บทความนี้จะพามาเปรียบเทียบสเปคและชี้จุดแตกต่างกันระหว่าง iPad mini 7 กับ iPad mini 6 การอัปเกรดครั้งนี้มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง มาดูกัน
เปรียบเทียบสเปค iPad mini 7 กับ iPad mini 6 อัปเกรดจุดไหนบ้าง?
15 ตุลาคม 2024, Apple ได้เปิดตัว iPad mini รุ่นที่ 7 ที่มีการอัปเกรดสเปคภายในหลายอย่าง เพิ่มความสารถต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์การทำงานระดับสูงที่ต้องการความคล่องตัวเป็นพิเศษ จะมีจุดไหนอัปเกรดบ้าง มาดูกัน!
ตารางเปรียบเทียบสเปค iPad mini 7 vs iPad mini 6
iPad mini 7 | iPad mini 6 | |
ขนาด | กว้าง 195.4 มม. x สูง 134.8 มม. x หนา 6.3 มม. | กว้าง 195.4 มม. x สูง 134.8 มม. x หนา 6.3 มม. |
น้ำหนัก | Wi-Fi : 293 กรัม
Cellular : 297 กรัม |
Wi-Fi : 293 กรัม
Cellular : 297 กรัม |
หน้าจอ | Liquid Retina 8.3”
ขอบเขตสีกว้างแบบ P3 True Tone เคลือบสารกันแสงสะท้อน |
Liquid Retina 8.3”
ขอบเขตสีกว้างแบบ P3 True Tone เคลือบสารกันแสงสะท้อน |
สี | เทาสเปซเกรย์, ฟ้า, ม่วง, สตาร์ไลท์ | เทาสเปซเกรย์, ชมพู, ม่วง, สตาร์ไลท์ |
ชิปประมวลผล | A17 Pro CPU 6-core | GPU 5-core
Neural Engine 16‑core Ray Tracing รองรับเล่นเกม AAA |
A15 CPU 6-core | GPU 5-core
Neural Engine 16‑core – – |
Apple Intelligence | ✅ | ❌ |
กล้องหน้า | Ultra Wide 12MP
Center Stage HDR อัจฉริยะ 4 สำหรับภาพถ่าย |
Ultra Wide 12MP
Center Stage HDR อัจฉริยะ 3 สำหรับภาพถ่าย |
กล้องหลัง | Wide 12MP
HDR อัจฉริยะ 4 สำหรับภาพถ่าย ตรวจจับเอกสาร (แอปกล้อง) วิดีโอสูงสุด 4K ที่ 60 fps |
Wide 12MP
HDR อัจฉริยะ 3 สำหรับภาพถ่าย – วิดีโอสูงสุด 4K ที่ 60 fps |
Wi-Fi | Wi-Fi 6E | Wi-Fi 6 |
Bluetooth | Bluetooth 5.3 | Bluetooth 5.0 |
SIM | eSIM
– |
eSIM
Nano-SIM |
Apple Pencil | Apple Pencil Pro
Apple Pencil USB-C |
Apple Pencil รุ่นที่ 2
Apple Pencil USB-C |
รองรับ Apple Pencil Hover | ✅ | ❌ |
พอร์ต USB-C | USB 3 (สูงสุด 10Gb/s) | USB 3 (สูงสุด 5Gb/s) |
ยืนยันตัวตัน | ปุ่มด้านบน/Touch ID | ปุ่มด้านบน/Touch ID |
ความจุ | 128GB, 256GB, 512GB | 64GB, 256GB |
ราคาเปิดตัว (Wi-Fi) | ฿17,900 | ฿17,900 |
ดีไซน์
ดีไซน์ตัวเครื่องของ iPad รุ่นที่ 7 และ iPad รุ่นที่ 6 ไม่ได้แตกต่างกันมาก ทั้งขนาดตัวเครื่อง และน้ำหนัก ขนาดหน้าขอยังคงเป็นจอ Liquid Ratina ขนาด 8.3″ เช่นเดิม แต่มีสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปคือ บริเวณด้านหลังเครื่องจะมีการสลักคำว่า “iPad mini” โดยเป็นการเพิ่มคำว่า mini เข้ามา (รุ่นเก่าไม่มี เขียนแค่ iPad เฉย ๆ)
iPad mini 7 ในรอบนี้มี 4 สีให้เลือกเช่นเคย แต่ได้นำสีชมพูออก และนำสีฟ้ามาแทนที่ ทำให้ตอนนี้มีสีเทาสเปซเกรย์ สีม่วง สีสตาร์ไลท์ และสีฟ้าให้เลือกซื้อ
กล้องหน้าและกล้องหลังยังคงมีสเปคเท่ากัน โดยกล้องหน้ารองรับ Center stage สำหรับการถ่ายภาพทั่วไปได้รับการอัปเกรดมาเป็น HDR อัจฉริยะ 4 แล้ว ทำให้สีสันและแสงงามสมจริงยิ่งขึ้น และกล้องหลังมีแฟลช True Tone ใหม่ ทำให้สแกนเอกสารผ่านกล้องหลังได้ดีกว่าเดิม
ชิปประมวลผล
iPad mini 7 ใช้ชิป A17 Pro ซึ่งแตกต่างจากรุ่นเก่าที่ใช้ชิป A15 Bionic สิ่งนี้ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้น 30% ทั้งการทำงานทั่วไป การทำงานในด้านกราฟิก และการเล่นเกม
iPad mini 7 รองรับการเล่นเกมที่ลื่นไหล ด้วยตัวเร่งการทำงานของฮาร์ดแวร์ และ Ray Tracing ทำให้สามารถเล่นเกมสเปคโหด ๆ ได้แล้ว เช่นเกม AAA ที่หลายคนชื่นชอบ
ชิป A17 Pro ยังทำให้ iPad mini 7 ใช้งาน Apple Intelligence ได้อย่างลื่นไหน และเตรียมพร้อมสำหรับการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ ในอนาคต
พอร์ตและการเชื่อมต่อ
ถือว่าเป็นการอัปเกรดการเชื่อมต่อที่สำคัญ ทั้ง Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3 อีกทั้งพอร์ต USB-C 3 ที่มีความเร็วในการส่งข้อมูลคูณสอง จาก 5 Gb/s เป็น 10 Gb/s ทำให้การเชื่อมต่อ และการส่งข้อมูลผ่านสายรวดเร็วทันใจ
สิ่งที่ควรทราบคือ ในรุ่น Wi-Fi+Cellular ไม่มีถาดซิมให้แล้ว ทำให้รองรับการใส่เฉพาะ eSIM เท่านั้น หากอยากใช้งานสัญญาณ 5G
ความจุ
iPad mini 7 มีตัวเลือกความจุให้เลือก 3 ความจุด้วยกัน ได้แก่ 128GB 256GB และ 512GB แตกต่างจากรุ่นเก่าที่มีเพียง 2 ความจุเท่านั้น เริ่มที่ 64GB และ 256GB
iPad mini 7 ชิป A17 Pro ขายราคาเริ่มต้น 17,900 บาท
iPad mini 7 รุ่น Wi-Fi
128GB ราคา 17,900 บาท
256GB ราคา 21,900 บาท
512GB ราคา 25,900 บาท
iPad mini 7 รุ่น Wi-Fi + Cellular
128GB ราคา 23,900 บาท
256GB ราคา 27,900 บาท
512GB ราคา 34,900 บาท
*ยังไม่มีกำหนดสั่งซื้อในไทย ณ วันที่เปิดตัว