in ,

28 วิธี เพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบน MacBook

ใครที่ใช้งาน MacBook อยู่เคยตรวจสอบพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่มีอยู่บน Mac กันบ้างหรือเปล่า ? วันนี้ทีมงานมีวิธีที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่ว่างบน MacBook มาฝากกัน ไปชมเลย

ตรวจสอบพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบน MacBook

ก่อนอื่นเราต้องเข้าไปเช็คพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบน MacBook ของเราก่อน เพราะบางครั้งเวลาที่เราดาวน์โหลดแอป รูปภาพ วิดีโอ หรือไฟล์ต่าง ๆ ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ก็อาจจะทำให้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนเครื่องของเราเต็มเร็วได้

ให้ไปที่ปุ่มโลโก้  มุมบนซ้าย > เลือก About This Mac

จากนั้นเลือก Storage ก็จะมีหน้าต่างแสดงแถบเก็บข้อมูลบนเครื่อง Mac เปิดขึ้นมาแสดงรายละเอียดของเนื้อหาข้อมูลต่าง ๆ ที่จัดเก็บไว้ใน Mac และถ้าเราเอาเมาส์ไปชี้ที่สีต่าง ๆ บนแถบ ก็จะมีป๊อปอัพแสดงชื่อที่มาของข้อมูล เช่น เอกสาร, ไฟล์, แอป, ขยะ, macOS และรูปภาพ

30 วิธี เพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบน MacBook

1. ลบไฟล์ขนาดใหญ่ที่ไม่จำเป็นออก

เราสามารถค้นหาและลบไฟล์ขนาดใหญ่บน Mac ของเราได้ โดยทำตามขั้นตอน ดังนี้

1. คลิกปุ่มโลโก้  > เลือก About This Mac
2. คลิก Storage > คลิก Manage > ไปที่แถบด้านซ้าย เลือกเมนู Document หรือ เอกสาร
3. เมื่อเข้าไปแล้วจะเห็นไฟล์เรียงตามลำดับ โดยไฟล์ที่ใหญ่ที่สุดจะอยู่ด้านบน
4. การดูขนาดไฟล์ ให้คลิกเลือกไฟล์แล้วดูขนาดไฟล์ด้านขวามือ และสามารถดูตำแหน่งของไฟล์ได้โดยคลิกที่เมนู “Show in Finder” ด้านล่างซ้าย
5. ถ้ารู้ว่าไฟล์ไหนที่มีขนาดใหญ่แล้วไม่จำเป็นต้องใช้ ให้เลือกไฟล์นั้นแล้ว คลิก Delete ได้เลย ถ้าต้องการลบหลายไฟล์พร้อมกัน ให้กดปุ่ม Command เลือกไฟล์แล้วคลิก Delete

2. ถอนการติดตั้งแอปที่ไม่ได้ใช้ในเครื่อง Mac 

แอปพลิเคชันในเครื่อง Mac เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่กินพื้นที่เก็บข้อมูล ดังนั้น ถ้าหากว่าเราไม่ค่อยได้ใช้งานแอปพลิเคชันที่อยู่บน Mac และอยากได้พื้นที่เก็บข้อมูลกลับคืนมา ก็แนะนำให้ลบแอปดังกล่าวได้เลย

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • ก่อนที่เราจะดาวน์โหลดแอปต่าง ๆ มาใช้งานนั้น เราสามารถดูรายละเอียดของขนาดตัวแอปได้ใน Mac App Store หรือหน้าคำอธิบาย
  • พยายามอย่าให้มีหลายแอปที่สามารถทำแบบเดียวกันได้ ตัวอย่างเช่น หากเราพอใจกับ Safari แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลด Chrome, Firefox, Brave หรือ Edge ลงบนเครื่องก็ได้ เพราะทั้งหมดนี้เป็นเบราว์เซอร์ที่ใช้งานในสิ่งเดียวกัน
  • แนะนำให้ใช้แอปที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องอยู่แล้ว อย่างเช่น Safari, ปฏิทิน, เตือนความจำ, เมล และเพลง แทนที่จะใช้แอปอื่น ๆ

3. เคลียร Trash และตั้งค่าให้ลบโดยอัตโนมัติ

เมื่อเราคลิกขวาที่ไฟล์แล้วเลือก “ย้ายไปที่ถังขยะ” ไฟล์เหล่านั้นจะถูกลบออก และจะไปอยู่ใน Trash แทนถ้าหากต้องการล้างข้อมูลนี้ ให้คลิกขวาที่ไอคอนถังขยะในแถบ Dock > เลือก “Empty Trash”

ไฟล์ที่ถูกย้ายไปที่ถังขยะจะค้างอยู่ในนั้นเป็นเวลา 30 วัน ก่อนจะถูกลบโดยอัตโนมัติ ซึ่งเราสามารถเข้าไปตั้งค่าได้หากต้องการให้ไฟล์ลบโดยอัตโนมัติ โดยคลิกที่ปุ่มโลโก้  > เลือก About This Mac > คลิก Storage > คลิก Manage > ไปที่แถบด้านซ้าย คลิกเมนู Recommendations > คลิก Turn On เพื่อเปิดการล้างถังขยะโดยอัตโนมัติ

4. อัพเดท Mac หรือลบไฟล์อัพเดท macOS ที่ดาวน์โหลดมา

เครื่อง Mac ของเราจะดาวน์โหลดการอัพเดท macOS ใหม่โดยอัตโนมัติ ซึ่งแน่นอนว่าไฟล์อัปเดตมีขนาดใหญ่และกินพื้นที่เก็บข้อมูลบน Mac ดังนั้น ถ้าหากต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลคืน

ให้ไปคลิกที่โลโก้  > System Preferences > Software Update > More info ถ้าเห็นไฟล์อัพเดต macOS ที่ดาวน์โหลดเราสามารถคลิกติดตั้งได้ทันที แต่ถ้าหากไม่ต้องการติดตั้งรายการอัพเดต สามารถเลือกไฟล์แล้วกดปุ่มลบบนเครื่อง Mac ได้เลย

 

5. ลบข้อมูลสำรองของ iPhone, iPad และ iPod touch

ถ้าเราสำรองข้อมูลของอุปกรณ์ iOS ไปยัง Mac อุปกรณ์เหล่านี้จะใช้ไดรฟ์ภายในของ Mac เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น หากเราอยากกำจัดสิ่งเหล่านี้และเพิ่มพื้นที่ว่างในเครื่อง Mac ลบข้อมูลสำรองเก่าที่ไม่ได้ใช้ของ iPhone และ iPad

แนะนำเพิ่มเติม: ถ้าหากว่าเราหยุดสำรองข้อมูล iPhone ไปยัง Mac ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเราได้สำรองข้อมูลไว้ใน iCloud เรียบร้อยแล้ว

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ:

6. ลบแคชบน Mac

1. ไปที่ Finder > กดปุ่ม Option + คลิกที่ Go > เลือก Library
2. เลือกโฟลเดอร์แคชแล้วกด Space Bar เพื่อดูขนาดความจุของตัวแคชบนเครื่อง

3. เปิดโฟลเดอร์แคช > ลบโฟลเดอร์และไฟล์ได้เลย หรือ กด Command + A เพื่อเลือกย้ายทุกไฟล์ไปที่ถังขยะ

7. ล้างไฟล์ชั่วคราว เช่น ข้อมูลเบราว์เซอร์

เราสามารถเพิ่มพื้นที่ว่างได้จากการลบไฟล์เบราว์เซอร์ที่เราใช้อยู่ เช่น แคช คุกกี้ ฯลฯ โดยไปที่การตั้งค่าเบราว์เซอร์ที่เราใช้

1. กด Command + Comma (,) ขณะที่เปิดเบราว์เซอร์อยู่
2. คลิก Privacy > Manage Website Data > คลิก Remove All

8. ใช้เมนู Develop ใน Safari เพื่อล้างแคช

เปิด Safari แล้วกดปุ่ม Command + Comma (,) > คลิก “Advanced” > คลิกเปิดใช้งานแสดงเมนูพัฒนาในแถบเมนู (Show Develop menu in menu bar)

หลังจากนี้ไปเราสามารถกด Command + Option + E หรือคลิก Develop > Empty Caches

9. ลบรายการที่ซ้ำกันออกจากแอป macOS Photos และล้างถังขยะ

แอปรูปภาพเป็นอีกแอปที่ใช้พื้นที่ค่อนข้างมากบนเครื่อง Mac ซึ่งเราสามารถใช้แอป Duplicate Cleaner เพื่อลบรูปภาพและวิดีโอที่ซ้ำกันในแอป Photos ได้

และนอกจากนี้ถ้าหากว่าเราลบรูปภาพและวิดีโอที่ไม่ต้องการในแอปรูปภาพแล้ว ให้ไปเคลียรูปในถังขยะของแอปด้วย โดยคลิกที่ Recently Deleted > Delete All > Delete

10. ลบไฟล์แนบจากแอป Messages ของ Mac

เราสามารถลบไฟล์แนบจากแอป Messages ได้ โดยคลิกที่โลโก้  > About This Mac > Storage > Manage > Messages สามารถลบไฟล์แนบแต่ละรายการหรือทั้งหมดได้

11. ล้างไฟล์จากแอป Mail

สามารถล้างไฟล์จากแอปเมลล์ได้ด้วยวิธีเดียวกับแอปข้อความ ซึ่งแอปเมลล์ของเราจะมีไฟล์มากมายที่เราอาจไม่ต้องการบน Mac เราสามารถลบอีเมลล์ขยะได้ด้วยการกด Command + Option + J หรือ คลิกกล่องจดหมาย > ลบเมลขยะ

12. ลบภาพสเก็ตช์และไฟล์แนบจากแอป Apple Notes

ภาพสเก็ตช์ที่เราสร้างไว้ในแอพ Notes บน iPhone หรือ iPad จะซิงค์กับเครื่อง Mac ของเรา จึงอาจใช้พื้นที่ค่อนข้างมากในเครื่อง Mac และ iCloud ของเรา

ดังนั้น หากต้องการเพิ่มพื้นที่ว่าง ให้ไปที่แอป Note > คลิกที่แถบค้นหาและลบโน้ตที่ไม่จำเป็นออก ซึ่งโน๊ตที่เราลบตรงนี้ ก็จะถูกลบออกจากอุปกรณ์ Apple และ iCloud อื่นๆ ทั้งหมดของเราด้วย

 

13. ลบ Voice Memos ที่ดาวน์โหลด

หากไม่จำเป็นต้องใช้งาน Voice Memos สามารถลบได้โดยไปที่โลโก้  > System Preferences > Apple ID > iCloud > Options > ยกเลิกการเลือก Voice Memos > เสร็จสิ้น

จากนั้นให้เปิดแอป Voice Memos แล้วลบเสียงในส่วนที่เพิ่งลบล่าสุดออก โดยเปิดแอป Voice Memos > คลิกแถบด้านซ้ายเลือก “ที่เพิ่งลบล่าสุด”

14. ลบโปรเจ็กต์ iMovie และ GarageBand

ถ้าหากว่าเราเคยทำโปรเจ็กต์ iMovie หรือ GarageBand ไว้แล้วไม่จำเป็นต้องใช้อีก ก็ให้เปิดแอปเหล่านี้แล้วลบออกได้เลย เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่ว่างให้กับเครื่อง Mac ของเรา

15. ลบภาพหน้าจอ Mac

เวลาที่เราถ่ายภาพหน้าจอหรือบันทึกหน้าจอบน Mac อาจทำให้หน้าเดสก์ท็อปของรกและเปลืองพื้นที่ ซึ่งเราสามารถลบภาพหน้าจอทั้งหมดได้ในครั้งเดียว โดยทำได้ดังนี้

1. คลิกขวาบนเดสก์ท็อปของ Mac > เลือก Use Stacks จะรวมภาพหน้าจอทั้งหมดไว้ในชุดเดียว
2. คลิกขวา > เลือกกย้ายไปที่ถังขยะ เพื่อลบภาพหน้าจอ Mac ทั้งหมดในครั้งเดียว!

16. ตรวจเช็คโฟลเดอร์ดาวน์โหลด

โฟลเดอร์ Downloads ของ Mac เป็นหน้าเริ่มต้นสำหรับไฟล์ที่เราดาวน์โหลดมา ไม่ว่าจะดาวน์โหลดจาก Safari, Chrome, Slack หรือแอปอื่นๆ เราควรที่จะหมั่นเช็คและเคลียร์โฟลเดอร์ Downloads ของ Mac อยู่เสมอเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างให้กับเครื่อง Mac ของเรา

17. ลบไฟล์ที่ซ้ำกันออกจาก Mac

ไฟล์ที่ซ้ำกันบน Mac นั้นเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่กินพื้นที่โดยไม่จำเป็น ดังนั้น เราก็ควรที่จะตรวจเช็คไฟล์ซ้ำและลบออกอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ วิดีโอ หรือไฟล์แนบต่าง ๆ

18. ลบเพลง ภาพยนตร์ และรายการทีวีที่ดาวน์โหลดออก

เราสามารถลบภาพยนตร์และรายการทีวีที่เราดูได้โดยอัตโนมัติ โดยคลิกที่โลโก้  > About This Mac > About This Mac > Storage > Manage > Recommendation > Optimize ถัดจากไอคอน tv

19. บีบอัดไฟล์ให้ใช้พื้นที่น้อยลง

เป็นอีกหนึ่งวิธีในการเพิ่มพื้นที่ว่างโดยไม่ต้องลบไฟล์หรือโฟลเดอร์ นั่นคือ การบีบอัดไฟล์ นั่นเอง ทำได้โดยเลือกไฟล์ที่เราต้องการบีบอัด > คลิกขวา เลือก Compress เพียงเท่านี้เราก็จะได้ไฟล์ที่เราบีบอัดแล้ว

20. ลบเสียงของระบบที่ไม่ต้องการ

ถ้าเราลบไฟล์เสียงที่มีอยู่บนเครื่อง Mac ก็จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้ ให้ไปที่ การตั้งค่า > การช่วยการเข้าถึง > เนื้อหาที่พูด (Spoken Content) > คลิกแถบ System Voice > เลือกเมนู Customize ปรับแต่ง และยกเลิกการเลือกเสียงเพิ่มเติม

21. ปิดการเขียนตามคำบอก

การเขียนตามคำบอกแบบออฟไลน์บนอุปกรณ์ Apple มีขั้นตอนการทำงานโดยจะดาวน์โหลดไฟล์ลงในอุปกรณ์ ถ้าหากว่าเราไม่ได้ใช้คุณสมบัตินี้ ก็สามารถปิดการใช้งาน เพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างบนเครื่อง Mac ได้โดยไปที่ การตั้งค่า > Keyboard > Dictation แล้วปิด

22. เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บโดยใช้เครื่องมือของ Apple

เราควรที่จะตรวจเช็คพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนเครื่อง Mac ของเรา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดเก็บโดยทำตามวิธีที่ 1 ทุก ๆ เดือนเพื่อลบไฟล์ขนาดใหญ่ที่ไม่ได้ใช้ออก โดยแนวทางนี้จะช่วยให้พื้นที่ในเครื่อง Mac ของเราว่าง และทำงานได้รวดเร็วขึ้น

23. ใช้ iCloud เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลบน Mac

ถ้าหากว่าเราสมัครสมาชิก iCloud ให้ไปที่การตั้งค่าระบบ > Apple ID > iCloud แล้วตรวจสอบ iCloud Drive ถัดไป จากนั้นก็อ่านคำอธิบายด้านล่างที่ Optimize Mac Storage > เปิดใช้งาน

24. สมัคร Google One, Dropbox หรือบริการพื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์อื่น

เราสามารถใช้วิธีเก็บข้อมูลบนคลาวด์อื่นเพิ่มเติมได้ เช่น Google Drive, Dropbox, Backblaze เป็นต้น เพื่อย้ายและจัดเก็บไฟล์ขนาดใหญ่ โดยราคาก็ใกล้เคียงกับ iCloud Drive และยังสามารถใช้ร่วมกับระบบ Android และ Windows ได้ด้วย

25. หยุดไฟล์ที่ซ้ำกันบนแอป Music

เมื่อเราเปิดเพลงที่จัดเก็บไว้ในโฟลเดอร์ (Finder) ในแอปเพลงหรือ iTunes เพลงนั้นจะถูกคัดลอกไฟล์ไปยังโฟลเดอร์ของตัวเอง ซึ่งหมายความว่าเพลงเดียวกันจะถูกบันทึกสองครั้งลงบนเครื่อง Mac ทำให้กินพื้นที่จัดเก็บบนเครื่อง Mac ดังนั้น เราสามารถตั้งค่าป้องกันไม่ให้แอปเพลงของ Mac หรือ iTunes สร้างเพลลิสต์เพลงซ้ำกัน ทำได้ดังนี้

1. เปิดแอป Music หรือ iTunes ในเครื่อง Mac แล้วกด Command + Comma (,)
2. คลิกไฟล์
3. คลิกยกเลิกการเลือกคัดลอกไฟล์ไปยังโฟลเดอร์ Music Media (Copy files to Music Media folder when adding to library.)

26. ใช้ไดรฟ์ภายนอกเพื่อจัดเก็บภาพยนตร์และไฟล์ขนาดใหญ่

เราสามารถใช้บริการพื้นที่เก็บข้อมูลภายนอกได้อย่าง Google Drive, Dropbox, Backblaze หรือ iCloud Drive หรือจะนำข้อมูลไปเก็บที่ SSD หรือฮาร์ดดิสก์ได้ หรือถ้าหากว่าเรามี Mac เช่น iMac, Mac Pro หรือ Mac mini ก็สามารถเชื่อมต่อแล้วนำข้อมูลไปเก็บไว้ที่นั่นได้เช่นกัน

27. ย้ายคลังเพลงของคุณไปยังไดรฟ์ภายนอก

หากไดรฟ์ภายในเครื่อง Mac ของเรามีขนาด 120 GB ขึ้นไปเราก็สามารถเพิ่มพื้นที่ว่างได้โดยการย้ายคลังเพลงไปไว้ในไดรฟ์ภายนอก

28. ย้ายไลบรารีรูปภาพไปยังไดรฟ์ภายนอก

เช่นเดียวกับแอป Music เรายังสามารถย้ายคลังรูปภาพของ Mac ไปยังไดรฟ์ภายนอกเพื่อเรียกคืนพื้นที่บนเครื่อง Mac ได้อีกด้วย

และทั้งหมดนี้ก็เป็นคำแนะนำที่จะช่วยให้เราสามารถเพิ่มพื้นที่และจัดการกับพื้นที่การเก็บข้อมูลให้กับเครื่อง Mac ของเราได้ ใครที่สะดวกวิธีไหนก็สามารถเลือกทำตามวิธีที่อยู่ด้านบนได้เลยค่ะ

ที่มา : iDownloadBlog

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Pornpimol Kulab

Faculty of Mass Communication,
Chiangmai University