16 พ.ค. 2023, Apple เผยตัวอย่างฟีเจอร์การช่วยการเข้าถึงใหม่ สำหรับการรับรู้ การพูด และการมองเห็น มีหลานฟีเจอร์ที่น่าสนใจและฟีเจอร์เหล่านี้จะมาพร้อมกับ iOS 17 อาจได้ใช้งานภายในปลายปี 2023 นี้!
ตัวอย่างฟีเจอร์การช่วยการเข้าถึงใหม่ จะมาพร้อม iOS 17 ปลายปี 2023 นี้!
Apple เผยตัวอย่างฟีเจอร์การช่วยการเข้าถึงใหม่ที่จะมาพร้อม iOS 17 ใน Newsroom คาดว่าฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไปนี้อาจจะพร้อมให้ใช้งานในช่วงปลายปี 2023 นี้
Apple ทำงานอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มชุมชนซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ใช้ซึ่งมีความพิการหลากหลายประเภท เพื่อพัฒนาฟีเจอร์การช่วยการเข้าถึงที่ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ให้กับชีวิตของผู้คน โดยเฉพาะผู้ใช้งานอุปกรณ์ของ Apple อย่าง iPhone และ iPad
แต่ละฟีเจอร์จะเป็นตัวช่วยในการรับรู้ การพูด และการมอง สำหรับผู้ที่ไม่สามารถพูด ได้ยิน หรือมองเห็นได้ เป็นความใส่ใจที่ Apple คิดมาให้แล้วว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อคนกลุ่มนี้จริง ๆ มาดูกันว่ามีฟีเจอร์อะไรบ้าง
1.Assistive Access
ฟีเจอร์ที่จะช่วยลดภาระในการรับรู้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำสิ่งที่ต้องการได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น เช่น การรวมแอปโทรศัพท์(Phone) และแอป FaceTime มาไว้เป็นอันเดียว ทำให้ผู้ใช้สามารถกดโทรหาคนที่ต้องการได้ และเลือกได้ว่าจะโทรแบบปกติหรือโทรแบบ FaceTime
อีกหนึ่งตัวอย่างคือ ปรับตั้งค่าปุ่มและตัวหนังสือในเครื่องให้มีขนาดใหญ่ คอนทราสสูง ง่ายต่อการมอง
จากตัวอย่างจะเห็นว่า เมนูต่าง ๆ มีขนาดใหญ่ขึ้น ไม่ซับซ้อน กดใช้งานได้ง่ายขึ้น
2.Point and Speak
สำหรับผู้ที่บกพร่องทางการมองเห็นจะมีฟีเจอร์ Point and Speak เป็นตัวช่วย เพียงเปิดแอปแว่นขยายขึ้นมา แล้วใช้นิ้วเลื่อนไปชี้แต่ละจุด หากมีตัวอักษร ระบบก็จะใช้ LiDAR เรียบรู้คำนั้นๆ พร้อมอ่านข้อความในจุดที่ชี้ให้ฟัง
3.Live Speech
ขณะที่โทร FaceTime แบบวิดีโอ ผู้ใช้สามารถพิมพ์วลีหรือประโยคที่ต้องการพูดลงไป แล้วระบบก็จะพูดออกเสียงแทนเราให้ แถมยังสามารถบึนทึกคำพูดหรือวลีที่ใช้บ่อย ๆ ไว้ใช้ในสถานการณ์อื่นได้ด้วย
4.Personal Voice
ผู้ที่เสี่ยงจะสูญเสียความสามารถในการพูดสามารถสร้างเสียงที่เหมือนกับเสียงของตัวเองเอาไว้ได้ สามารถนำไปใช้งานกับฟีเจอร์ Live Speech เพื่อใช้ในการสื่อสาร
ฟีเจอร์การช่วยการเข้าถึงอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- ผู้ใช้ที่หูหนวกหรือหูตึงสามารถจับคู่ อุปกรณ์ช่วยฟัง Made for iPhone ได้โดยตรงกับ Mac และปรับแต่งเพื่อความสบายในการรับฟังได้3
- การสั่งการด้วยเสียง เพิ่มคำแนะนำในการออกเสียงสำหรับการแก้ไขข้อความ เพื่อให้ผู้ใช้ซึ่งพิมพ์ด้วยเสียงของตนเองสามารถเลือกคำที่ถูกต้องจากคำที่อาจฟังคล้ายๆ กัน อย่างเช่น “do”, “due” และ “dew”4 นอกจากนี้ ด้วย คู่มือการสั่งการด้วยเสียง ผู้ใช้ยังสามารถเรียนรู้เคล็ดลับเกี่ยวกับการใช้คำสั่งเสียงเพื่อเป็นทางเลือกนอกเหนือจากการสัมผัสและการพิมพ์ทั้งบน iPhone, iPad และ Mac
- ผู้ใช้ที่พิการด้านร่างกายและการเคลื่อนไหวซึ่งใช้ การควบคุมสวิตช์ สามารถเปลี่ยนสวิตช์อันใดก็ได้ให้เป็นตัวควบคุมการเล่นเกมแบบเสมือนจริง เพื่อเล่นเกมโปรดของตัวเองบน iPhone และ iPad
- สำหรับผู้ใช้ซึ่งมีสายตาเลือนราง ในตอนนี้ สามารถปรับ ขนาดข้อความ ได้ง่ายขึ้นบนทุกแอปของ Mac อย่างเช่น Finder, ข้อความ, เมล, ปฏิทิน และโน้ต
- ส่วนผู้ใช้ซึ่งอ่อนไหวต่อภาพเคลื่อนไหวเร็วๆ สามารถหยุดภาพที่มีองค์ประกอบการเคลื่อนไหวอย่างเช่น GIF ในแอปข้อความหรือซาฟารีได้ชั่วคราวโดยอัตโนมัติ
- สำหรับผู้ใช้ VoiceOver เสียงของ Siri จะฟังเป็นธรรมชาติและชัดเจนแม้ในการพูดตอบกลับด้วยความเร็วสูง และผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งอัตราการพูดของ Siri ได้โดยมีตัวเลือกตั้งแต่ 0.8x ถึง 2x
ภายในปลายปีนี้ ผู้ใช้ซึ่งพิการทางการรับรู้จะสามารถใช้ iPhone และ iPad อย่างง่ายดายและเป็นอิสระมากขึ้นด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ด้านบน และฟีเจอร์ที่ยังไม่ถูกพูดถึงอีกมากมายค่ะ
ที่มา – Apple Newsroom