in ,

คำแนะนำ การยืดอายุแบตเตอรี่ และการยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ระหว่างวัน (อัปเดตปี 2021)

การยืดอายุแบตเตอรี่และการยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ให้ใช้ได้นานระหว่างวันถือเป็นการใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ได้เต็มประสิทธิภาพ มีอยู่หลากหลายวิธี มาดูกันเลย

คำแนะนำการยืดอายุแบตเตอรี่ และการยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ (อัปเดตปี 2021)

สำหรับคนที่อยากให้แบตเตอรี่ของ iPhone หรือ iPad ใช้ได้นาน ทั้งอายุการใช้งาน และระยะเวลาในการใช้งานระหว่างวัน ทีมงานได้รวบรวมคำแนะนำจาก Apple มาฝาก ทำตามได้ง่าย รู้ไว้ไม่เสียหาย แถมได้ใช้อุปกรณ์อย่างเต็มประสิทธิภาพ คุ้มค่าเงินที่จ่ายไปแน่นอน

อายุแบตเตอรี่ และ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ ต่างกันอย่างไร ?

“อายุแบตเตอรี่” หมายถึง ระยะเวลาที่แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้จนกว่าจะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่

“ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่” หมายถึงระยะเวลาที่อุปกรณ์ของเรา สามารถทำงานได้ก่อนที่จะต้องชาร์จใหม่

ถ้าจะให้ดี หากเราสามารถยืดระยะเวลาทั้งสองอย่างให้นานที่สุดได้ เราก็จะได้ใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ Apple ไม่ว่าจะเป็น iPhone iPad หรือแม้แต่ Mac ได้เต็มอย่างประสิทธิภาพ

วิธียืดอายุแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานขึ้น แบตเสื่อมช้าลง ไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อย

1.อัปเดตซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด

แนะนำให้อัปเดตซอฟต์แวร์อย่างเช่น iOS ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดอยู่เสมอ เพราะรายการอัปเดตซอฟต์แวร์ของ Apple มักจะมาพร้อมเทคโนโลยีการประหยัดพลังงาน ดังนั้นเราก็ควรหมั่นตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ของเราใช้ iOS, macOS หรือ watchOS เวอร์ชั่นล่าสุดแล้วหรือยัง

วิธีตรวจสอบการอัปเดตซอฟต์แวร์ก็ง่าย ๆ ให้เข้าไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > รายการอัปเดตซอฟต์แวร์

2.เก็บอุปกรณ์ของเราให้ห่างจากบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำผิดปกติ

Apple บอกว่า อุปกรณ์ของเราได้รับการออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับอุณหภูมิที่อยู่ระหว่าง 16 ถึง 22 °C แต่ไม่เกิน 35 °C เพราะเมื่ออุณหภูมิโดยรอบสูงเกินไปหรือต่ำจนเกินไปก็จะสร้างความเสียหายอย่างถาวรให้กับความจุของแบตเตอรี่ ทำให้อายุแบตเตอรี่วั้นลงนั่นเอง

โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับอุปกรณ์ Apple จะเป็นดังนี้

  • อุณหภูมิที่เหมาะสมกับ iPhone, iPad, iPod และ Apple Watch จะอยู่ที่ประมาณ 0 ถึง 35 °C ส่วนอุณหภูมิในการจัดเก็บเมื่อไม่ได้ใช้งานควรจะอยู่ที่ประมาณ -20 ถึง 45 °C
  • อุณหภูมิที่เหมาะสมกับ MacBook จะอยู่ที่ประมาณ 10 ถึง 35 °C ส่วนอุณหภูมิในการจัดเก็บเมื่อไม่ได้ใช้งานควรจะอยู่ที่ประมาณ -20 ถึง 45 °C เช่นกัน

3.ถอดเคสบางประเภทออกระหว่างชาร์จ

การชาร์จอุปกรณ์ในตอนที่ใส่เคสบางประเภทอาจ เช่นเคสกันกระแทกที่หนา ๆ ไม่สามารถระบายความร้อนได้ จะทำให้เครื่องร้อนเกินไป และส่งผลเสียต่อความจุและอายุของแบตเตอรี่ได้ ถ้าพบว่าอุปกรณ์ของเราร้อนระหว่างที่ชาร์จ ให้ถอดเคสออกไปก่อน

4.ชาร์จไฟอุปกรณ์ไว้ครึ่งหนึ่งของความจุ หากต้องการจัดเก็บไว้เป็นระยะเวลานาน

หากต้องการจัดเก็บอุปกรณ์ของเราไว้เป็นระยะเวลานาน (ไม่ได้ใช้แต่เก็บไว้เฉย ๆ ) มีปัจจัยหลักอยู่ 2 อย่างที่จะส่งผลต่อสภาพโดยรวมของแบตเตอรี่ ก็คืออุณหภูมิของสภาพแวดล้อมโดยรอบ และระดับแบตเตอรี่ของอุปกรณ์เมื่อเราปิดเครื่องเพื่อจะจัดเก็บไว้ แนะนำให้ให้ปฏิบัติดังนี้

  • ห้ามชาร์จอุปกรณ์จนมีแบตเตอรี่เต็มหรือคายประจุจนหมด แต่ให้ชาร์จแบตเตอรี่ไว้ที่ประมาณ 50% เพราะการเก็บอุปกรณ์ของหลังจากที่ใช้แบตเตอรี่จนหมดเกลี้ยงจะส่งผลให้แบตเตอรี่นั้นเข้าสู่สถานะคายประจุหมด และเมื่อจะนำกลับมาใช้ แบตเตอรี่อาจไม่สามารถเก็บไฟได้อีก และหากเราเก็บอุปกรณ์ที่ชาร์จแบตเตอรี่ไว้เต็มเป็นระยะเวลานาน ความจุของแบตเตอรี่อาจลดลง ซึ่งจะส่งผลให้แบตเตอรี่มีอายุสั้นลง

  • ก่อนจัดเก็บให้ปิดอุปกรณ์เพื่อไม่ให้มีการใช้งานแบตเตอรี่เพิ่มเติมอีก
  • เก็บอุปกรณ์ไว้ในที่ที่มีอากาศค่อนข้างเย็นและไม่มีความชื้น ซึ่งควรเป็นอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 32 °C
  • หากคิดจะจัดเก็บอุปกรณ์นานกว่า 6 เดือน แนะนำให้นำออกมาชาร์จไฟไว้ที่ 50% ทุก ๆ 6 เดือน

เมื่อนำอุปกรณ์ออกมาใช้อีกครั้งหลังจากจัดเก็บเป็นเวลา แนะนำให้ชาร์จไฟไว้อย่างน้อย 20% ก่อนที่จะนำไปใช้งาน

วิธียืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ ให้ใช้ได้ยาวนานที่สุดระหว่างวัน

นอกจากจะหมั่นอัปเดต iOS iPadOS macOS หรือ watchOS แล้ว ก็มีการตั้งค่าอื่น ๆ อีกเล็กน้อยที่จะช่วยยืดระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่ระหว่างวันให้ใช้ได้นาน ไม่ต้องชาร์จบ่อย โดยสามารถนำตามคำแนะนำได้ดังนี้

1.หรี่แสงหน้าจอลง หรือเปิด “ปรับความสว่างอัตโนมัติ”

การหรี่แสงหน้าจอลงเป็นการลดการพลังงานให้น้อยลง หากต้องการหรี่แสงจอ ให้ปัดศูนย์ควบคุม (Control Center) ลงมา แล้วลากแถบเลื่อนความสว่างลงมาตามต้องการ

การปรับความสว่างอัตโนมัติจะช่วยปรับความสว่างของหน้าจอตามสภาพแวดล้อมแสงรอบ ๆ ในขณะที่เราใช้งานให้แบบอัตโนมัติ

หากจะเปิดใช้งานให้ไปที่ การตั้งค่า > การช่วยการเข้าถึง > จอภาพและขนาดข้อความ > เปิด “ปรับความสว่างอัตโนมัติ”

2.ใช้งาน Wi-Fi

หากสถานที่ที่เราอยู่มีสัญญาณ Wi-Fi ก็ให้สลับไปใช้ Wi-Fi แทนการใช้งาน 4G หรือ 5G เพราะการใช้ข้อมูลเซลลูลาร์อย่าง 4G หรือ 5G นั้นใช้พลังงานมากกว่า Wi-Fi

3.เปิดใช้งาน โหมดประหยัดพลังงาน

อยากอยากให้แบตเตอรี่ iPhone ใช้งานได้ยาวนานขึ้นระหว่างวัน การเปิดโหมดประหยัดพลังงานเป็นวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ของ iPhone และสามารถเปิดใช้งานโหมดนี้เมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด

โดยโหมดประหยัดพลังงานจะลดความสว่างของจอภาพลง ปรับประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์ให้เหมาะสม และลดภาพเคลื่อนไหวของระบบให้เหลือน้อยที่สุด ดังนั้น แอปต่าง ๆ รวมถึงเมลจะไม่ดาวน์โหลดคอนเทนต์อยู่ในเบื้องหลัง เช่น การดึงข้อมูลอีเมล

เข้าไปเปิดโหมดประหยัดพลังงานได้ที่ การตั้งค่า > แบตเตอรี่ > เปิด “โหมดประหยัดพลังงาน” เมื่อเปิดใช้งานแล้วแบตเตอรี่ที่แสดงด้านบนจะเปลี่ยนเป็นไอคอนแบตเตอรี่สีเหลือง

4.ปิดการดึงข้อมูลแอปจากเบื้องหลัง

การดึงข้อมูลแอปจากเบื้องหลัง เป็นการทำงานที่ดึงข้อมูลเบื้องหลังของแอปต่าง ๆ ขณะที่เราใช้งาน Wi-Fi หรือเซลลูลาร์ เมื่อเราปิดการดึงข้อมูลแอปเบื้องหลังจะเป็นการยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ได้

สามารถเลือกปิดทั้งหมด หรือจะเลือกปิดเป็นแอป ๆ ไปก็ได้

เข้าไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > “ดึงข้อมูลแอปจากเบื้องหลัง” > เลือกปิดแอปที่ไม่จำเป็น

5.ปิดบริการตำแหน่งที่ตั้ง

บริการตำแหน่งที่เป็นการทำงานเบื้องหลังเช่นกัน เพราะแอปบางแอปอาจจะต้องการตำแหน่งที่ตั้งของเราในหารทำงาน เช่นแอปแผนที่ หรือแอปที่เกี่ยวกับกการดูสภาพอากาศ ซึ่งแอปบางแอปก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้ตำแหน่งที่ตั้งของเราก็ได้ เช่นแอปแต่งรูป เป็นต้น

แนะนำให้เลือกปิดบริการตำแหน่งที่ตั้งเป็นแอป ๆ ไป โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > ความเป็นส่วนตัว > บริการตำแหน่งที่ตั้ง > เลือกแอปที่จะปิด > แล้วเลือก “ไม่เลย”

6.ปิดการแจ้งเตือนที่หน้าจอล็อคและหน้าจอโฮม

ในขณะที่เราล็อคหน้าจอ เวลามีการแจ้งเตือนเข้ามา จะมีการปลุกหน้าจอขึ้นมาเพื่อแสดงการแจ้งเตือนสามารถปิดการแจ้งเตือนต่าง ๆ เราสามารถเลือกปิดการแจ้งเตือนจากแอปที่ไม่จำเป็นไปได้ แล้วเลือกเปิดเฉพาะแอปที่อยากจะให้แจ้งเตือนก็ได้

เข้าไปที่ การตั้งค่า > การแจ้งเตือน > เลือกแอป > ปิดการแจ้งเตือน

7.เปิดใช้โหมดเครื่องบิน เมื่ออยู่ในที่สัญญาณต่ำ

เมื่อเราอยู่ในที่ที่มีสัญญาณ 4G 5G ต่ำมาก ๆ แนะนำให้เปิดใช้งานโหมดเครื่องบิน ก็จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้ เพราะเมื่อเราอยู่ในที่สัญญาณบริการไม่ค่อยดี iPhone จะพยายามค้นหาสัญญาณที่ดีกว่าอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการทำงานนี้ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานนั่นเอง

ทั้งหมดนี้เป็นวิธิการยืดอายุแบตเตอรี่และยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับ iPhone หรือ iPad เท่านั้น หากอยากจะดูคำแนะนำสำหรับอุกรณ์อื่น ๆ สามารถเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Nooknick Yanika

Humanities, English Literature
Chiangmai University