Apple Watch เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ติดตามการเคลื่อนไหวและการออกกำลังกายและบันทึกข้อมูลต่างๆ มาเก็บไว้ เพื่อให้ผู้ใช้ได้ทราบ และถ้าหากคุณต้องการ Apple Watch วัดการเคลื่อนไหวและออกกำลังกายได้แม่นยำที่สุด รับชมวิธีดังต่อไปนี้ได้เลย
รวมวิธีที่จะทำให้ Apple Watch วัดการเคลื่อนไหวและออกกำลังกายได้แม่นยำที่สุด
1. อัปเดตข้อมูลส่วนตัวให้ตรง
ข้อมูลส่วนตัวของเรา อย่างเช่นส่วนสูง น้ำหนัก เพศ และอายุ เป็นข้อมูลจำเป็นที่ Apple Watch จะต้องนำไปใช้ในการคำนวณการเผาผลาญแคลอรี่ ดังนั้นเราควรอัปเดตข้อมูลส่วนตัวในตรงอยู่เสมอ เพื่อการคำนวณที่ถูกต้องและแม่นยำ โดยเฉพาะน้ำหนักตัวที่มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างบ่อย ชมวิธีอัปเดตน้ำหนักได้ที่นี่
2. ตรวจสอบการรับแต้มการออกกำลังกาย
เราจะได้รับแต้มการออกกำลังกาย (วงแหวนสีเขียว) ก็ต่อเมื่อร่างกายมีการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างหนักหน่วงมากกว่าการเดินเร็วในเวลาหนึ่งนาทีเต็ม วงแหวนสีเขียวถึงจะนับเป็นการออกกำลังกายเป็น 1 นาที
แต่ถ้าการเคลื่อนไหวช้ากว่าการเดินเร็วหรือไม่มีความหนักหน่วงพอ Apple Watch จะนับเป็นเพียงการเคลื่อนไหว (วงแหวนสีแดง) เท่านั้น
หากคุณต้องการรับแต้มการออกกำลังกายขณะเดิน แนะนำปล่อยแขนข้างสวมใส่ Apple Watch ให้แกว่งไปมาตามธรรมชาติ หรือจะใช้วิธีการเปิดแอปออกกำลังกายร่วมด้วยก็ได้
ถ้าหาลองทำกิจกรรมที่หนักหน่วงหรือใช้งานร่วมกับแอปออกกำลังกายเป็นเวลา 1 นาทีเต็ม แล้ววงแหวนสีเขียวมีการอัปเดต ก็แสดงว่าการวัดการออกกำลังกายทำงานปกติ
3. เปิดการตรวจจับข้อมือ
ถ้าคุณปิดการตรวจจับข้อมือ Apple Watch จะไม่สามารถติดตามความคืบหน้าของการยืน (วงแหวนสีฟ้า) ได้ เนื่องจากการอ่านอัตราการเต้นของหัวใจในเบื้องหลังจะไม่ทำงานหากปิดการตรวจจับข้อมือไว้
แนะนำให้เปิดการตรวจจับข้อมือ โดยไปที่แอป Watch บน iPhone > แตะ รหัส (Passcode) > เปิด การตรวจจับข้อมือ (Wrist Detection)
4. ตรวจสอบความพอดี
การสวมใส่ Apple Watch ให้กระชับข้อมือระหว่างออกกำลังกาย จะช่วยให้เซ็นเซอร์การวัดอัตราการเต้นของหัวใจทำงานได้ดีและวัดได้แม่นยำ
ก่อนเริ่มต้นออกกำลังกาย แนะนำให้ปรับสาย Apple Watch ให้พอดีกับข้อมือ ไม่รัดแน่นหรือใส่หลวมจนเกินไป และเมื่อออกกำลังกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็คลายสายให้สบายข้อมือขึ้นได้
5. เปิดการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
ในระหว่างที่ออกกำลังกาย เราต้องเปิดการทำงานของเซ็นเซอร์การวัดอัตราการเต้นของหัวใจเอาไว้ เพื่อให้การวัดและคำนวณทำได้ถูกต้องและแม่นยำ สิ่งที่คุณจะต้องตรวจสอบเกี่ยวกับการทำงานของเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวในมีดังนี้
- ปิดโหมดประหยัดพลังงาน ไปที่แอป Watch บน iPhone > ออกกำลังกาย (Workout) > ปิดโหมดประหยัดพลังงาน (Power Reserve Mode)
- เปิดอัตราการเต้นของหัวใจ ไปที่แอป Watch บน iPhone > ความเป็นส่วนตัว (Privacy) > เปิด อัตราการเต้นของหัวใจ
6. เลือกประเภทการออกกำลังกายให้เหมาะสมตามจริง
ในแอปออกกำลังกาย (Workout) มีประเภทการออกกำลังกายมากมายให้ผู้ใช้เลือกให้เหมาะสมกับการออกกำลังกายจริง เช่น ถ้าคุณต้องวิ่งบนลู่ในยิม ก็เลือกประเภทการออกกำลังกายเป็นวิ่งในร่ม หรือถ้าดูแล้วการออกกำลังกายไม่ได้อยู่ในรายการให้เลือก ก็สามารถเลือกเป็นประเภทอื่นๆ ได้
7. ปรับเทียบ Apple Watch
การปรับเทียบ Apple Watch จะช่วยปรับปรุงความแม่นยำในการวัดการออกกำลังกายและกิจกรรมให้ดีมากขึ้น อาจจะทำหลังจากที่ใช้ Apple Watch เป็นเวลานาน หรือหลังจากอัปเดตข้อมูลน้ำหนัก มีวิธีดังนี้
- เปิดปรับเทียบการเคลื่อนไหวและระยะทาง ไปที่ การตั้งค่า (Settings) บน iPhone > ความเป็นส่วนตัว (Privacy) > บริการหาตำแหน่งที่ตั้ง (Location Services) > บริการของระบบ (System Service) > ปรับเทียบการเคลื่อนไหวและระยะทาง (Motion Calibration & Distance)
- รีเซ็ตข้อมูลการปรับเทียบ ไปที่แอป Watch บน iPhone > ความเป็นส่วนตัว (Privacy) > รีเซ็ตข้อมูลการปรับเทียบความแม่นยำ (Reset Fitness Calibration Data)
- ปรับเทียบ Apple Watch โดยการสวมใส่ Apple Watch ไปวิ่งหรือที่ในที่ราบกลางแจ้งเป็นเวลา 20 นาที โดยความเร็วการวิ่งหรือเดินต้องสม่ำเสมอ
และนี่ก็เป็นวิธีที่ Apple Support ได้แนะนำไว้สำหรับการเพิ่มความแม่นยำในการวัดค่าต่างๆ ระหว่างเคลื่อนไหวและออกกำลังกาย ซึ่งยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบในการวัด เช่น รอยสักที่บดบังเซ็นเซอร์ ปริมาณเลือดที่ไหลเวียนผ่านผิวหนัง เป็นต้น ก็ลองนำไปพิจารณาประกอบการใช้งานดูนะคะ
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- วิธีแก้ปัญหา Apple Watch วัดอัตราการเต้นของหัวใจคลาดเคลื่อน ขณะออกกำลังกาย
- Apple Watch ไม่วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate) ต้องตรวจสอบอย่างไรบ้าง
ขอบคุณ Apple