iOS ใหม่ ๆ มักจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ความด้านปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ใน iOS 16 ที่พึ่งเปิดตัวไปมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจที่จะช่วยรักษาความเป็นส่วนตัว และข้อมูลสำคัญของเรา มาดูกันว่าใน iOS 16 มีฟีเจอร์อะไรใหม่บ้าง
สรุปฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวใน iOS 16
เรามาดูกันว่า Apple ได้เพิ่มฟีเจอร์อะไรเข้ามาใน iOS 16 ที่จะช่วยให้ผู้ใช้อย่างเรามีความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
1.สแกน Face ID แนวนอน
iOS 16 รองรับการสแกน Face ID เพื่อปลดล็อกเครื่องแบบแนวนอนได้แล้ว โดยฟีเจอร์นี้ในตอนนี้รองรับ แค่ iPhone 12 Series และ iPhone 13 Series เท่านั้น
2.การตอบสนองด้านความปลอดภัยที่ฉับไว
iOS 16 มีการปรับปรุงด้านความปลอดภัยที่สำคัญนอกเหนือจากการอัปเดตซอฟต์แวร์ตามรอบปกติ รวมถึงมีการป้องกันปัญหาด้านความปลอดภัยต่าง ๆ มาด้วย แนะนำให้อัปเดต iOS เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ
3. ใช้ Face ID / Touch ID ปลดล็อกอัลบั้มรูปภาพที่ซ่อนอยู่และอัลบั้มรูปภาพที่พึ่งลบไป
อัลบั้มรูปภาพที่ซ่อนอยู่และอัลบั้มรูปภาพที่พึ่งลบไปจะมีการล็อกอยู่ เราจะต้องใช้ Face ID หรือ Touch ID ปลดล็อกก่อนถึงจะเข้าไปดูรูปที่อยู่ในอัลบั้มทั้งสองนี้ได้
4. Safety Check
การตรวจสอบด้านความปลอดภัย หรือ Safety Check เป็นฟีเจอร์ด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยใหม่ เป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ความรุนแรงในครอบครัวหรือความรุนแรงในคู่รักสามารถทบทวนและรีเซ็ตสิทธิ์การเข้าใช้ที่เคยให้ผู้อื่นได้ เช่น การยกเลิกการแชร์ตำแหน่งที่ตั้ง การยกเลิกการแชร์โน้ต
5. PassKey
พาสคีย์ (PassKey) เป็นการแทนที่รหัสผ่านที่ออกแบบมาให้เราสามารถลงชื่อเข้าใช้ในแอปหรือเว็บไซต์โดยไม่ต้องพิมพ์รหัสผ่านเข้าไป แต่สามารถใช้วิธีการแสกน Touch ID, Face ID บนอุปกรณ์ Apple หรือสแกน QR Code สำหรับอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ของ Apple ได้เลย
โดยการลงชื่อเข้าใช้นั้นจะมีการเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ช่วยให้เราปลอดภัยจากการหลอกลวงแบบฟิชชิ่งหรือการรั่วไหลของข้อมูล พาสคีย์มีความแข็งแกร่งกว่าการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยที่ใช้กันอยู่ทั่วไปทุกรูปแบบ และยังใช้กับอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ของ Apple ได้ด้วย
6. ถามก่อนวาง
แอปต้องได้รับอนุญาตจากเราก่อนจึงจะเข้าถึงกระดานวางเพื่อวางเนื้อหาจากแอปอื่นที่เราคัดลอกลงคลิปบอร์ดเอาไว้
7. การปรับปรุงการสตรีมสื่อ
เราสามารถสตรีมวิดีโอโดยตรงจากอุปกรณ์ที่รองรับโปรโตคอลการสตรีมที่ไม่ใช่ AirPlay ได้ โดยที่เราไม่ต้องให้สิทธิ์การเข้าถึง Bluetooth หรือเครือข่ายในพื้นที่ก่อน
iOS 16 จะปล่อยออกมาให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ใช้งานจริงภายในปลายปี 2022 นี้ ระหว่างนี้เราก็สามารถศึกษาฟีเจอร์ต่าง ๆ ไว้รอจะได้ใช้งานเป็นและเข้าใจว่าฟีเจอร์ต่าง ๆ ทำอะไรได้บ้างและมีประโยชน์อย่างไรค่ะ