Attapon Thaphaengphan
หลายคนคงทราบเกี่ยวกับแอป Nike Run Club แล้วว่าเอาไว้ใช้ทำอะไร ส่วนใครยังไม่ทราบผมจะบอกสั้น ๆ ให้รู้ว่าแอปนี้ใช้สำหรับการออกกำลังกายซึ่งเน้น “การวิ่ง” โดยเฉพาะ ซึ่งใช้เก็บสถิติการวิ่งว่าวิ่งได้เท่าไหร่ วิ่งช้า วิ่งเร็ว หากใช้คู่กับ Apple Watch ก็จะเช็คอัตราการเต้นของหัวใจได้ด้วย และมีอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่บางคนอาจจะไม่ทราบหรือไม่ค่อยใช้งานกันคือ ฟีเจอร์ Guided Runs วันนี้ผมขอพูดถึงจุดนี้ให้ทราบครับ
Guided Run ฟีเจอร์บน Nike Run Club คืออะไร?
เป็นฟีเจอร์ประหนึ่งว่ามีโค็ชมาคอยให้คำแนะนำในเรื่องการวิ่งให้กับเราซึ่งมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น การฝึกวิ่งครั้งแรก (First Run), การวิ่งทางไกลครั้งแรก (First Long Run) หรือไม่ว่าจะเป็นการฝึกวิ่งเร็วครั้งแรก (First Speed Run) ฯลฯ ก็จะมีให้เลือกตามต้องการ ซึ่งการวิ่งในแต่ละโหมดนั้นจะมีเสียงโค็ช (ภาษาอังกฤษ) อธิบายให้ฟังด้วยว่าเราจะต้องทำอย่างไร
ล่าสุดนี้ผมได้ทดสอบการวิ่งเร็วแบบ Interval Run ซึ่งเป็นการวิ่งเร็วสลับกับการพักเพื่อให้หัวใจได้ฟื้นสภาพแล้วก็วนสลับแบบนั้น จุดประสงค์ก็เพื่อเป็นการฝึกความแข็งแรงให้กับร่างกายโดยเป้าหมายสุดท้ายคือ การวิ่งให้เร็วขึ้นได้ นั่นเองครับ
วิธีฝึกการวิ่งแบบ Interval ด้วยแอป Nike Run Club ด้วย iPhone และ Apple Watch
สำหรับการวิ่งแบบ Interval Run ด้วยแอปนี้วิธีการนั้นให้เปิดแอป Nike Run Club แล้วเลือกเมนู Guided Run ที่ด้านกลางบนของจอ หากเลือกบน Apple Watch ให้ปัดหน้าจอไปด้านขวาเพื่อเข้าสู่โหมดนี้
โหมด Interval Run จะอยู่ใน Speed Run สามารถเลือกได้จากที่นั่น
สำหรับหลักการทำงานของโหมด Interval Run ก็คือ หลังจากเริ่มต้นวิ่งโหมดนี้ในช่วง 5 นาทีแรก โค็ชจะให้เราวิ่งอบอุ่นร่างกายเป็นเวลา 5 นาที โดยจะคอยบอกว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ในขั้นตอนนี้แนะนำว่าให้วิ่งเบา ๆ และต่อด้วยการยืดเส้นเพื่อให้พร้อมสำหรับการวิ่ง
เมื่ออบอุ่นร่างกายพร้อมแล้วก็เข้าสู่โหมดการวิ่งเร็วสลับช้าหรือการวิ่ง Interval Run นะครับ ในครั้งนี้จะทำการวิ่งแบบ
- วิ่งเร็ว 1 นาที
- พัก 1 นาที
- สลับกัน 8 รอบ
- หลังครบรอบที่ 8 จะวิ่งเร็วอีก 30 วินาที เพื่อแถมให้อีก
เทคนิคการวิ่งเร็วในที่นี้หมายถึงความเร็วที่เราคิดว่าจะมีแรงทำได้ในระยะการวิ่ง 5 กม. เช่น ตั้งไว้ว่าจะวิ่งเพซ (Pace 5.0) ก็ให้วิ่งที่ความเร็วระดับนั้นไปเรื่อย ๆ แม้ว่าการวิ่งช่วงแรกเราอาจจะมีแรงวิ่งถึงเพซ 3-4 ก็ตาม และนี้คือตัวอย่างที่ได้จากการวิ่งแบบ Interval Run ของผมในครั้งนี้ครับ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ฝึกแบบนี้
ระยะการวิ่งทำได้ 2.65 กม. ความเร็วเฉลี่ย (Average Pace) อยู่ที่ 5:04 นาที/ กม. ระยะเวลาทั้งหมด 13:29 นาที อัตราการเต้นหัวใจเฉลี่ย 151 ครั้ง/นาที (ค่านี้ต้องมี Apple Watch ใส่ด้วยถึงจะทราบได้ และค่ายิ่งน้อยยิ่งดี ถ้าฝึกเยอะ ๆ หัวใจจะเต้นช้ากว่านี้แต่ว่าเราสามารถทำความเร็วได้ดีขึ้น นั่นหมายถึงเราแข็งแรงขึ้นนั่นเอง) และในแอป Nike Run Club เองก็จะบอกแต่ละช่วงการวิ่งว่าทำความเร็วได้เท่าไหร่และระยะทางที่ได้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่เราจะนำมาวิเคราะห์ต่อไป
รูปสุดท้ายเป็นการเช็คกราฟของอัตราการเต้นของหัวใจจะพบว่าเป็นแท่งขึ้นลง นั้นหมายถึงช่วงที่วิ่งและช่วงที่หยุดพัก หากหัวใจของเราฟื้นสภาพเร็วในช่วงพักนั่นหมายความว่าหัวใจเรานั้นแข็งแรงซึ่งในกราฟนี้บอกให้เราเห็นสิ่งนั้นได้ (เป้าหมายต่อไปอยู่ที่ ทำอย่างไรให้หัวใจนั้นฟื้นคืนตัวเร็วขึ้นหลังจากที่ออกแรงมาก ๆ วิธีการที่นิยมกันก็คือการวิ่งโซน 2 หรือการออกกำลังกายให้หัวใจเต้นระดับ 60-70% นั่นเอง)
การวิ่งแบบ Guided Run จำเป็นต้องใช้หูฟังช
เนื่องจากเราจำเป็นต้องฟังเสียงโค็ชแนะนำขณะที่เรากำลังวิ่งนั่นหมายถึงเราต้องใช้หูฟังคู่กับการวิ่งครั้งนี้ด้วย อีกหนึ่งรุ่นที่แนะนำสำหรับการวิ่งนอกจาก AirPods แล้วยังมี BackBeat FIT 2100 รุ่นล่าสุดที่เหมาะสำหรับการใช้งานอีกด้วยครับ
เอาหละ รอบนี้ก็มาบอกให้ทราบกันว่าแอป Nike Run Club นั้นีโหมดต่าง ๆ ให้เลือกใช้งานมากมายหลายแบบ เราเสามารถเลือกให้เหมาะสมได้ ใช้แอปนี้เป็นโค็ชแนะนำการวิ่งให้กับเราซึ่งมันดีกว่าการวิ่งแบบเดา ๆ ที่ไม่มีหลักการแบบนั้นยิ่งจะทำให้เรายิ่งเจ็บตัวสำหรับการวิ่งมากกว่าที่จะได้ออกกำลังกายอย่างมีความสุข
