Thitirath Kinaret
Apple ได้เปิดขาย iPad mini 5 ในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว หลายคนอาจจะยังชั่งใจและหาข้อมูลอยู่ว่า iPad mini 5 จะตอบโจทย์การใช้งานได้ดีหรือไม่ เหมาะกับการใช้งานของเรารึเปล่า มาดูรีวิวกันเลย
iPad mini 5
iPad mini 5 เป็น iPad รุ่นที่ผู้ชื่นชอบ iPad จอเล็กรอคอยกันมานาน โดยหลังจาก Apple เปิดขาย iPad mini 4 ในปี 2015 นี่ก็ผ่านมา 4 ปีแล้ว… ก็ได้ฤกษ์ที่ Apple เปิดขาย iPad mini 5 สักที ที่ถึงแม้ภายนอกจะไม่เปลี่ยนแปลงมาก (นับตั้งแต่ iPad mini รุ่นแรก) แต่สเปคภายในจัดเต็มมากพอสมควร
iPad mini 5 รุ่นที่เราได้มารีวิวนี้เป็นรุ่น Wi-Fi อย่างเดียวเพราะตอนนี้ Apple ยังไม่เปิดขายรุ่น Cellular ในไทย (ณ วันที่ลงข้อมูล) แต่คาดว่าหลังจากนี้ไม่นานก็น่าจะวางขายแล้ว ถ้าใครรอได้อยากใช้รุ่นใส่ซิมก็แนะนำว่าให้รอก่อนจ้า
อุปกรณ์ที่อยู่ในกล่อง iPad mini 5 หลัก ๆ ก็จะประกอบไปด้วยตัวเครื่อง iPad mini 5, สายชาร์จ Lightning, อะแดปเตอร์ขนาด 10W และเอกสารแนะนำการใช้งาน ไม่มีเคสและ Apple Pencil แถมมา ต้องซื้อเพิ่มเอง
อย่าตัดสินที่รูปลักษณ์ภายนอก หน้าตาเดิมแต่ให้ประสบการณ์ใหม่ ๆ
iPad mini 5 นั้นรูปร่างภายนอกแทบไม่ต่างจาก iPad mini 4 เลย จุดที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ การย้ายตำแหน่งไมโครโฟนไปไว้ที่ด้านหลังตรงกลางของเครื่อง เมื่อสัมผัสตัวเครื่องก็ได้รับความรู้สึกบาง เบา จับถนัดมือ แบบที่ไม่ได้สัมผัสมานานแล้ว
iPad mini 5 ยังคงปุ่ม Home และ Touch ID ไว้เหมือนเดิม ไม่ได้ตัดออกหรือใช้จอเต็มขอบเหมือน iPad Pro 2018 ซึ่งบางคนอาจผิดหวังแต่ผมไม่นะ เพราะว่า iPad mini 5 ควรคงรูปแบบและราคาเริ่มต้นที่ไม่สูงมาก (เพราะถ้าแพงมากจะเอื้อมไม่ถึง)
รูปแบบการใช้งานโดยรวมนั้นไม่ได้แตกต่างจาก iPad mini 4 รุ่นก่อนหน้าแต่อย่างใด แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุดคือเรื่องประสิทธิภาพการใช้งานมากกว่า เพราะ iPad mini 5 ใช้ชิป A12 Bionic ตัวเดียวกันกับ iPhone XS และให้ RAM มากถึง 3GB แน่นอนว่าประมวลผลไวแน่นอน
iPad mini 5 ได้นำจุดเด่นใน iPad รุ่นใหม่ ๆ มาใส่ด้วยนั่นคือการรองรับ Apple Pencil ซึ่งจะรองรับ Apple Pencil 1 การเชื่อมต่อก็แสนง่ายเพียงเสียบไปที่ช่องชาร์จ (Lightning) > แตะจับคู่ ก็สามารถใช้งานได้เลย
iPad mini 5 ไม่เหมาะที่จะวาด แต่เหมาะสำหรับใช้จดและทำงานเอกสาร
การใช้งาน Apple Pencil ร่วมกับ iPad mini 5 นั่นลื่นไหลมาก แต่ด้วยความที่ iPad mini 5 เป็นรุ่นจอเล็กก็อาจทำให้การวาดภาพนั้นยากหน่อย (แค่วางมือจะวาดก็เกือบเต็มจอแล้ว)
ส่วนตัวมองว่า iPad mini 5 หากใช้งานร่วมกับ Apple Pencil นั้นควรเน้นเป็นการจดบันทึกมากกว่า การหยิบขึ้นมาเพื่อจดหรือเขียนอะไรสักอย่างทำได้ง่ายมาก เพราะเครื่องเล็ก เบา ถือมือเดียวได้สบาย ๆ
เมื่อลองใช้ iPad mini 5 ในการตัดต่อวิดีโอ, เรนเดอร์วิดีโอด้วยแอป iMovie พบว่าใช้งานได้สะดวกดี การปัดหน้าจอตัดต่อวิดีโอทำได้สะดวก แต่เมื่อใช้ไปสักพักเครื่องอาจจะร้อนหน่อยเพราะใช้งานต่อเนื่องนาน แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมากนัก
เครื่องแรง เล่นเกมลื่น รองรับแอปอนาคต
การเล่นเกมบน iPad mini 5 นั้นหายห่วงจริง ๆ ก็เพราะว่าใช้ชิป A12 Bionic และ RAM 3GB ทำให้เล่นเกมได้ลื่นมาก ๆ และการที่ iPad mini 5 เป็น iPad เครื่องเล็กจึงนำมาเล่นเกมอย่าง RoV ได้สะดวกมือกว่า iPad รุ่นอื่น ๆ
iPad mini 5 ถูกใส่สเปคเพื่อให้รองรับแอปในอนาคตไว้ด้วย เพราะเราได้เห็นกันแล้วว่าพักหลัง ๆ มา แอปแนว AR หรือแอปที่ใช้ Core ML, 3 มิติ เริ่มเข้ามามีบทบาทต่อการใช้งานของเรามากขึ้น แน่นอนว่า iPad mini 5 ถูกพัฒนามาให้รองรับสิ่งเหล่านี้ได้อยู่แล้วจึงสบายใจได้ว่าถึงแม้จะผ่านไป 1 ปี 2 ปี 3 ปี ก็จะรองรับแอปใหม่ ๆ ได้แน่นอน
จอชัด ดูวิดีโอได้สบาย ๆ
ข้อนี้ไม่อยากพูดถึงมากเพราะ iPad ของ Apple ทำจอมาได้ดีอยู่แล้วและ iPad mini 5 ก็ให้ประสบการณ์ในการดูวิดีโอได้ดีเหมือนกัน (จอ True Tone, ขอบเขต P3) และถึงแม้ลำโพงจะมี 2 ตัวก็ได้ยินชัด กังวานอยู่นะ
ใช้งานร่วมกับ iOS 12 ได้ดี
ถึงแม้ iPad mini 5 จะเป็นรุ่นจอเล็กแต่ก็สามารถใช้งานร่วมกับ iOS 12 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งการแบ่งจอ ปัดหน้าจอใช้งานต่าง ๆ ก็ใช้งานได้สบาย ๆ .. (iOS 13 มาไหวแน่นอน!!)
พกสะดวก ไม่เทอะทะ
เรื่องเครื่องขนาดเล็กเป็นไฮไลท์ที่ส่วนตัวชอบมากจริง ๆ เพราะ iPad mini 5 เป็น iPad ที่มีสเปคแรงแต่เป็นเครื่องเล็ก ๆ พกพาสะดวก จะหยิบขึ้นมาดู มาวาด มาจดมาเขียนก็ทำได้ง่าย ๆ (ส่วนตัวลองเอาใส่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ก็ใส่ได้พอดีเลย!)
ส่วนเรื่องเคสนั้นที่ Apple ก็ได้เปิดขาย Smart Cover สำหรับ iPad mini 5 เหมือนกัน ส่วนตัวแนะนำให้ซื้อด้วย เพราะจะช่วยปกป้องหน้าจอ iPad รวมไปถึงสามารถพับเพื่อวาง iPad mini 5 ได้สะดวกด้วย (ราคา 1,590 บาท)
ราคาเข้าถึงง่าย
iPad mini 5 รุ่น Wi-Fi เริ่มต้นที่ 13,900 บาทในรุ่นความจุ 64GB และถ้าซื้อพร้อมกับ Apple Pencil 1 ก็บวกราคาเข้าไปอีก 3,400 บาท รวมเคสอีก 1,590 บาท รวมทั้งสิ้น 18,890 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่าน่าลงทุนมาก ๆ เพราะด้วยความเร็ว ความสะดวกการใช้งานที่ iPad หรือ Tablet จอใหญ่นั้นไม่มี
สรุป .. ทำไมถึงควรซื้อ iPad mini 5
- iPad mini 5 เป็น iPad หรือ Tablet จอไม่เกิน 8 นิ้วที่แรงมาก ๆ สื่อต่างประเทศหลายเจ้าบอกว่ายังไม่มีรุ่นใดเทียบได้ในบรรดารุ่นขนาดจอใกล้เคียงกัน
- iPad mini 5 มีในสิ่งที่ iPad รุ่นอื่นไม่มี คือ ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สเปคแรง พกพาสะดวก
- iPad mini 5 ใส่ชิป A12 Bionic มา บอกเลยว่าได้อัปเดต iOS ได้อีกนาน ….
- iPad mini 5 รองรับ Apple Pencil 1 ให้ความรู้สึกเหมือนเรามีโน๊ตส่วนตัวที่จะหยิบขึ้นมาใช้งานเมื่อไหร่ก็ได้
- iPad mini 5 ใส่สเปคมาค่อนข้างแรง แน่นอนว่ารองรับแอปหนัก ๆ ในปัจจุบันและอนาคตได้สบาย ๆ
ปัญหาและจุดพิจารณาที่เจอ
- iPad mini 5 เครื่องเล็ก ใช้ไปสักแปปหรือถ้าเปิดแอปหนัก ๆ เครื่องจะร้อนไว
- แบตเตอรี่หมดไวเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น (เพราะตอนรีวิวอาจใช้งานแอปหนัก ๆ หลายตัว)
- ไม่เหมาะแก่การวาดจริงๆ เพราะจอมีขนาดเล็ก หากจะวาดควรซื้อเคสที่สามารถพับให้ตัวเครื่องวาดได้สะดวก
- ถึงแม้จะอัปสเปคกล้องทั้งหน้าหลังแต่ก็ยังถ่ายได้ไม่ชัดมากนัก
ซื้อ iPad mini 5 ที่ไหนดี
- Apple Store Online ประเทศไทย
- Apple Iconsiam กรุงเทพฯ
- ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ทั้งช่องทางออนไลน์หรือสาขาใกล้บ้าน เช่น Studio 7
ราคาและรุ่นที่วางจำหน่าย
ราคา iPad mini 5 รุ่น Wi-Fi
- iPad mini 5 รุ่น Wi-Fi ความจุ 64GB – 13,900 บาท
- iPad mini 5 รุ่น Wi-Fi ความจุ 256GB – 18,900 บาท
ราคา iPad mini 5 รุ่น Wi-Fi + Cellular
- iPad mini 5 รุ่น Wi-Fi + Cellular ความจุ 64GB – 18,400 บาท
- iPad mini 5 รุ่น Wi-Fi + Cellular ความจุ 256GB – 23,400 บาท
สเปค iPad mini 5
- หน้าจอ : จอ Retina 7.9″, ขอบเขต P3, Full Lamination, มี True Tone, ความละเอียด 2048 x 1536
- ระบบยืนยันตัวตน : Touch ID
- ชิป : A12 Bionic
- ความจุ : 64GB, 256GB
- รองรับ Apple Pencil 1
- กล้องหลัง : 8MP บันทึกวิดีโอระดับ HD 1080p, รองรับ Live Photo
- กล้องหน้า : 7MP บันทึกวิดีโอระดับ HD 1080p, รองรับ Live Photo
- ระบบเสียง 2 ลำโพง
- มี eSIM, Nano SIM ในรุ่น Cellular
- มีสี Silver, Gold, Space Gray
- การเชื่อมต่อ LTE Gigabit, Bluetooth 5.0
- พอร์ต Lightning
ทั้งหมดนี้คือการรีวิว iPad mini 5 โดยทีมงาน iPhoneMod และหลังจากนี้เราจะแตกประเด็นเรื่องประสบการณ์ใช้งานต่าง ๆ มาให้ติดตามกันภายหลังอีก ฝากติดตามกันด้วยนะครับ
รีวิวโดย มดเต้นท์ (Mod-T) – iPhoneMod
