ได้ทราบกันไปแล้วว่าใน iOS 12 นั้นมีอะไรใหม่บ้าง รอบนี้มาชมกันว่าฟีเจอร์ใหม่ๆ พร้อมรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นหน้าตาจะเป็นยังไงไปชมกันเลยนะครับ
พรีวิว iOS 12 beta 1 สำหรับนักพัฒนา
นักพัฒนาสามารถทดสอบใช้งาน iOS 12 beta ได้ตั้งแต่วันนี้ดาวน์โหลดได้ที่ developer portal ของ Apple สิ่งใหม่ๆ ที่เปลี่ยนแปลงหลักๆ ได้แก่
- การทำงานภาพรวมตอบสนองเร็วขึ้นทุกรุ่น คะแนนการประมวลกราฟฟิกเร็วขึ้นเห็นได้ชัด
- Wallpaper หน้า Home ใหม่
- Animoji และ Memoji ใหม่
- FaceTime Group Call โทรเป็นกลุ่มได้
- แอป Voice Memo ออกแบบใหม่รองรับ iCloud ซิงก์ไปใช้กับ Mac ได้
- CarPlay รองรับแอป 3rd Party อย่าง Google Maps, Waze
- Group Notification จัดกลุ่มการแจ้งเตือน
- แอป Photos ฉลาดขึ้น ค้นหารูปได้ง่ายขึ้น แชร์ได้ฉลาดและเร็วขึ้น
- Siri เก่งขึ้น มี Suggestion และ Add to Siri
- Siri Shortcut ทางลัดต่างๆ และสามารถสร้าง Shortcut ของเราเองได้
- Screen Time ฟีเจอร์ใหม่ดูรายละเอียดการใช้งานเครื่องทั้งแอปต่างๆ ว่าใช้งานแต่ละแอปไปแล้วนานเท่าไหร่, ดูสถิติต่างๆ หรือยังการจำกัดการใช้งานแอปต่างๆ ได้
- Swipe Up เพื่อปิดแอปพลิเคชันที่หน้า App Swicther ได้
- Swipe Up เพื่อปิดแอปนั้น ปิดได้มากกว่า 1 แอปในเวลาเดียวกัน
- เพิ่มแอป Measure สำหรับการวัดขนาดด้วย ARKit (6s, SE ขึ้นไป)
- เพิ่มเมนู Scan Document บนแอป Notes เมื่อกด 3D Touch
- Control Center มีเมนูสแกน QR Code
- แชร์ข้อมูลผ่าน AirDrop ได้เร็วขึ้น
- แอป Stock ใหม่
- เพิ่มความยาวของ Animoji และ Memoji เป็น 30 วินาทีเดิมใช้ได้ 10 วินาที
- Memoji คือ Animoji ประจำตัวที่เราสามารถสร้างขึ้นมาได้ จากนั้นสามารถใช้ส่งข้อความ Animoji หาเพื่อนๆ ได้เลย
- เมนู Scan QR Code บนแอปกล้องเมื่อกด 3D Touch
- เพิ่ม Face ID ได้สูงสุด 2 ใบหน้า
- USB Accessories ถ้าเครื่องไม่ได้ใช้งาน 1 ชม. ระบบจะถามหา Passcode (เลือกปิดฟีเจอร์นี้ได้)
- Automatics Update ตั้งให้อัปเดต iOS แบบออโต้ได้
- Do Not Disturb มี Bedtime Mode
- iPad Control Center เรียกใช้งานจากมุมบนขวา เหมือนกับ iPhone X
- iPad ตวัดที่ Dock เพื่อกลับหน้า Home
- หน้า UI ของ Notification แต่ละแอปมีการเปลี่ยนแปลง (เข้าชมที่ Settings> Notifications> แอปนั้นๆ )
- มีฟีเจอร์ Notification Grouping จัดกลุ่มของการแจ้งเตือนได้ แยกเป็นกลุ่มของแอปหรือจะให้รวมแบบออโต้ (เข้าชมที่ Settings> Notifications> แอปนั้นๆ> Options )
- เพิ่ม Widget ของ Screen Time
- ย้ายเครื่องมือการวัดระดับจากเดิมอยู่ในแอปเข็มทิศไปอยู่ในแอป Measure แทน
- รองรับ Keyboard Trackpad ใน iPhone รุ่นเก่าที่จอไม่รองรับ 3D Touch โดยกดค้างที่ Spacebar เพื่อเลื่อน Cursor
เพิ่มเติม 100 การเปลี่ยนแปลงใน iOS 12
- กดปุ่ม Space Bar ที่คีย์บอร์ด (iPhone รุ่นไม่มี 3D Touch) ค้างไว้เพื่อเลื่อน Cursor การพิมพ์ได้
- เมื่อเปิด Do not Disturb แล้วแตะ “สิ้นสุด” จะมี Widget “Good Morning” แสดงที่หน้า Lock Screen
- เมื่อเปิด Do not Disturb ในหน้า Lock Screen พวก Widget, ไอคอนและการแสดงผลจะเป็นแบบ Dark Mode
- Apple เปิดให้นักพัฒนาแอปภายนอกใส่ Dark Mode ในแอปตัวเองได้
- ปุ่ม Clear การแจ้งเตือนในหน้า Lock Screen ใหญ่ขึ้น
- ปรับหน้าจอการตั้งค่า Notification ใน Settings ใหม่
- เลือกรูปแบบการแสดง Group Notification ได้ ว่าจะให้จัดกลุ่มตามแอป, อัตโนมัติหรืออื่นๆ
- ขนาดตัวหนังสือของ Status Bar ในหน้า Lock Screen ใหญ่ขึ้น
- ตำแหน่งการจัดวางไอคอนแอปในหน้า Home Screen เปลี่ยนใหม่
- แตะ 3D Touch ใน Control Center ลื่นขึ้น
- เพิ่มแถบพื้นที่ของ Widget เมื่อแตะ 3D Touch
- ไม่มีคำว่า “Do not Disturb On” เมื่อแตะเปิด Do not Disturb ใน Control Center
- เพิ่มเมนู “Scan QR Code” เมื่อกด 3D Touch ที่แอป Camera
- เพิ่มหน้าจออธิบายการใช้ QR Code ในแอป Camera
- ย้ายตำแหน่งการตั้งค่า Control Center ใน Settings ให้อยู่ช่วงด้านล่าง
- เพิ่ม “Scan QR Code” ในการตั้งค่า Control Center
- เพิ่ม “Hearing” ในการตั้งค่า Control Center
- iPhone 7 / 7 Plus มี Haptic สั่นเมื่อกดถ่ายรูปที่แอป Camera
- iPhone 6s / 6s Plus มี Haptic สั่นแรงขึ้น (จากความรู้สึก)
- มีข้อความอธิบายการใช้งานอยู่ด้านบน เมื่อแตะที่ Widget Screen Recording ที่ Control Center
- เมื่อแตะ Do not Disturb ที่ Control Center จะไม่มีหน้าต่างแจ้งเตือนเปิดการใช้งานที่ด้านบนแล้ว
- เพิ่มไอคอนการควบคุม AirPlay 2 ที่ Widget AirPlay 2 ในกรณีที่เลือกควบคุมห้องเดียว
- เพิ่มไอคอนปรับระดับเสียง AirPlay 2 ที่ Widget AirPlay 2 ในกรณีที่เลือกควบคุมห้องเดียว
- ปรับรูปแบบการ Slide ปิดแอปที่ Multitasking สำหรับ iPhone X ใหม่ ให้ปัดขึ้นด้านบนเพื่อปิดแอปได้เลย โดยที่ไม่ต้องกดค้างแล้วเลือกปิด
- หากสแกน Face ID ในหน้า Lock Screen บน iPhone X ไม่ผ่าน จะขึ้นหน้า Passcode และผู้ใช้สามารถสแกนหน้าแล้วปัดหน้าจอขึ้นได้เลย ไม่จำเป็นต้องกรอก Passcode อย่างเดียว
- [Bug] สามารถเปิดแอป Camera จากหน้า Lock Screen แล้วให้ถ่ายวิดีโอ / ปัดหน้าจอลงมาถ่ายภาพได้
- [Bug] สามารถเปิดแอป YouTube แล้วกดออกมาหน้าจอ Lock Screen เร็วๆ เพื่อฟัง YouTube ในหน้า Lock Screen ได้
- หน้าจอยืนยันการอัปเดต iOS สำเร็จแบบใหม่
- เพิ่มเมนู “Scan Document” เมื่อกด 3D Touch ที่แอป Note
- เปลี่ยนสีรูปหัวดินสอในแอป Note (โหมดการเขียน) จากสีดำให้เป็นสีเทา
- เมื่อแตะที่หัวปากกาในแอป Note (โหมดการเขียน) จะมีรูปแบบระดับความโปร่งแสงให้เลือก
- ปรับปรุง Widget ของแอป Stock ใหม่เมื่อกด 3D Touch
- เปลี่ยนไอคอน Record จากสีดำเป็นสีแดง เมื่อกด 3D Touch ที่แอป Voice Memo
- เมื่อคัดลอก Link จาก Safari แล้วเปิด Spotlight Search จะมีคำแนะนำให้วาง Link ที่คัดลอกไว้
- Spotlight Search แสดงหมายเลขโทรศัพท์, ข้อความล่าสุดที่เคยคัดลอกไว้
- เพิ่มโหมดตัวช่วยการฟัง (Hearing) เมื่อเชื่อมต่อ iPhone กับหูฟัง AirPods
- เพิ่ม Widget ของฟีเจอร์ Screen Time ในหน้า Lock Screen
- เพิ่มการรายงานคุณภาพอากาศ (Air Quality) ว่าอากาศดีหรือไม่ในแอป Weather
- เพิ่มรูปแบบการเลือกสีใหม่ในฟีเจอร์ Markup
- เพิ่มตัวกรองประเภทของสื่อในแอป Photos
- เพิ่มทางลัดของแอปใน Messages สลับได้ว่าจะแสดงรายการแอปหรือข้อความแนะนำ
- ปรับปรุงพื้นหลังและขนาดของข้อความแนะนำในแอป Messages
- ปรับปรุงหน้า More Apps ใน Messages
- เมื่อแตะแอปที่เป็นแบบวาดเขียนใน Messages จะแสดงหน้าจอวาดเขียนข้อความแบบเต็ม
- เมื่อแตะไอคอน Camera ใน Messages จะแสดงหน้าจอถ่ายภาพแบบเต็มจอ
- เพิ่มทางลัด Effect, Animoji ใน Camera ของแอป Messages
- เพิ่มแอป Photos ในแอป Messages
- iPhone X สามารถอัดวิดีโอ Animoji ได้สูงสุด 30 วินาที (จากเดิมสูงสุดที่ 10 วินาที)
- เมื่อแตะที่ไอคอนชื่อด้านบนของหน้ารายละเอียดข้อความในแอป Message จะแสดงไอคอน audio, facetime, info
- iPhone X มีลูกศรเพื่อแตะกลับไปหน้าจอเต็มเมื่อใช้ Reachability (ย่อหน้าจอ)
- iPhone X สามารถใช้นิ้วเพื่อลากหน้าจอขึ้น-ลงเมื่อย่อหน้าจอได้
- iPhone X เมื่อแตะเปิดแอปขณะย่อหน้าจออยู่ หน้าแอปจะแสดงเร็วขึ้น
- องศ์ประกอบหน้าจอต่างๆ แสดงสีได้ถูกต้องขึ้นเมื่อเปิด Smart Invert
- สั่ง Siri ให้เปิดไฟฉายได้แล้ว
- สั่ง Siri ได้ถึงแม้จะเปิด Low Power Mode อยู่
- มีสำเนียง Siri ภาษาใหม่ให้เลือกใช้
- ถามรหัสผ่านแอปต่างๆ จาก Siri ได้ (ถามได้บางแอป)
- เมนู Sounds & Haptics ในหน้า Settings ย้ายขึ้นมาอยู่ด้านบน
- เพิ่มเมนู Voice Memo ใหม่ในหน้า Settings
- เพิ่มใบหน้าสำหรับสแกน Face ID ได้สูงสุด 2 ใบหน้า
- เพิ่มเมนู USB Accessories เพื่อป้องกันการเชื่อมต่อ USB หากเครื่องไม่ได้ปลดล็อคมากกว่า 1 ชั่วโมง
- เพิ่มเมนูการตั้งค่าอัปเดตอัตโนมัติของ Software Update
- เพิ่ม Wallpapers ใหม่
- Wallpapers จาก iOS 9 บางตัวหายไป
- หน้าจอคำแนะนำการประหยัดแบตเตอรี่ (Battery Suggestion) แบบใหม่
- หน้าจอรายงานข้อมูลการใช้แบตเตอรี่ (Battery Usage) แบบใหม่
- การแตะดูข้อมูลการใช้แบตเตอรี่ในแต่ละชั่วโมงแบบใหม่
- ดูประวัติข้อมูลการใช้แบตเตอรี่ใน 10 วัน (ก่อนหน้านี้เป็น 7 วัน)
- ข้อมูล Battery Usage ไม่ถูกล้างค่าแล้วหาก Reboot เครื่อง
- เพิ่มเมนูการเลือกเปิด-ปิด Siri Suggestion สำหรับหน้า Lock Screen
- เพิ่มเมนูการตั้งค่า Books ใน Settings
- ตั้งค่าให้แสดง Favicon ใน Safari ได้แล้ว
- Reset ข้อมูลประวัติการใช้ Cellular ได้แล้วใน Settings
- ไอคอน Request Desktop Site ในเมนู Sharesheet ของ Safari เปลี่ยนเป็นรูป iMac Pro
- ไอคอน Favorite, Add to Desktop ในเมนู Sharesheet ของ Safari ปรับขนาดลดลง
- เพิ่มฟีเจอร์สร้างรหัสผ่าน (Passcode) แบบเดายากใน Safari
- Safari แนะนำการใช้ตัวอักษรและตัวเลขสำหรับการตั้งรหัสผ่าน
- 1Password แนะนำการตั้งรหัสผ่านได้
- หากใช้ Apple Music แบบทดลองใช้งาน ใน Apple Music มี Banner แสดงว่ากำลังใช้บริการ Apple Music แบบไม่จ่ายเงินอยู่
- ภาพนักร้องในหน้ารวมเพลงของนักร้องบน Apple Music ใหญ่ขึ้น
- แตะเล่นเพลงทั้งหมดในหน้ารวมเพลงนักร้องแต่ละรายได้
- ค้นหาเพลงด้วยเนื้อเพลงใน Apple Music ได้แล้ว
- เพิ่มส่วน “You Might Have Missed” ใน App Store
- แอป Wallet ปรับปรุงรูปแบบการแสดงข้อความใหม่ให้อ่านง่ายขึ้น
- มีการแสดงรายละเอียดมากกว่าเดิมในการแจ้งเตือน Apple Pay
- ปรับปรุง Animation ของ Face ID ในหน้ายืนยันการซื้อบน App Store
- การวัดระดับในแอป Compass ย้ายไปไว้ที่แอป Measure
- ใช้ Dictation สำหรับคีย์บอร์ดจากแอปที่ไม่ใช่ของ Apple ได้
- เมื่อเปิดใช้ Bed Time ระบบจะเปิด Do not Disturb ก่อนเวลาที่ตั้งเข้านอนโดยอัตโนมัติ
- Podcasts เปลี่ยนชื่อเป็น Apple Podcasts
- ปรับปรุงหน้าจอแนะนำ Podcasts แบบใหม่
- เพิ่มเมนูการตั้งเวลา Skip Podcasts
- (รายงานจากผู้ใช้) iPhone จะไม่ทำงานช้าลง ถึงแม้แบตเตอรี่ใกล้หมดก็ตาม
- ใช้การปัดเพื่อปลดล็อคบน iPad ได้แล้ว (เหมือน iPhone X)
- ปัดหน้าจอจากด้านล่างเพื่อเรียก App Switcher บน iPad ได้แล้ว (เหมือน iPhone X)
- เรียก Control Center จากมุมบนขวาบน iPad (เหมือน iPhone X)
- ปัดหน้าจอจากด้านล่างเพื่อกลับมายังหน้า Home (เหมือน iPhone X)
- ปรับปรุง Status Bar ด้านบนของ iPad ให้เหมือน iPhone X
- ไอคอนแสดงสถานะการอัดหน้าจอของ iPad แสดงเหมือน iPhone X
- เมื่อดูวิดีโอแบบ Full Screen บน iPad ผ่าน Safari ตัววิดีโอจะเล่นบนเครื่องเล่นของเว็บนั้นๆ
อัปเดตข้อมูลทั้งหมดของ iOS 12 ที่นี่เลย https://www.iphonemod.net/ios-12
คลิปพรีวิว iOS 12 Beta 1 โดยทีมงาน iMoD
ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงใหม่ใน iOS 12
ข้อมูล iOS 12 ที่เกี่ยวข้อง
- สรุป iOS 12 มีอะไรใหม่
- iPhone, iPad และ iPod touch รุ่นไหนได้ไปต่อ iOS 12 บ้าง
- เผยโฉม Group FaceTime ได้สูงสุด 32 คนพร้อมกันใน iOS 12
- เผยโฉม Memoji ใน iOS 12 ปรับแต่งตัวละครเองได้ ใช้ iPhone X ได้สนุกกว่าเดิม
อัปเดตข้อมูลทั้งหมดของ iOS 12 ที่นี่เลย https://www.iphonemod.net/ios-12
หากมีส่วนไหนเพิ่มเติมใหม่จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง