in , ,

รีวิว iPad Air 5 ชิป M1 (รุ่น Wi-Fi) ราคาเริ่มต้นที่ 20,900 บาท

iPad Air 5 (2022) เฉพาะรุ่น Wi-Fi เปิดขายในไทยแล้ว ราคาเริ่มต้น 20,900 บาท ถือว่าคุ้มสุด ๆ เพราะรอบนี้มาพร้อมชิป M1 กล้องหน้าดีขึ้น ใครที่กำลังตัดสินใจซื้อ iPad อยู่ ไปชมรีวิวกันเลย! 

iPad Air 5 (2022) ชิป M1 ขุมพลังแบบจัดเต็ม!

หลังจาก iPad Air 4 ที่ใช้ชิป A14 Bionic ได้เปิดตัวไปล่าสุดเมื่อเดือน ก.ย. ปี 2020 ซึ่งเป็นเวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง หลังจากนั้น Apple ก็ได้เปิดตัว iPad Air 5 รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมชิป M1 เรียกได้ว่าได้รับกระแสตอบรับที่ค่อนข้างดีมาก ๆ เนื่องจากชิป M1 ที่ Apple นำมาใส่ใน iPad Air 5 นั้นทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงสเปคที่ใกล้เคียงระดับโปร ในราคาที่เข้าถึงง่ายอย่าง iPad Air 5 ตัวใหม่ล่าสุดนี้นั่นเอง

รีวิว iPad Air 5 ชิป M1 (2022)

ไฮไลท์เด่น

  • หน้าจอ 10.9” Liquid Retina HD
  • ดีไซน์เดิม เหมือน iPad Air 4
  • หน้าจอเต็มขอบ ไร้ปุ่มโฮม
  • ชิป M1 เร็วกว่า iPad Air 4 มากถึง 60%
  • สแกนนิ้ว (Touch ID) ที่ปุ่มด้านบน
  • กล้องหน้า 12MP เลนส์ Ultra-Wide
  • รองรับฟีเจอร์ Center-Stage
  • มี 5 สี เทาสเปซเกรย์ สตาร์ไลท์ ชมพู ม่วง ฟ้า
  • รองรับ 5G ในรุ่น Cellular
  • รองรับ Apple Pencil 2
  • รองรับ Magic Keyboard และ Smart Keyboard folio
  • พอร์ต USB-C ถ่ายโอนข้อมูลเร็วสูงสุด 10 Gbps
  • มี 2 ความจุ 64GB / 256GB เหมือนเดิม

สิ่งที่มีมาให้ภายในกล่อง

อุปกรณ์ภายในกล่องของ iPad Air 5 มีดังนี้

  • ตัวเครื่อง iPad Air 5
  • สาย USB-C to USB-C
  • อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ USB-C กำลังวัตต์ขนาด 20W
  • คู่มือประกอบการใช้งาน

ดีไซน์ของ iPad Air 5

ดีไซน์ของ iPad Air 5 นั้นยังคงใช้ดีไซน์แบบเดิมเหมือนกับ iPad Air 4 ตัวเครื่องเป็นแบบเหลี่ยม หน้าจอเต็มขอบ ไร้ปุ่มโฮม

และเปลี่ยนโลโก้ด้านหลังของตัวเครื่องเป็นคำว่า “iPad Air” จากเดิมที่ใช้คำว่า iPad เฉย ๆ

มี Touch ID ที่ปุ่ม power ด้านบน และปุ่มเพิ่ม-ลด เสียง อยู่ด้านข้างของตัวเครื่อง

ดีไซน์ออกมา 5 สีด้วยกัน ได้แก่ สีเทาสเปซเกรย์ ซึ่งเป็นสีเดิม และมาพร้อม 4 สีใหม่ ได้แก่ สีสตาร์ไลท์, ชมพู, ม่วง, ฟ้า

เรื่องจอภาพ

iPad Air 5 มาพร้อมจอภาพแบบ Liquid Retina ซึ่งเป็นจอภาพ Multi‑Touch แบบ LED ขนาด 10.9″ ความละเอียด 2360 x 1640 พิกเซล ที่ 264 ppi ความสว่างสูงสุด 500 นิต ทำให้เราเห็นสีสันสว่างสดใส รายละเอียดดียิ่งขึ้น เหมาะมากสำหรับการดูหนัง การวาด/เขียน แต่งรูปหรือตัดต่อวิดีโอ รวมไปถึงการทำโปรเจ็กต์ต่าง ๆ ด้วย

มาพร้อมการแสดงผลแบบ True Tone ซึ่งเป็นโหมดการปรับสีของจอภาพให้เข้ากับสภาวะแสงรอบนอกโดยอัตโนมัติ โดยสีของจอภาพจะเป็นโทนอุ่นมากขึ้น เพื่อถนอมสายตาของผู้ใช้งาน แต่ถ้าหากเราไม่ชอบก็สามารถเข้าไปปิดการใช้งานได้

ประสิทธิภาพการใช้งาน

ชิปประมวลผล M1

ชิป M1 ที่ใช้ใน iPad Air 5 เป็นชิปที่ใช้ตัวเดียวกันกับ iPad Pro (2021) มาพร้อม CPU ที่มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นสูงสุด 60% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า กราฟิกเร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า ซึ่งจะช่วยให้สามารถทำงานสลับไปมาระหว่างแอปได้อย่างราบรื่น ทำงานด้านกราฟิก แต่งรูปหรือตัดต่อวิดีได้เร็วขึ้น และนอกจากนี้ยังมี Neural Engine เจเนอเรชันถัดไปที่จะช่วยให้ระบบทำงานเร็วขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ iPad Air 5 ก็ยังอัปเกรด RAM เป็น 8GB จากรุ่นเดิมที่ใช้ RAM 4GB จะเห็นได้ว่า RAM นั้นเพิ่มขึ้นมาเท่าตัวเลย ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากการที่ Apple ใส่ชิป M1 เข้ามาใน iPad Air 5 เพื่อช่วยให้รองรับการทำงานได้ดีขึ้นนั่นเอง

วาดรูป

สำหรับการใช้งานด้านการเขียนหรือวาดรูปต่าง ๆ ลงบน iPad Air 5 นั้นถือว่าทำได้ค่อนข้างดีเลย เมื่อลองวาดรูปในแอป Procreate ก็พบว่ามีความลื่นไหล ต่อเนื่อง ไม่มีค้างหรือหน่วงเวลาใช้งานไปนาน ๆ และตัวเครื่องก็ยังประมวลผลได้เร็วทำให้สามารถใช้งานกับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ขณะที่การวาดรูปลงบน iPad Air 4 นั้นพบว่า เมื่อวาดไปนาน ๆ ก็มีความหน่วงเกิดขึ้นอยู่บ้างขณะที่กำลังใช้งาน อาจเป็นเพราะ ชิป M1 ที่ถูกใส่เข้ามาใน iPad Air 5 จึงทำให้การทำงานลื่นไหลมากขึ้นนั่นเอง

เล่นเกม

เมื่อลองเล่นเกมที่มีกราฟิกหนัก ๆ ใน iPad Air 5 แล้ว ก็สามารถเล่นเกมได้ลื่นไหลไม่มีกระตุกเลย และด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่นั้น ทำให้เห็นรายละเอียดกราฟฟิกในเกมได้ชัดเจนและเต็มตามากยิ่งขึ้น เข้าถึงอารมณ์ของเกมมากขึ้น

แต่ด้วยขนาดตัวเครื่องที่ค่อนข้างใหญ่ อาจทำให้บางคนเล่นเกมได้ไม่ค่อยสะดวกถ้าต้องถือ iPad แล้วเล่นเกมไปด้วย แต่ถ้าเอาตัวเครื่องวางตั้งไว้บนโต๊ะแล้วเล่นเกมก็สะดวกเหมือนกัน

ตัดต่อวิดีโอ

เมื่อลองตัดต่อวิดีโอด้วยแอป iMovie บน iPad Air 5 แล้วนั้นค่อนข้างชื่นชอบมาก ๆ เลย เพราะด้วยหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ การแสดงผลหน้าจอคมชัด เมื่อลองเพิ่มวิดีโอ เพิ่มเพลง เพิ่มตัวหนังสือ หรือเอฟเฟ็กต์ต่าง ๆ เบื้องต้นเข้าไปแล้วพบว่า การตัดต่อหรือการพรีวิววิดีโอนั้นลื่นไหล และยังไม่เจออาการวิดีโอกระตุกแต่อย่างใด

รวมถึงการ Export ไฟล์วิดีโอก็ทำได้รวดเร็วมากขึ้นด้วยชิป M1 ที่ถูกใส่เข้ามาเมื่อเทียบกับ iPad Air 4 แล้วนั้น หากลองจับเวลาดูพบว่า ใน iPad Air 5 ใช้เวลาในการ Export น้อยกว่า iPad Air 4 ดังนั้น สำหรับการตัดต่อวิดีโอเบื้องต้นไปจนถึงระดับกลางก็สามารถใช้งานบน iPad Air 5 ได้ครบจบในที่เดียวได้เลย

ระบบเสียง

สำหรับ iPad Air 5 มาพร้อมระบบเสียง 2 ตัวในโหมดแนวนอน ที่ด้านบน 1 ตัว และด้านล่าง 1 ตัว แต่มีช่องลำโพงทั้งหมด 4 ช่อง ทำให้เวลาที่เราดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมก็จะได้ยินเสียงออกมาจากลำโพงทั้งสองด้าน ทำให้เรามีอารมณ์ร่วมไปกับคอนเทนต์นั้น ๆ และเพลิดเพลินไปได้มากขึ้น

การเชื่อมต่อ

iPad Air 5 สามารถเชื่อมต่อได้รวดเร็วด้วยการรองรับสัญญาณ Wi-Fi 6 ทั้ง 2.4GHz และ 5GHz ที่เชื่อมต่อด้วยความเร็วสูงสุด 1.2 Gbps เชื่อมต่อสัญญาณ Bluetooth 5.0

สำหรับการเชื่อมต่อและการชาร์จนั้น iPad Air 5 รองรับการเชื่อมต่อด้วยพอร์ต USB-C 3.1 ที่เร็วขึ้น 2 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วสูงสุด 10 Gbps และสามารถรองรับการส่งภาพไปหน้าจอเสริมได้ด้วยความละเอียดสูงสุด 6K เลย รวมถึงเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมภายนอกอื่น ๆ เช่น External Harddisk จอยเกม หรืออุปกรณ์ทำเพลงก็ได้ เรียกได้ว่า iPad Air 5 ตัวนี้ ตอบโจทย์การทำงานหลายด้านมาก ๆ เลย

กล้อง

กล้องหน้า

กล้องหน้า iPad Air 5 อัปเกรดไปเป็นเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12MP รูรับแสงขนาด ƒ/2.4 มาพร้อมฟีเจอร์ Center Stage ที่มีคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” ที่จะช่วยให้คนอยู่กลางเฟรมเสมอ เพราะกล้องจะเคลื่อนตามตัวคนอัตโนมัติ เมื่อเวลามีคนเข้า-ออกจากเฟรม ภาพจะขยายออกหรือซูมเข้าให้เอง เรียกได้ว่าตอบโจทย์การใช้งานเวลาวิดีโอคอ, พรีเซนต์งาน หรือการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าก็จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการตกเฟรมได้ดีมาก ๆ เลย

ซูมออกได้ 2 เท่า

สำหรับการถ่ายวิดีของกล้องหน้านั้นสามารถบันทึกวิดีโอระดับ HD ที่ความละเอียด 1080p ได้ที่ 25 fps, 30 fps หรือ 60 fps

กล้องหลัง

กล้องหลัง iPad Air 5 เป็นเลนส์ Wideความละเอียด 12 MP, รูรับแสงขนาด ƒ/1.8, มี Smart HDR 3 สำหรับภาพถ่ายทำให้สามารถบันทึกภาพได้คุณภาพที่สูงมากยิ่งขึ้น ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 5 เท่า และมาพร้อมกับ Flash แบบ True Tone ทำให้ถ่ายภาพได้ดีขึ้นในสภาวะที่แสงน้อย

และนอกจากนี้กล้องหลังก็ยังสามารถสแกนเอกสารได้ และสามารถบันทึกวิดีโอระดับ 4K ได้สูงสุดที่ 60 fps และบันทึกวิดีโอระดับ HD ที่ความละเอียด 1080p ได้สูงสุด 60 fps เช่นกัน 

อุปกรณ์เสริม

Apple Pencil รุ่นที่ 2

iPad Air 5 รองรับการเชื่อมต่อ Apple Pencil รุ่นที่ 2 ซึ่งยึดติดกับตัวเครื่องด้านข้างด้วยแม่เหล็ก สะดวกต่อการพกพาสุด ๆ

เคส Smart Foilo

ด้านหลังของตัวเครื่อง iPad Air 5 มี Smart Connector ทำให้สามารถใช้งานเคส Smart Foilo ได้ ซึ่งจะเป็นแบบดูดติดกับตัวเครื่อง สามารถพับเคสแล้วก็ตั้งตัวเครื่องเพื่อใช้งานได้เลย สะดวกมาก ๆ อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา พกพาไปไหนก็สะดวก

Magic Keyboard

สำหรับ iPad Air 5 รุ่นล่าสุดตัวนี้นั้นสามารถใช้งานร่วมกับคีย์บอร์ดได้ถึง 2 รุ่นด้วยกัน คือ Magic Keyboard และ Smart Keyboard Folio

สำหรับตัว Magic Keyboard นั้นก็จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งาน iPad ได้ดีขึ้น เพราะมีทั้งแป้นพิมพ์และแทร็คแพดอยู่ในตัว ช่วยให้เราทำงานไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ การวาด แต่งรูป หรือตัดต่อวิดีโอก็สะดวกมาก ๆ เลยนะคะ ถ้านับรวมสเปคของตัว iPad Air 5 ด้วยแล้วนั้นก็แทบจะใช้งานแทนแล็บท็อบหรือโน๊ตบุ้คได้เลย

iPadOS 15

มาพร้อมกับ iPadOS 15 ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่อเนกประสงค์มาก ๆ ไม่ว่าจะใช้งานหลาย ๆ แอปพร้อมกันก็ทำได้ง่ายและลื่นไหลมาก ๆ เลย ซึ่งนอกเหนือจากนี้แล้ว คุณสมบัติใหม่ ๆ ใน iPadOS 15 นั้นสามารถใช้งานคุณสมบัติการจด “โน๊ตด่วน” ที่จะช่วยให้เราสามารถจดไอเดียที่พุ่งพล่านในขณะนั้นได้ทันทีเลย และยังใช้ SharePlay เพื่อเชื่อมต่อกับเพื่อน ๆ หรือคนในครอบครัวได้ด้วย

  • Widgets สามารถจัดหน้า Widgets ให้สะดวกต่อการใช้งาน และสวยงามตามแบบที่เราชอบได้เลย

  • Live Text ถอดข้อความจากรูปภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพจากเว็บไซต์ จากคลังภาพในแอป Photo หรือตอนใช้กล้องส่องก็สามารถทำได้

  • Multitasking สามารถทำงานหลาย ๆ แอปพร้อมกันได้ จะใช้โหมด Split View, Slide Over หรือโหมดเต็มหน้าจอก็สามารถทำได้เช่นกัน ไม่ว่าจะดูยูทูป วาดรูป เสริชหาข้อมูลบน Safari หรือจดสรุป ก็สามารถทำพร้อม ๆ กันได้เลย

  • Quick Note หากเราต้องรีบจดข้อความ หรือมีไอเดียผุดขึ้นมา แค่ปัดหน้าจอจากมุมขวาด้านล่าง ก็สามารถเข้าถึง Quick Note ได้อย่างรวดเร็ว

  • App Library คลังแอปบน iPad ที่จะถูกจัดให้อยู่ในมุมมองที่ใช้งานง่าย ซึ่งตัวระบบก็จะจัดหมวดหมู่ของแอปที่ใกล้เคียงกันให้อยู่ด้วยกันโดยอัตโนมัติเลย 

  • Low Power Mode โหมดประหยัดพลังงานที่มีอยู่บน iPhone นั้น ตอนนี้มีอยู่ใน iPad แล้ว เวลาที่เราใช้งาน iPad หนักทั้งเล่นเกม แต่งรูป หรือตัดต่อเป็นเวลานาน ๆ แล้วแบตใกล้จะหมดนั้น ก็สามารถเปิดโหมดประหยัดพลังงานได้แล้ว

และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่

ข้อสรุปทำไม iPad Air 5 ถึงน่าซื้อ

  • ชิป Apple M1 ที่ถูกใส่มาใน iPad Air 5 ช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานของ iPad Air 5 ดีขึ้น
  • กล้องหน้าดีขึ้นอัปเกรดเป็นเลนส์ Ultra Wide 12MP รองรับฟีเจอร์ Center Stage ช่วยให้คนอยู่กลางเฟรมเสมอ เพราะกล้องจะเคลื่อนตามตัวคนอัตโนมัติ
  • การเชื่อมต่อที่รวดเร็ว ด้วยสัญญาณ Wi-Fi 6 และรองรับสัญญาณ 5G
  • พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C เร็วขึ้น 2 เท่า ถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วสูงสุด 10 Gbps และรองรับการเชื่อต่อกับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
  • รองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2, Magic Keyboard และ Smart Keyboard Folio

ซื้อ iPad Air 5 ที่ไหนดี

  • Apple Store Online ประเทศไทย
  • Apple Iconsiam, Apple Central World กรุงเทพฯ
  • ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ทั้งช่องทางออนไลน์หรือสาขาใกล้บ้าน เช่น Studio 7, BaNANA

ราคาและรุ่นที่วางจำหน่าย

  • iPad Air 5 รุ่น Wi-Fi ความจุ 64GB ราคา 20,900 บาท
  • iPad Air 5 รุ่น Wi-Fi ความจุ 256GB ราคา 25,900 บาท

ชมคลิปรีวิว iPad Air 5

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Pornpimol Kulab

Faculty of Mass Communication,
Chiangmai University