศัพท์มือถือ) 1 ชิ้น
สาย USB-A to USB-C (สายสำหรับชาร์จกล่องชาร์จ) 1 ชิ้น
คู่มือการใช้งาน (ภาษาอังกฤษ) 1 ชิ้น
ใบรับประกับสินค้า 1 ชิ้น

อุปกรณ์ในกล่อง HOLLYLAND LARK C1

ไมโครโฟนหรือ Transmitter (ตัวส่งสัญญาณ) 2 ชิ้น (ได้ 2 ชิ้นเพราะเป็นรุ่น Duo)
Receiver (ตัวรับสัญญาณ) ที่มาพร้อมพอร์ต Lightning 1 ชิ้น (สำหรับเสียบที่พอร์ตของ iPhone, iPad)
Charging Case (กล่องชาร์จ) 1 ชิ้น
กระเป๋าเก็บกล่องชาร์จ) 1 ชิ้น
Furry Windshield (อุปกรณ์ลดเสียงลม) 2 ชิ้น
สาย USB-A to USB-C (สายสำหรับชาร์จกล่องชาร์จ) 1 ชิ้น
คู่มือการใช้งาน (ภาษาอังกฤษ) 1 ชิ้น
ใบรับประกับสินค้า 1 ชิ้น

ประสบการณ์การใช้งาน

ต้องบอกก่อนว่า โดยรวมแล้ว ทั้งรุ่น LARK M1 และ LARK C1 เหมือนกันแทบทุกอย่าง ต่างกันแค่ตัวรับ รุ่น LARK M1 จะมีตัวรับที่ใช้งานได้กับกล้องและมือถือ ส่วน LARK C1 จะมีตัวรับที่ใช้เสียบเข้ากับพอร์ต Lightning ใน iPhone และ iPad

ด้วยความที่ทั้งสองรุ่นเป็นแบบ Duo (มีไมค์ 2 ตัว และตัวรับ 1 ตัว) สามารถใช้กับผู้พูดได้ 2 คน ในโหมดสเตอริโอ แต่หากผู้พูดมีคนเดียวก็สามารถเปิดใช้งานโหมด Mono ได้

💡วิธีเปิดใช้งานโหมด Mono แบบใช้ไมค์ตัวเดียว : กดปุ่ม M/- ค้างไว้ 5 วินาที ให้สังเกตุที่ตัวรับสัญญาณว่าไฟที่แสดงมีสีที่แตกต่างกันหรือยัง

ส่วนฟีเจอร์และสเปคอื่น ๆ เหมือนกันทั้งสองรุ่น

ความประทับใจแรกหลังจากที่ได้สัมผัส คือ น้ำหนักเบา และขนาดของไมค์ที่เล็กกะทัดรัด เพราะตัวไมค์มีความหนาเพียง 1 ซม. เท่านั้น ดีไซน์ก็สวยงาม ดูเข้ากับเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้ง่าย

ตัวหนีบติดกับเสื้อใช้งานง่าย หนีบติดกับเสื้อผ้าได้จริง

บริเวณตัวรับเสียงจะอยู่ด้านบน มีรูเล็ก ๆ เพื่อให้เสียงของเราลอดเข้าไปและช่วยกรองเสียงรบกวนจากภายนอกได้ระดับหนึ่ง

ด้านล่างจะมี Charging Contact ที่เป็นเหล็กอยู่ 2 จุด เอาไว้ดูดติดและชาร์จไฟในกล่องชาร์จ และหากไม่ชาร์จจากกล่องชาร์จเราสามารถชาร์จตัวไมค์โดยเสียบสาย USB-C ก็ได้ เพราะเขามีพอร์ต USB-C มาให้ด้วย

ปุ่ม Power ใช้เปิด/ปิด ส่วนปุ่มด้านล่างเป็นปุ่มเชื่อมต่อ และเป็นปุ่มสำหรับฟีเจอร์ HearClear Noise Cancelling

โดยรวมแล้วใช้งานง่าย แค่นำออกมาจากเคสชาร์จก็สามารถใช้งานได้เลย ไม่ต้องปรับจูนอะไรมากมาย

เวลาที่นำไมค์ไปหนีบติดกับเสื้อก็รู้สึกว่าไม่ได้มีน้ำหนักเยอะ ไม่ถ่วงคอเสื้อจนย้วย ถ้าหากใส่เสื้อผ้าสีดำก็กลมกลืนได้ค่อนข้างดี ดูไม่รกสายตา (จริง ๆ แล้วมีให้เลือกซื้อหลายสี)

สาย Vlog ที่ถ่ายฟุตเทจผ่านกล้องมือถือน่าจะถูกใจรุ่น C1 เพราะตัวรับสัญญาณมีขนาดเล็ก เสียบเข้าไปที่พอร์ต Lightning ของ iPhone ได้เลย

💡จุดเด่นของรุ่น Lark C1 : เมื่อถ่ายวิดีโอเสร็จ ผู้ใช้สามารถเปิดดูฟุตเทจพร้อมฟังเสียงในวิดีโอที่ถ่ายโดยไม่ต้องดึงตัวรับออก

เรื่องของแบตเตอรี่ สามารถใช้งานได้สูงสุด 8 ชม. หากเราชาร์จแบตไว้เต็ม และใช้ได้ 20 ชม. รวมเคสชาร์จ เรียกได้ว่าใช้งานได้เกือบทั้งวัน เพียงพอต่อการถ่ายทำและทำคอนเท้นต์วิดีโอแน่นอน