Huawei เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าจับตามอง มีเทคโนโลยีและสิทธิบัตรหลายอย่างเป็นของตัวเอง ตั้งแต่กระบวนการผลิตหน่วยประมวลผล (ปัจจุบันมีแค่ Samsung, Apple, Huawei) รวมถึงเป็นผู้นำด้านเครือข่าย ซึ่งถึงแม้ก่อนหน้านี้จะทำหลายคนผิดหวัง กับการใส่หน่วยความจำ UFS 2.1 และ 2.0 ที่ไม่ตรงตามโฆษณาก็ตาม
Huawei Mate 10 & Mate 10 Pro
ก่อนหน้านี้ Huawei ค่อนข้างจะโอ้อวดในเรื่อง AI และหลายคนก็คาดหวังว่า Mate 10 จะเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนเปลี่ยนโลก Huawei ล้อเลียน Apple ด้วยวิดีโอสาธิต Mate 10 สมาร์ทโฟน AI ที่แท้จริง จากการนำเอาหน่วยประมวลผล Neural Network Processing Unit (NPU) เพิ่มเข้ามาต่างหาก ส่วนนอกจากนั้นจะมีอะไรน่าสนใจบ้างมาดูกัน
- Mate 10 กับ Mate 10 Pro สเปคมันจะแปลกหน่อย
- Mate 10 มีช่องหูฟัง 3.5 มม. และ microSD หน้าจอ 2K, RAM 4GB, ROM 64GB ราคา 699 ยูโร เริ่มขายตุลาคม ไม่มีขายในไทย
- Mate 10 Porsche Design เหมือนตัวข้างบนแต่ RAM 6GB, ROM 256GB ราคา 1,395 ยูโร เริ่มขายพฤศจิกายน
- Mate 10 Pro ตัดช่อง 3.5 มม. และ microSD หน้าจอ FHD+, RAM 6GB, ROM 128GB (ตัวเครื่องบางกว่า) ราคา 799 ยูโร เริ่มขายพฤศจิกายน
สำหรับลูกค้าในไทยชัดเจนว่าเหลือเพียงแค่รุ่น Pro กับ Porsche Design ให้เลือกซื้อ เท่ากับว่าลืมเรื่องหูฟัง 3.5 มม. ไปได้เลย (Apple มีเพื่อนเพิ่มแล้ว ไชโย!) ข้อดีก็คือได้ DAC 32-Bits ดังนั้นถ้าจะขับเสียงให้มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องใช้หูฟัง USB-C ส่วนจะมีแถมในกล่องหรือไม่ ต้องไปลุ้นกันอีกทีนึง
ดีไซน์ใหม่แปลกตา
หน้าจอไร้ขอบ (FullView) สัดส่วน 16:9 และ 18:9 (สำหรับรุ่น Pro) วัสดุเป็นกระจกโค้งทั้งหน้าและหลัง และกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 ส่วนแบตเตอรี่ให้มาเท่าเดิม 4000mAh แต่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น 30% ชาร์จะเร็วกว่าด้วย SuperCharge ที่ทำได้เร็วกว่า Fast Charge ยี่ห้ออื่น
กล้องคู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือคุณภาพ
กล้องยังคงเป็นการพัฒนาร่วมกับ Leica เหมือนเดิม ความละเอียด 12MP (สี) และ 20MP (ขาว-ดำ) ให้รูรับแสง F1.6 มีจุดเด่นอยู่ตรงที่ AI สามารถเรียนรู้เพื่อปรับภาพการตั้งค่าให้เหมาะสม (คล้ายกับ Auto แต่ยังไม่ทราบวิธีการทำงาน) นอกจากนี้ยังมี AI Selfie และ AI Zoom ส่วนคะแนนของภาพ DxOMark ยังไม่ได้รีวิว
ฉลาดขึ้น เก่งขึ้น แสนรู้ขึ้น
AI ที่เพิ่มเข้ามา (และเป็นจุดขาย) ไม่ได้ใช้เพียงแค่ถ่ายภาพ แต่ยังสามารถใช้ปรับปรุงคุณภาพเสียตอนสนทนา ตั้งแต่การลดเสียงรบกวนไปจนถึงเพิ่มความดังของเสียง นอกจากนี้ยังช่วยให้การแปลภาษาทั้งภาพและเสียง ส่วนในอนาคตจะมีการทำงานร่วมกับ Google เพื่อเปิดใช้งาน API ทำให้แอปพลิเคชัน Android ทำงานร่วมกับ AI ได้อีกด้วย
ต่อออกจอใช้งานแทนคอมได้เลย
ระบบปฎิบัติการมาพร้อมกับ Android 8.0 ตั้งแต่เปิดเครื่อง ครอบทับด้วย Huawei EMUI 8.0 มีความสามารถในการต่อออกจอเพื่อใช้งานในรูปแบบ PC เพียงแต่ไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมแบบ Samsung DeX เพียงแค่ต่อ USB-C to HDMI ก็ใช้งานได้เลย (ประหยัดเงินไปได้อีก) ส่วนพวกเมาส์คือคีย์บอร์ดก็ต่อผ่าน Bluetooth
สรุป
โดยแนวคิด AI Phone แล้วค่อนข้างน่าสนใจมาก ทีเหลือก็แค่ลองพิสูจน์ใช้งานจริงว่าจะฉลาดสมชื่อหรือไม่ เพราะรุ่นก่อนหน้าอย่าง Mate 10 ที่โฆษณาว่ามีระบบเรียนรู้อัตโนมัติ เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้งานและทำให้เครื่องเร็วเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา (แต่คนใช้งานก็ยังบ่นว่าช้าเหมือนเดิม)
หรือแม้กระทั่งปัญหาที่เกมเมอร์หลายคนบ่นว่า CPU Kirin ไม่ค่อยเข้ากันได้กับเกมบางเกม โดยเฉพาะ RoV ที่เล่นไปกระตุกไปและมีเด้งหลุดบ้าง ตรงข้ามกับ Snapdragon ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นถูกกว่า แต่สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
สุดท้ายคือเรื่องกล้องด้วยความที่ Leica มีชื่อเสียงมานาน โดยเฉพาะการถ่ายรูปแบบขาวดำ แถมด้วยการใช้ AI มาคำนวณเรื่องภาพถ่ายก็เป็นอะไรที่ใหม่มาก ซึ่งหากระบบมีการเรียนรู้จริงเท่ากับว่ายิ่งถ่ายมันจะยิ่งฉลาดขึ้น หรือจะปรับแต่งภาพให้ตรงใจเจ้าของมากขึ้น ส่วนข้อมูลที่ AI เรียนมาจะหายหลังล้างเครื่องหรือไม่ อันนี้น่าสนใจ