Zakura Kim
สำหรับใครอยากเพิ่มความเป็นส่วนตัวก่อนเข้าแอป LINE ทีมงานมีวิธีตั้งค่าให้สแกน Face ID, Touch ID หรือกรอกรหัสผ่านก่อนเข้าแอป LINE มาแนะนำให้ชมกันค่ะ เผื่อใครยังไม่เคยตั้งค่ามาก่อน
วิธีล็อคแอป LINE บน iPhone และคอมพิวเตอร์
การตั้งค่าล็อครหัสผ่านแอป LINE บน iPhone
ถ้าเราตั้งค่าล็อครหัสผ่านแอป LINE บน iPhone การเปิดแอป LINE ทุกครั้งจะต้องกรอกรหัสผ่าน, สแกน Face ID หรือสแกน Touch ID อยู่เสมอ เราสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่
แอป LINE แถบ หน้าหลัก > ไอคอนตั้งค่า > ความเป็นส่วนตัว (Privacy) > เปิด ล็อครหัสผ่าน (Passcode lock)
ตั้งรหัสผ่าน 4 หลัก > ยืนยันรหัสผ่าน 4 หลักอีกครั้ง
เมื่อเปิดการตั้งค่าล็อครหัสผ่านเรียบร้อยแล้ว เวลาที่เราเปิดแอป LINE เราจะต้องยืนยันตัวตนก่อน ถ้าหากเป็น iPhone รุ่นไม่มีปุ่มโฮมก็จะต้องสแกนใบหน้า สำหรับ iPhone ที่มีปุ่มโฮมก็จะต้อง Touch ID ถ้าหากยืนยันตัวตนสองวิธีนี้ไม่ได้ ก็ต้องกรอกรหัสผ่าน 4 หลักที่เราตั้งค่าไว้
การตั้งค่าล็อครหัสผ่านบนคอมพิวเตอร์ หลังจากไม่ได้ใช้งาน
สำหรับการล็อครหัสผ่านบนคอมพิวเตอร์นั้นจะแตกต่างกับบน iPhone เล็กน้อย เพราะบนคอมพิวเตอร์จะให้เราตั้งค่าล็อคแอป LINE เมื่อเราไม่ได้ใช้งานคอมพิวเตอร์นานเกินกี่นาที ซึ่งเราจะต้องกำหนดเวลาเอง และเมื่อล็อคแล้ว เราจะต้องกรอกรหัสผ่านเข้าสู่ระบบแอป LINE
ตั้งค่าได้โดย ไปที่แอป LINE บนคอมพิวเตอร์ คลิกไอคอน 3 จุดด้านล่าง > ตั้งค่า
แถบ ตั้งค่าเบื้องต้น ให้เลื่อนลงมาส่วน ล็อค LINE > ติ๊กเลือก ล็อค LINE เมื่อไม่มีการใช้งานเกิน แล้วกำหนดเวลา ที่ต้องการให้แอปล็อค
หลังจากตั้งค่าเสร็จแล้ว เมื่อเราไม่ได้ใช้งานคอมพิวเตอร์นานเกินเวลาที่กำหนด แอปก็จะเข้าสู่โหมดล็อค ถ้าเรากลับมาเปิดแอป LINE เราจะต้องกรอกรหัสผ่านเข้าสู่ระบบแอป LINE ใหม่
กรณีที่เราจะทิ้งคอมพิวเตอร์ไว้สักครู่ โดยที่ไม่อยากให้ถึงเวลาที่กำหนดแล้วค่อยล็อค ให้เราคลิกเลือกไอคอน 3 จุด แล้วเลือกล็อค LINE เพื่อทำการล็อคแอปทันที เมื่อเปิดแอปอีกครั้งก็ต้องกรอกรหัสผ่านเข้าสู่ระบบ LINE ใหม่
สองวิธีนี้ก็เป็นการล็อคแอป LINE ทั้งบน iPhone และคอมพิวเตอร์ สำหรับใครที่อยากเพิ่มความเป็นส่วนตัว ป้องกันไม่ให้ผู้อื่นแอปเข้ามาดูแชท LINE ก็ตั้งค่าล็อคแอปให้กรอกรหัสผ่าน หรือยืนยันตัวตนก่อนเข้าแอปได้ ใครที่ยังไม่ทราบมาก่อนก็ลองตั้งค่ากันดูนะคะ
