iOS 10 ที่เพิ่งเปิดตัวไปช่วงงาน WWDC 2016 ที่ผ่านมาและหลังจบงานทาง Apple ปล่อย iOS 10 beta 1 ให้นักพัฒนานำไปทดสอบ(แน่นอนว่าตัวเต็มนั้นยังไม่มา ต้องรอประมาณกันยายนจึงจะได้ใช้) รอบนี้มาชมกันกว่าสิ่งใหม่ๆใน iOS 10 – มีอะไรใหม่ ไปชมกันกับ
85 สิ่งใหม่ๆ ใน iOS 10 – มีอะไรใหม่
- เวอร์เปเปอร์ใหม่ หน้าจอล็อคสกรีนใหม่ปัดด้านซ้ายเพื่อดู Widget และปัดด้านขวาเพื่อเปิดกล้องถ่ายรูปได้
- โฟลเดอร์เปลี่ยนไปเล็กน้อยและเอฟเฟกต์เปลี่ยน
- ตัวหนังสือหนาขึ้น อ่านง่ายขึ้น
- ยกหน้าจอเพื่อเปิดจอ คว่ำจอก็จะดับ ใช้ได้กับ 6s, 6s Plus, SE
- ลบแอปที่มาพร้อมกับ iOS และสามารถลบกลับได้ (แต่พื้นที่ยังคงเท่าเดิม)
- โฆษณาแอปใน App Store
- ปุ่ม Back ปรับเปลี่ยนไป
- Siri เปลี่ยนมาอยู่ใต้การตั้งค่า
- Siri ฉลาดขึ้นสามารถตอบคำถามต่อเนื่องจากประโยคคำถามก่อนหน้าได้ และเสียง(อังกฤษ)ของ Siri ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- iCloud Drive แสดงเนื้อหาไฟล์ที่ซิงก์กับเครื่อง Mac
- แชร์โน็ตจากแอป Notes ให้เพื่อนๆ ได้ ผ่านเบอร์โทรหรือ Apple ID และแก้ไขร่วมกันได้
- facetime เชื่อมต่อได้เร็วขึ้น
- เพิ่มรูปแบบหน้าจอของ Apple Watch ใหม่มากขึ้น (ต้องอัปเดต Apple Watch เป็น watchOS 3.0)
- การตั้งค่าอีเมล, รายชื่อและปฏิทินนั้นแยกเมนูกันชัดเจน อยู่ภายใต้เมนู Settings (การตั้งค่า)
- รองรับ Apple Pay จ่ายผ่าน Safari ได้
- ปรับหน้าตาของรายชื่อใหม่ ในหน้าเบอร์โทร
- วีดีโอปรับตั้งค่าคุณภาพได้และเลือกได้ว่าจะให้เล่นผ่านเซลลูลาร์หรือไม่
- ปรับหน้าตาใหม่ของ Control Center
- เปลี่ยนชื่อ AirPlay Mirroring เป็น AirPlay Screen สำหรับส่งภาพและเสียงบน iPhone, iPad ไปยัง Apple TV หรือ Mac (ต้องติดตั้งแอปเพิ่มที่ Mac)
- 3D Touch เพิ่มเมนูเยอะขึ้น เช่น ไฟฉายปรับระดับความสว่างได้, คัดเลือกค่าจากเครื่องคิดเลขได้, กล้องถ่ายรูปเลือกเมนูการถ่ายได้
- Widget และ Notification จะแยกคนละหน้า
- ออกแบบ Widget แบบใหม่ดูดีกว่าเดิม
- Widget ใช้งานร่วมกับ 3D Touch ได้
- เพิ่ม Widget ใหม่ๆ ได้
- Spotlight เก็บประวัติการค้นหา
- การตอบเร็วบน Notification นั้นปรับปรุงให้น่าใช้งานกว่าเดิม
- Safari เปิดแท็บหน้าเว็บได้อย่างไม่จำกัด
- Safari เพิ่ม Split View ได้ (เปิด 2 หน้าเว็บพร้อมกันในหน้าจอเดียว) ใช้ได้กับ iPad
- หน้าต่างการส่งไฟล์มัลติมีเดียร์แบบใหม่ใน iMessage, ถ่ายภาพ live view ไปยัง iMessage ได้
- แต่งภาพ ใส่ลายเซนต์ ใส่ markup ในภาพก่อนส่งใน iMessage ได้
- ส่งลิงก์วีดีโอจาก youtube ใน imessage สามารถเปิดดูได้ในนั้นเลย
- ส่งลิงก์เว็บผ่าน imessage ก็สามารถแสดงพรีวิวของลิงก์นั้นๆ ได้
- ส่ง Digital Touch ได้ (วาดรูปแล้วจะถูกส่งไปให้คนรับ) ภาพที่แสดงนั้นเป็นแบบกำลังวาด ไม่ใช่ส่งภาพที่เสร็จแล้วไป
- Digital Touch ใช้ได้กับรูปและวีดีโอ แต่งหรือวาดทับก่อนส่งได้
- ส่งข้อความไปพร้อมกับลูกเล่นได้ เช่น การทุบ, การซ่อนข้อความ เป็นต้น
- ส่งข้อความไปพร้อมใส่เอฟเฟกพื้นหลังได้ เช่น พลุหรือไฟดิสโก้
- App Store สำหรับ iMessage เช่นโหลดสติกเกอร์เพิ่มและอื่นๆ ส่งผ่านทาง iMessage ได้
- เลือกอีโมจิแทนคำที่กำลังพิมพ์ได้
- แสดงสถานะอ่านแล้วได้เป้นรายบุคคลและสามารถโต้ตอบทันทีกับข้อความที่รับหรือส่งได้ (ประหนึ่งการ Like โพส)
- คีบอร์ดคาดเดาคำที่เราต้องการพิมพ์ได้มากและยาวขึ้น
- เสียงคีบอร์ดใหม่
- คีบอร์ดเดาภาษาที่เรากำลังพิมพ์ได้เช่น หากเรากำลังสนทนาภาษาอังกฤษปนสเปน ตัวคีบอร์ดจะเดาคำภาษาสเปนให้เราเพิ่มด้วย ทำให้การพิมพ์นั้นง่ายและเร็วขึ้น(สำหรับคนที่สนทนาแบบหลายภาษา)
- ปฎิทินสามารถแนะนำเวลาที่คุณควรจะออกเดินทาง(จากบ้าน) ได้ โดย จะดูข้อมูลของสถานที่บวกกับสภาพการจราจร เช่น ตั้งใจออกจากบ้านตอน 5 โมงเย็นเพื่อไปงานแต่ง แต่ปฏิทินอาจจะแนะนำว่าให้ออกบ้านเร็วกว่านั้นเพราะสภาพการจราจรติดขัด เป็นต้น
- หากมีอีเมลหรือข้อความส่งมาให้เข้าร่วมงานหรือไปกิจกรรมต่างๆ ตัวปฏิทินสามารถแนะนำให้เพิ่มเข้ามาในระบบอย่างง่ายดาย
- อ่านอีเมลแบบโต้กลับไปมาได้ง่ายมากขึ้น
- ฟิลเตอร์อีเมลได้ เช่น เมลที่ยังไม่ได้อ่าน
- พิมพ์อีเมลแบบ 2 ฉบับดูไปพร้อมๆ กันได้ (iPad)
- คอลัมม์ในกล่องอีเมล สามารถซ่อนแถบของโฟลเดอร์ได้ (iPad)
- หากต้องการย้ายอีเมล ระบบจะแนะนำว่าควรย้ายไปที่โฟลเดอร์ไหน
- ข้อมูลอีเมลล่าสุดจะอยู่บนสุด
- ยกเลิกจดหมายข่าวจากอีเมลที่ได้รับได้ ถ้าเมลนั้นส่งมาจากระบบจดหมายข่าวเรากดยกเลิกได้เลย
- แอป Clock เปลี่ยนธีมสีขาวเป็นสีดำ
- เพิ่มฟีเจอร์แนะนำการเข้านอน Bedtime Wake Alarm
- ออกแบบหน้านาฬิกาจับเวลาของ chronograph stopwatch ใหม่
- ใช้ 3D Touch เลือกเวลานับถอยหลังใน Control Center ได้
- เพิ่มแอป Home สำหรับจัดการอุปกรณ์ Homekit
- ปรับปรุงแอป Health ใหม่พร้อมวีดีโอแนะนำการใช้งาน
- แอป Activity สามารถแชร์กิจกรรมที่ทำได้ เช่น แชร์ข้อมูลการวิ่ง
- App Store ตัดแท็บ Explore ออกและแทนที่ด้วย Categories
- Music ใช้ฟีเจอร์ Split View บน iPad
- ดาวน์โหลดเพลงแบบอัตโนมัติในแอป Music
- จัดกการดารดาวน์โหลดเพลงได้ง่ายขึ้น
- กำหนดเนื้อที่สำหรับดาวน์โหลดเพลงจาก Music ได้ เช่น 1GB, 5GB
- ปรับปรุงหน้าตาของแอป Music ใหม่ดูง่ายกว่าเดิม และระบบค้นหาเพลงแบบใหม่ที่มาพร้อมกับ Trending
- แอป Photos ค้นหารูปถ่ายโดยค้นจากชื่อคนหรือสิ่งอื่นๆ ได้ เช่น Car, Mountain, House, Room
- เพิ่มแท็บ Memories สำหรับ Photos สร้างวีดีโอพรีเซนต์จากรูปถ่ายของเราได้
- Photos app search enhancements
- ปรับแต่ง Live Photos ได้
- ใส่ฟิลเตอร์ให้ Live Photos ได้
- ทำเครื่องหมายหรือ Markup รูปที่เราถ่ายได้ (ย้อนกลับไปต้นฉบับก็ได้)
- ระบบ Auto Enhance ของ Photos ทำงานได้ดีขึ้น
- ระบบปรับสี แสงของภาพ ทำได้ดีขึ้น
- แอป News ปรับไอคอนและ UI ใหม่
- เรียงลำดับเรื่องที่ชอบในแอป News ได้
- Maps ปรับดีไซด์ใหม่เพิ่มรายละเอียดเยอะขึ้น
- ระบบ Navigation ทำงานได้ดีขึ้นและแสดงภาพ Overview ของการเดินทางทุกครั้งที่เลี้ยว
- แสดงตำแหน่งที่จอดรถล่าสุด (หากใช้งานร่วมกับ CarPlay)
- Maps เพิ่มเมนู Ride สำหรับเรียกรถแท็กซี่ได้ เช่น UberX
- Maps ค้นหาสถานที่และสามารถจอง(ร้านอาหาร) ได้ผ่านแอปได้เลย
- เพิ่มแอป Swift Playgrounds สำหรับเอาไว้สอนให้คนหัดเขียนโปรแกรมภาษา Swift
- ในการตั้งค่าการช่วยเหลือ มีโหมดปรับฟิลเตอร์สีจอสำหรับผู้พิการทางสายตาได้
- 3D Touch ที่ไอคอน Settings สามารถเลือกปิดข้อมูลเซลลูลาร์ได้
- 3D Touch ยกเลิกการดาวน์โหลดแอปได้
- 3D Touch แชร์ลิงก์ดาวน์โหลดแอปจากไอคอนแอปที่ติดตั้งลง iPhone แล้ว ส่งไปให้เพื่อนๆ ได้
- เปลี่ยนการแสดงผลอุณหภูมิ (C/F) ได้ในเมนู Language & Region
ข้อมูลทั้งหมดนำมาจากวีดีโอของ 9to5mac และส่วนหนึ่งมาจากทีมงาน iPhoneMod เองที่ได้ทดสอบแล้ว สามารถชมคลิปได้ที่นี่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- iOS 10 มาแล้ว มีอะไรใหม่ สรุปสั้นเข้าใจง่าย มีคลิปทดสอบจริงให้ชม
- ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 10 ทั้งหมดเท่าที่รู้ตอนนี้