watchOS 6 เปิดตัวในงาน WWDC ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีฟีเจอร์ใหม่ที่เป็นประโยชน์มากมากมาย และครั้งนี้ทีมงานก็จะหยิบยกฟีเจอร์ที่น่าสนใจใน watchOS 6 เวอร์ชัน beta สำหรับนักพัฒนา พร้อมกับการใช้งานเบื้องต้นมาให้ชมกันค่ะ
ชม 6 ฟีเจอร์ที่น่าสนใจใน watchOS 6 ก่อนปล่อยอัปเดตจริงกันยายนนี้ [วิดีโอ]
1. หน้าปัดใหม่
watchOS 6 เวอร์ชัน beta มาพร้อมกับ 6 หน้าปัดใหม่ที่สวยงามและดูทันสมัยมากขึ้น ได้แก่
1. หน้าปัดโมดูลาร์คอมแพค (Modular Compact) เป็นหน้าใหม่ที่ทีลักษณะคล้ายๆ กับหหน้าปัดโมดูลาร์ใน watchOS 5 แต่ในส่วนนาฬิกา เราสามารถปรับแต่งให้เป็นแบบดิจิตอลหรืออนาล็อกได้ มีกลไกหน้าปัดให้ปรับแต่งถึง 3 ส่วน
2. หน้าปัดแคลิฟอร์เนีย (California) เป็นหน้าปัดเข็มอนาล็อกที่มีความสวยงามแบบคลาสสิค ผู้ใช้สามารถปรับแต่งสีพื้นหลังแบบเต็มจอได้ ซึ่งแต่ละสีจะเป็นโทนวินเทจ รวมถึงปรับแต่งประเภทของตัวเลขได้ เช่น เป็นแบบขีด โรมัน หน้าปัดนี้มีกลไกหน้าปัดให้ปรับแต่งได้
3. หน้าปัดตัวเลขสองสี (Numerals Duo) เป็นหน้าปัดที่มีคนถามมากที่สุดว่าตั้งค่าอย่างไร ก็ต้องบอก ณ ที่นี้เลยว่า รออัปเดตเป็น watchOS 6 ก่อน หน้าปัดนี้จะเป็นการแสดงนาฬิกาแบบดิจิตอล จุดเด่นอยู่ที่ตัวเลขหนาๆ ที่ปรับแต่งสไตล์ให้เป็นแบบทีบหรือแบบโปร่งได้ ด้านบนเป็นตัวเลขสีอ่อนและด้านล่างเป็นตัวเลขสีเข้มที่อยู่ในโทนเดียวกัน ให้ความสวยงามแบบทันสมัย
4. หน้าปัดตัวเลขสีเดียว (Numerals Mono) จะแสดงเวลาแบบอนาล็อกผสมกับดิจิตอล โดยจะมีตัวเลขตัวหนาบอกเวลาเป็นชั่วโมงที่อยู่ใช้สามารถปรับแต่งสีสันและสไตล์ตัวอักษรเองได้เหมือนกับหน้าปัดตัวเลขสองสี และจะมีเข็มนาฬิกาบอกเวลาที่หมุนแบบเรียลไทม์ ไม่มีกลไกหน้าปัด
5. หน้าปัดสุริยะใหม่ (Solar Dial) เป็นการผสมผสานเอาหน้าปัดสุริยะ (Solar) เดิมกับหน้าปัดอินโฟกราฟ (Infograph) มารวมกัน แสดงเวลา 24 ชั่วโมงตามแบบสมัยโบราณ โดยมีหน้าปัดวงกลมที่แสดงการติดตามดวงอาทิตย์และมีหน้าปัดนาฬิกาเล็กๆ ด้านในบอกเวลา เลือกได้ทั้งแบบอนาล็อกและดิจิตอล สามารถปรับแต่งกลไลหน้าปัดที่มุมทั้ง 4 ได้
6. หน้าปัดการใล่ระดับสี (Gradient) เน้นการแสดงผลสีพื้นหลังแบบเต็มหน้าจอหรือวงกลม สามารถปรับแต่งสีได้ตามใจชอบ โดยนาฬิกาจะเป็นรูปแบบอนาล็อก ไม่มีกลไกหน้าปัด
นอกจากจะมีการเพิ่มหน้าปัดใหม่แล้ว กลไกหน้าปัดยังรองรับการแสดงผลแอปใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน watchOS 6 ด้วย เช่น ติดตามเสียงรบกวน หนังสือเสียง เครื่องคิดเลข เป็นต้น
2. มี App Store เป็นของตนเอง พร้อมเพิ่มแอปใหม่
ใน watchOS 6 ได้เพิ่มแอปใหม่เข้ามาอยู่หลายแอป ซึ่งเป็นแอปที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้ ช่วยให้การใช้งานบน Apple Watch เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น แอปใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามามีดังนี้
App Store สามารถค้นหาและติดตั้งแอปได้โดยไม่ต้องเปิดใช้ใน iPhone เนื่องจาก Apple ได้เพิ่มแอป App Store บน Apple Watch ที่แยกตัวออกจาก iPhone อย่างเป็นอิสระ การจัดการแอปก็ทำได้ง่ายขึ้น
แอปครื่องคิดเลข คิดเลขบวก ลบ คูณ หาร อย่างรวดเร็วบนหน้าจอ Apple Watch และมีฟังก์ชันสำหรับการคำนวณทิปและเปอร์เซ็นต์ให้อีกด้วย
บันทึกเสียง สามารถบันทึกหรืออัดเสียงได้บน Apple Watch โดยใช้ไมค์ของ Apple Watch เอง หรือจะเชื่อมต่อกับหูฟังบลูทูธที่มีไมค์ก็สามารถอัดเสียงผ่านอุปกรณ์ได้เช่นกัน
หนังสือเสียง สามารถฟังหนังสือเสียงด้วยการควบคุมบน Apple Watch โดยซิงค์ข้อมูลมาจาก iPhoneคล้ายๆ กับการควบคุมพ็อดคาสท์หรือเพลงบน Apple Watch แต่ยังไม่เปิดใช้ในประเทศไทย
3. ติดตามเสียงรบกวน
ฟีเจอร์ใหม่ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหูและการได้ยิน ด้วยการติดตามเสียงรบกวน (Noise) ที่คอยวัดความดังของเสียงรอบข้างเป็นหน่วยเดซิเบล และแจ้งให้เราทราบว่าเสียงในสภาพแวดล้อมนี้มีผลอย่างไรต่อการได้ยินบ้าง หากเสียงดังเกินไป ก็จะมีการแจ้งเตือนให้ทราบ ซึ่งผู้ใช้สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือระดับเดซิเบลได้
ชม พรีวิวแอป Noise ติดตามเสียงรบกวนรอบข้างที่มีผลต่อสุขภาพการได้ยินใน watchOS 6
4. ติดตามรอบเดือน
ฟีเจอร์ติดตามรอบเดือน (Cycle Tracking) เหมาะหรับผู้หญิงเป็นอย่างมากที่จะติดตามการมาของรอบเดือน รวมทั้งบันทึกข้อมูลปริมาณ อาการ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ได้ แอปสามารถคำนวณคาดการณ์รอบเดือนในเดือนถัดไปได้ เพื่อให้เราเตรียมตัวก่อนรอบเดือนจะมา
นอกจากนี้แอปยังคำนวณช่วงของวันที่ไข่ตก ที่จะเป็นข้อมูลสำหรับคนที่อยากตั้งครรภ์ได้อีกด้วย สำหรับผู้ชายที่มีภรรยาก็สามารถสอบถามและบันทึกข้อมูลแทนภรรยาได้เช่นกัน
ชม พรีวิวการติดตามรอบเดือน (Cycle Tracking) บน Apple Watch ใน watchOS 6
5. ยืนยันลงชื่อเข้าใช้ Apple ID
ปกติแล้วเวลาที่เราล็อกอิน iCloud ด้วย Apple ID หรือทำการล็อกอิน Apple ID ในอุปกรณ์เครื่องอื่น ระบบจะส่งรหัสยืนยันแจ้งเตือนให้เราทราบในอุปกรณ์ที่มีก่อนลงชื่อเข้าใช้อยู่ก่อน เพื่อให้เรายืนยันตัวตนว่าขอล็อกอินเข้าใช้งานจริง
และใน watchOS 6 ก็ได้เพิ่มการยืนยันตัวตนบน Apple Watch ด้วย ช่วยให้ผู้ใช้ยืนยันตัวตนการลงชื่อเข้าใช้ Apple ID ได้ง่ายขึ้นโดยสามารถทำบนข้อมือได้เลย
6. แนวโน้มการออกกำลังกาย
ในแอปกิจกรรม (Activity) ได้เพิ่มแถบแนวโน้ม (Trend) ที่มีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว ออกกำลังกาย ยืน ระยะทาง นาทีการยืน ฟิสเนสแบบคาร์ดิโอ เวลาเฉลี่ยต่อระยะทางเดิน และเวลาเฉลี่ยนต่อระยะทางวิ่ง
แนวโน้มการออกกำลังกายจะแสดงข้อมูลแต่ละประเภท 90 วันย้อนหลังว่ามีคืบหน้าอย่างไรบ้าง มีการพัฒนาดีขึ้นหรือแย่ลง พร้อมคำแนะนำเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ใช้หมั่นเคลื่อนไหว ยืน และออกกำลังกาย อยู่เป็นประจำและปิดวงแหวนกิจกรรมให้ได้มากที่สุด เพื่อสุขภาพที่ดี
และนี่ก็เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจใน watchOS 6 ที่ทีมงานได้เลือกมานำเสนอให้ชมบางส่วน โดยใช้งานใน watchOS 6 เวอร์ชัน beta สำหรับนักพัฒนา ซึ่ง watchOS 6 เวอร์ชันทางการนั้น Apple จะปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปได้อัปเดตกันในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้และทีมงานก็ไม่พลาดที่จะมาอัปเดตข่าวให้ชมกันค่ะ รอติดตามนะคะ