20 กันยายน 62, Apple ได้ปล่อยอัปเดต iOS 13 ให้กับผู้ใช้ iPhone, iPod touch ได้อัปเดตกันแล้ว มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่มากมาย ชมข้อมูลน่าสนใจกันได้เลย
iOS 13 มาแล้ว!
iOS 13 มาพร้อมเลข Build Number : 17A577
โดย iPhone, iPod touch รุ่นที่สามารถอัปเดตเป็น iOS 13 ได้มีดังนี้
iPhone
- iPhone 11 Pro, iPhone 11 Pro Max (2019)
- iPhone 11 (2019)
- iPhone XS, iPhone XS Max (2018)
- iPhone XR (2018)
- iPhone X (2017)
- iPhone 8, iPhone 8 Plus (2017)
- iPhone 7, iPhone 7 Plus (2016)
- iPhone 6s, iPhone 6s Plus (2015)
- iPhone SE (2015)
iPod
- iPod touch รุ่นที่ 7 (2019)
ไฮไลท์สิ่งใหม่ใน iOS 13
Dark Mode
- เปลี่ยน Theme หน้าจออุปกรณ์ให้กลายเป็นโทนสีมืดได้
- ตั้งเวลาการเปิด-ปิด Dark Mode ได้ โดยเลือกได้ว่าจะให้เปิด-ปิดตามเวลา หรือตามที่ผู้ใช้กำหนดเอง
- ทำงานร่วมกับแอปใน iOS ได้เป็นอย่างดี
- สามารถเรียกเปิดใช้งานได้ง่าย เช่น Control Center เป็นต้น
Photos
- ปรับปรุงแท็บใน Photos ใหม่หมด เข้าดูรูปภาพตามหมวดหมู่ ประเภท ที่ระบบจัดให้ได้ง่ายขึ้น
- แสดงกลุ่มรูปภาพอย่างชาญฉลาด เรียงตามวัน เดือน ปี เข้าไปดูได้ง่าย
- เลือกช็อตภาพที่ดีที่สุดได้ง่ายขึ้น
- ใส่หัวเรื่องภาพได้น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นชื่อสถานที่ หรือกิจกรรมต่าง ๆ ช่วยหาภาพได้ง่าย
- มีโหมดวันเกิดที่จะแสดงรูปภาพของคน ๆ นั้นเป็นรายปี (ตามวันเกิดของคนแต่ละคน)
- ปรับปรุงการเก็บอัลบั้มจาก Screen Recording ใหม่ให้มาอยู่ในอัลบั้มเดียว
- สามารถเลือกเพลงจากแอป Music มาใส่ในชุดภาพ Memory ได้ด้วย
- ดูตัวอย่างภาพ ปรับแต่งภาพอย่างง่ายได้รวดเร็ว
- มี Filter Control ปรับแต่งภาพได้มากขึ้น เช่น Vivid, Noir และอื่น ๆ
- รองรับการปรับแต่งวิดีโอได้มากขึ้น เช่น ใส่ Filter, ครอปขนาดวิดีโอ, หมุนวิดีโอ, เพิ่ม Exposure เป็นต้น
- เล่น Live Photo และวิดีโอโดยอัตโนมัติเมื่อเลื่อนผ่าน
- มี Animation และ Transition แสดงระหว่างการชมภาพในอัลบั้มต่าง ๆ
- มี On This Day แสดงภาพวันนี้เมื่อปีที่แล้ว
- รองรับการซูมภาพเข้า-ออกได้เลยในหน้ารวมภาพ
- ปรับปรุงความสามารถในการค้นหาภาพได้ฉลาดมากขึ้น
- เพิ่มระยะเวลาการเคลื่อนไหวของ Live Photo ให้นานกว่าเดิม
- มี Enhance Control ช่วยปรับภาพให้สวยงามขึ้น เช่น Exposure, Brilliance, Highlights, Shadows, Contrast, Brightness, Black Point, Saturation, Vibrance
- ปรับปรุง Auto Adjustments แต่งภาพอัตโนมัติได้ดีกว่าเดิม
Camera
- ปรับแต่งภาพ Portrait Lighting ได้มากขึ้น โดยสามารถปรับระดับความสว่างของไฟ Studio, ปรับความเนียนของผิว, รูปแบบของดวงตา และปรับใบหน้าของแบบให้สว่างขึ้น
- เพิ่ม Portrait Lighting Effect ตัวใหม่ชื่อว่า High-Key Mono
Volume HUD
- เมนูปรับระดับเสียงแบบใหม่ ไม่บังหน้าจอแล้ว
Sign In with Apple
- Sign In with Apple ID ช่วยให้การใช้ข้อมูลของผู้ใช้ที่มีอยู่แล้วในการลงชื่อเข้าใช้แอปต่าง ๆ ปลอดภัยมากขึ้น โดย Sign In with Apple ID ไม่จำเป็นที่ผู้ใช้ต้องกรอก Password ใหม่ สามารถใช้ Face ID, Touch ID ในการยืนยันข้อมูลได้เลย
- ซ่อนอีเมลผู้ใช้กรณีที่แอปบางตัวต้องการข้อมูลอีเมลของผู้ใช้ ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะให้อีเมลจริงหรือจะให้อีเมลที่ Generate โดยระบบของ Apple หรือไม่ ซึ่งสามารถปกป้องตัวตนของผู้ใช้ได้เป็นอย่างมาก
- Apple ไม่เก็บข้อมูลระหว่างการใช้งาน Sign In with Apple ID
- Sign In with Apple ID สามารถเปิดใช้งานได้ทุก Platform ไม่ว่าจะเป็นบนเว็บ, แอป, Android หรือ Windows
Privacy and Security
- ควบคุมการเข้าถึงข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งของผู้ใช้ในกรณีที่แอปต้องการข้อมูล
- แจ้งเตือนไปยังผู้ใช้ในกรณีที่แอปใช้ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งแบบเบื้องหลัง (เพื่อความโปร่งใส)
- เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth ของผู้ใช้มากขึ้น มี API ควบคุมในกรณีที่มีการร้องขอข้อมูลผ่าน Wi-Fi, Bluetooth
- ควบคุมข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งของผู้ใช้ในกรณีการแชร์ภาพ สามารกำหนดได้ว่าจะแชร์ตำแหน่งที่ตั้งด้วยหรือไม่ในกรณีที่แชร์ภาพลง Social Media
- เพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยในการใช้นิ้วแตะข้อมูลต่าง ๆ บน Safari
App Store, ดาวน์โหลดแอปผ่าน 4G ไม่จำกัด
- มาพร้อม Apple Arcade
- ดาวน์โหลดแอปผ่าน Cellular ไม่จำกัดขนาดแอปได้แล้ว (เกิน 200MB ได้แล้ว)
Find My
- รวมแอป Find My iPhone และแอป Find My Friends ไว้ในแอปเดียว
- มีฟีเจอร์การตามหาอุปกรณ์ Apple ที่ Offline อยู่ โดยใช้หลักการให้อุปกรณ์ยิงสัญญาณ Bluetooth ไปยังอุปกรณ์ Apple ที่อยู่ใกล้ ๆ (ที่เชื่อมอินเทอร์เน็ต) จะได้ทราบว่าอุปกรณ์ที่สูญหายอยู่ในละแวกไหน
Game Controllers
- รองรับเชื่อมต่อ iPhone กับจอยเกม PlayStation 4 และ Xbox One S เพื่อเล่นเกมได้
Files
- มี Folder “Download” ที่เก็บไฟล์ดาวน์โหลดมาจาก Safari หรือ Mail
- รองรับการเชื่อมต่อกับ USB Drive, SD Card หรือ Hard Drive ต่าง ๆ
- แชร์ Folder ผ่าน iCloud Folder Sharing ได้
- สร้าง Folder ใน Local Storage ได้
- รองรับ Keyboard Shortcuts
- เชื่อมต่อเพื่อเก็บไฟล์บน File Server ได้ (PC, SMB)
- สแกนเอกสารได้
- มีเจอร์ Zip, Unzip
Safari
- ปรับปรุงหน้าเริ่มแรกใหม่ (Start Page) แสดงหน้าเว็บที่เราเข้าบ่อย
- มีตัวช่วยการดาวน์โหลดไฟล์ (Download Manager) เมื่อดาวน์โหลดเสร็จจะเก็บไว้ในแอป Files สามารถเข้าไปจัดการ หรือจะย้าย Directory ให้ไปเก็บในที่อื่น ๆ ก็ได้
- รองรับการปรับขนาดก่อนอัปโหลดภาพ
- บันทึกเว็บไซต์บน Tabs ทั้งหมดไว้ที่ Bookmarks ได้ (หรือจะเรียกเปิดทั้งหมดก็ได้)
- แจ้งเตือนหากตั้ง Password ไม่ปลอดภัย
- เลือกได้ว่าจะอนุญาตให้เว็บนั้น ๆ เข้าถึงกล้อง ไมโครโฟน ได้หรือไม่
Notes
- แสดง Notes เป็นแบบ Gallery View ดูง่ายขึ้น
- สามารถ Share Folder ร่วมกับผู้อื่นได้แล้ว สามารถใส่ Notes, ไฟล์ต่าง ๆ และสร้าง Folder ย่อยในนั้นได้ด้วย
- มีการจัดการ Notes และการจัดการ Folders, สร้าง Folders ย่อยได้ จัดการได้ง่ายขึ้น
- ฟีเจอร์ checklist แบบใหม่ รองรับการ Drag & Drop มาใช้งาน
Memoji and Messages
- ใส่ชื่อและภาพประจำตัวของ Message ด้วย Memoji ได้
- สามารถนำ Memoji มาทำสติกเกอร์ได้ (สติกเกอร์เริ่มต้นของระบบ สร้างเองไม่ได้)
- Animoji เพิ่มใหม่ 3 ตัว
- เพิ่มตัวเลือกของตกแต่งในการสร้าง Memoji มากขึ้น
- Animoji, Memoji ใช้งานได้บนอุปกรณ์ที่ใช้ชิป A9 ขึ้นไปแล้ว (iPhone 6s ขึ้นไป)
Keyboard
- ปัดหรือลากนิ้วเพื่อพิมพ์ข้อความได้แล้ว
- Dictation จะตรวจจับว่าตอนนี้เราพูดภาษาอะไรอยู่แล้วจะพิมพ์ภาษานั้นลงไป
Performance
- เปิดแอปเร็วกว่าเดิม 2 เท่า
- สแกนหน้า Face ID เร็วกว่าเดิม 30%
- ขนาดแอปดาวน์โหลดใน App Store ลดลงจากเดิม 50% (เริ่มปลายปี 2019)
- ขนาดแอปอัปเดตใน App Store ลดลงจากเดิม 60%
AirPods
- Siri อ่านข้อความที่ได้รับในแอป Message ได้
- Shared listening เชื่อมต่อ AirPods กับ iPhone แล้วแชร์เสียงเพลงไปยัง AirPods ตัวอื่นได้
Maps
- เพิ่มรายละเอียดของแผนที่ใหม่ ๆ มีมุมมอง 3 มิติของตัวอาคารและสถานที่สำคัญด้วย
- Look Around เป็นฟีเจอร์มุมมองแบบ 360 องศา เห็นบรรยากาศรอบด้านของสถานที่
- สร้าง Collection ในการเเดินทางของตัวเองได้
- แสดงข้อมูลการเดินทางแบบ Real-Time เช่น เวลาถึงที่หมายของรถบัส เป็นต้น
- เพิ่มสถานที่ชื่นชอบใน Maps ได้
Siri
- ปรับปรุงรูปแบบการพูดของ Siri ให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น
- Siri ตอบสนองได้ฉลาดกว่าเดิม
- SiriKit เพื่อให้นักพัฒนาไปพัฒนาแอปต่อได้
- เรียก Siri ให้เปิดรายการวิทยุยอดนิยมได้
Shortcuts
- ปรับปรุงรูปแบบการตั้งค่า การเปิดใช้งาน Shortcuts ให้ง่ายขึ้น
- มีการแนะนำ Shortcuts ให้สอดคล้องกับรูปแบบชีวิตประจำวันของผู้ใช้
Health
- มีฟีเจอร์แสดงข้อมูลรอบประจำเดือน ประวัติ และอื่น ๆ ของผู้ใช้งาน (สุภาพสตรื)
- คาดการณ์รอบเดือนของสุภาพสตรีได้
- แจ้งเตือนข้อมูลเกี่ยวกับรอบประจำเดือนของผู้ใช้งาน (สุภาพสตรื) ได้
- มีฟีเจอร์รายงานข้อมูลเกี่ยวกับระดับเสียงรอบข้างที่ส่งผลต่อสุขภาพของผู้ใช้
- แสดง Activity Trends ของผู้ใช้ว่า ในช่วงระยะเวลาต่าง ๆ รูปแบบการเคลื่อนไหวของผู้ใช้เป็นอย่างไรบ้าง อยู่ในค่าเฉลี่ย สูง หรือต่ำกว่าหรือไม่
CarPlay
- เพิ่ม Dashboard ใหม่ ใช้งานง่ายขึ้น
- เพิ่มแอป Calandar
- ปรับปรุงหน้าตาแอป Music, หน้า Home, Apple Maps, Siri
- แสดงภาพอัลบั้มเพลงที่เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth มาตรฐาน AVRCP 1.6
- รองรับ “Hey Siri” (เฉพาะรถรุ่นที่รองรับ)
- การใช้แอปบน iPhone กับบน CarPlay แยกออกจากกัน ประมาณว่าคนขับดู Maps อยู่ ส่วนผู้โดยสารสามารถเลือกฟังเพลงได้โดยไม่ทับซ้อนกัน
Home
- HomeKit Secure Video เก็บคลิปวิดีโอจากกล้องแล้วอัปโหลดไปบน iCloud (เข้าหรัส) ในกรณีที่ คน สัตว์ หรือสิ่งของอยู่ในขอเขตของกล้อง (ที่รองรับ HomeKit) โดยผู้ใช้สามารถควบคุมได้ว่าจะสั่งเล่น บันทึกวิดีโอ หรือปิดกล้องก็ได้
- ควบคุมกล้องผ่านเราเตอร์ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Smart Home, ใช้แอป Home ในการควบคุมอุปกรณ์ HomeKit ภายในบ้านผ่านอินเทอร์เน็ตและเราเตอร์ที่มีความปลอดภัยสูง
- เพิ่ม Siri Shortcuts ในการสั่งการอุปกรณ์ HomeKits ได้
คุณสมบัติอื่น ๆ
Battery
- Optimized battery charging เป็นฟีเจอร์ถนอมแบตเตอรี่ โดยถ้าเปิดโหมดนี้ iPhone จะเรียนรู้รูปแบบการชาร์จแบตฯ ของเราเพื่อหยุดการชาร๋จเมื่อยังมีแบตฯ เกิน 80% จนถึงเวลาที่เราต้องใช้เครื่อง (การตั้งค่า > แบตเตอรี่ > สุขภาพแบตเตอรี่)
Music
- แสดงเนื้อเพลง (Lyrics) แบบใหม่ โดยแสดงเนื้อร้องตามจังหวะและเสียงเพลง
Phone
- ปิดกั้นการรับสายจากเบอร์โทร์ที่มีลักษณะเหมือนสแปม โดยถ้าเปิดฟีเจอร์นี้ Siri จะยอมรับสายของผู้ติดต่อที่ผู้ใช้บันทึกไว้ แต่จะปิดกั้นสายจากเบอร์แปลก ๆ โดยถ้าเป็นคนอื่นก็จะถูกนำไปที่ระบบ Voicemail โดยอัตโนมัติ
Settings
- Low Data Mode สำหรับลดการใช้ข้อมูลเครือข่าย
Accessibility
- มี Voice Control สำหรับควบคุม iPhone ด้วยเสียงได้
Fonts
- สามารถนำเข้า Font รูปแบบต่าง ๆ เพื่อใช้งานในแอปที่รองรับได้
- ดาวน์โหลดแอปที่เกี่ยวกับ Font ได้ที่ App Store
Languages
- เพิ่มพจนานุกรม อังกฤษ – ไทย
Screen Time
- One more minute ทดเวลาพิเศษ 1 นาที ในกรณีที่หมดเวลาหน้าจอแล้ว
- ผู้ปกครองสามารถใช้ Screen Time ในการจัดการกับผู้ติดต่อบนอุปกรณ์ของเด็ก ๆ ได้
- ผู้ปกครองสามารถตั้งได้ว่าจะให้เด็ก ๆ สนทนากับใครได้บ้าง เป็นเวลาเท่าไหร่
System Experience
- เลือก Wi-Fi ที่ต้องการเชื่อมต่อผ่าน Control Center ได้แล้ว
- ปรับปรุงหน้าต่างปรับระดับเสียงใหม่ เล็กกว่าเดิม ไม่บังหน้าจอแล้ว
- แตะที่ลิงก์ หรือข้อมูลค้างไว้เพื่อเรียกดูตัวอย่างข้อมูลอย่างรวดเร็ว
- แตะที่ไอตอนแอปค้างไว้เพื่อเรียกเมนูลัดอย่างรวดเร็ว
- แตะที่ไอคอนแอปค้างไว้อย่างรวดเร็วเพื่อเรียกเมนูลัดของแอปนั้น ๆ
- รองรับสัญญาณเสียง Dolby Atmos, Dolby Digital, Dolby Digital Plus
อัปเดตเป็น iOS 13
สำหรับข้อมูลที่ควรทราบเกี่ยวกับการอัปเดตเป็น iOS 13 มีดังนี้
- เตรียมเครื่องให้พร้อมก่อนอัปเดตเป็น iOS 13 : https://bit.ly/2kHpLK5
- วิธีอัปเดตเป็น iOS 13 : https://bit.ly/2kpwsA3
- ดาวน์โหลด IPSW iOS 13 สำหรับติดตั้งบนคอม : https://bit.ly/2m35oXK
- หลังอัปเดตเป็น iOS 13 แล้ว ต้องตั้งค่าจุดไหนบ้าง > https://bit.ly/2lVcwpb
- ตั้งค่า iPhone ใน iOS 13 ให้ประหยัดแบตเตอรี่ > https://bit.ly/2lWppPY
- เพิ่มพื้นที่การใช้งานใน iPhone มากขึ้นใน iOS 13 > https://bit.ly/2klFlKW
- วิธีการดาวน์เกรดจาก iOS 13 ไปยัง iOS 12.4.1 ด้วย iTunes (แบบ Clean Restore) : รออัปเดต
ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net