in , , ,

เปิดตัว! iPad Pro ปี 2024 หน้าจอ OLED 11″, 13″ เครื่องบาง, ชิป M4 ตัวแรง!

7 พ.ค. 2024 Apple ได้เปิดตัว iPad Pro ใหม่มาพร้อมหน้าจอ OLED หรือ Ultra Retina XDR ทั้ง 2 หน้าจอ 11″, 13″ และชิป M4 ครั้งแรกด้วย

iPad Pro หน้าจอ OLED 11″, 13″ชิป M4

ไฮไลท์เด่น

  • มี 2 รุ่นให้เลือก คือ 11″, 13″
  • หน้าจอ Ultra Retina XDR (OLED สองชั้น) ทั้งรุ่น 11″, 13″
  • หน้าจอ ProMotion 120Hz (Refresh Rate 10Hz-120Hz)
  • หน้าจอมีตัวเลือกกระจกผิวนาโน (เฉพาะรุ่น 1TB, 2TB)
  • ความสว่างหน้าจอสูงสุด SDR 1,000 nits, XDR เต็มหน้าจอ 1,000 nits, เฉพาะจุด 1,600 nits (เฉพาะเนื้อหา HDR)
  • ชิป M4 CPU 9-core, GPU 10-core, Neural Engine 16-core
  • รองรับ Ray Tracing
  • RAM 8GB (รุ่นความจุ 256GB, 512GB) | RAM 16GB (รุ่นความจุ 1TB, 2TB)
  • กล้องหน้าแนวนอน Ultra-wide 12MP
  • กล้องหลัง 1 ตัว Wide 12MP | LiDAR | Flash True Tone ปรับตามสภาวะ
  • กล้องหลังบันทึกวิดีโอ 4K ที่ 24 fps, 25 fps, 30 fps หรือ 60 fps
  • กล้องหลังบันทึกวิดีโอ ProRes สูงสุด 4K ที่ 30 fps (1080p ที่ 30 fps สำหรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 256GB)
  • มี 2 สีให้เลือก เงิน, ดำสเปซแบล็ค
  • มีให้เลือก 4 ความจุ  256GB, 512GB, 1TB, 2TB
  • Wi‑Fi 6E
  • Bluetooth 5.3
  • ยืนยันตัวตนด้วย Face ID
  • ระบบเสียง 4 ลำโพง
  • ไมโครโฟนระดับสตูดิโอ 4 ตัว
  • พอร์ต USB-C Thunderbolt / USB 4
  • รองรับ Apple Pencil Pro, Apple Pencil พอร์ต USB-C

iPad Pro ชิป M4 อุปกรณ์ Apple “ที่บางสุด” เท่าที่มีมา

iPad Pro ชิป M4 ใหม่นี้ รุ่น 11″ บางเพียง 5.3 มม. และรุ่น 13″ บางเพียง 5.1 มม. และถึงแม้จะบาง, Apple ก็เคลมว่ามีความแข็งแรงไม่ต่างจากรุ่นก่อนหน้า

จอภาพเทพสุด!!

iPad Pro ชิป M4 ใหม่ใช้หน้าจอ OLED ทั้ง 11″, 13″ โดย Apple ตั้งชื่อจอภาพใหม่นี้ว่า ” Ultra Retina XDR” พร้อมเคลมว่าเป็นหน้าจอที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก!

หน้าจอ Ultra Retina XDR ใช้เทคโนโลยี OLED สองชั้นที่ใช้แผง OLED สองแผง โดยสเปคบอกว่าเป็นการรวมแสงจากทั้งสองแผงเข้าด้วยกันเป็นความสว่างแบบเต็มหน้าจอ ช่วยให้รองรับความสว่างเต็มหน้าจอสูงถึง 1,000 nits สำหรับคอนเทนต์ SDR และ HDR และมีความสว่างเฉพาะจุดสูงสุด 1,600 nits

ชิป M4 สุดแรง!

ถือว่าเป็นหนึ่งไฮไลท์ของ iPad Pro รุ่นใหม่ปี 2024 เลยก็ว่าได้ โดย iPad Pro ปี 2024 เป็นอุปกรณ์รุ่นแรกที่ได้ใช้ชิป M4 ก่อนหน้า Mac

ชิป M4 สร้างด้วยเทคโนโลยี 3nm รุ่นที่ 2 ช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น โดยตัวชิปมาพร้อม Engine จอภาพแบบใหม่ที่ทำให้จอภาพ Ultra Retina XDR สามารถแสดงสีสันที่แม่นยำ สว่างมาก

ส่วน CPU ใหม่ของตัวชิปนั้นประกอบด้วย core ด้านประสิทธิภาพสูงสุด 4-core, ด้านประหยัดพลังงาน 6-core และมาพร้อมตัวเร่งความเร็ว ML อีกด้วย ซึ่ง Apple เคลมว่า CPU ของชิป M4 เร็วกว่าชิป M2 ถึง 1.5 เท่า

ส่วน GPU นั้นชิป M4 สร้างขึ้นจากสถาปัตยกรรม GPU ของชิป M3 มาพร้อม GPU 10-core, มีคุณสมบัติอย่าง Dynamic Caching, Ray Tracing ที่มาอยู่บน iPad แล้ว (แบบเดียวกับที่อยู่ใน iPhone 15 Pro)

Apple เคลมว่าชิป M4 นั้นมีประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีที่สุดในอุตสาหกรรม เมื่อเทียบกับชิป M2 แล้ว ชิป M4 พลังงานแค่ครึ่งเดียวในประสิทธิภาพเดียวกัน และใช้พลังงาน 1 ใน 4 เท่านั้น เมื่อเทียบกับชิปของ PC

กล้องระดับ Pro

iPad Pro ชิป M4 ปรับปรุงกล้องหลังใหม่เพื่อให้มีความอเนกประสงค์มากขึ้น โดยกล้องหลัง (เหลือ) ตัวเดียว ใช้ความละเอียด 12MP รองรับการถ่ายภาพ, วิดีโอ ด้วยคุณสมบัติ HDR อัจฉริยะ

กล้องหลังของ iPad Pro ชิป M4 นั้นมาพร้อม Flash True Tone ใหม่ ที่สามารถปรับแสงตามสภาวะได้ ช่วยให้ iPad Pro ใช้สแกนเอกสารได้เป็นอย่างดี และ iPad Pro ใหม่ยังใช้ AI เพื่อระบุประเภทของเอกสารตั้งแต่ในแอปกล้องด้วย หากเจอเงา ระบบก็จะปรับแสงให้อัตโนมัติ

กล้องหน้า TrueDepth แบบแนวนอน

สำหรับกล้องหน้านั้น iPad Pro ชิป M4 ย้ายกล้องหน้า TrueDepth ไปไว้ที่ตำแหน่งแนวนอน เป็นกล้อง Ultra-Wide 12MP รองรับฟีเจอร์ Center Stage ช่วยจัดให้บุคคลอยู่ตรงกลางเฟรมเสมอ และกล้องแนวนอน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสนทนาผ่านวิดีโอ พร้อมทั้งใช้งานคีย์บอร์ดไปพร้อม ๆ กันได้ด้วย

รองรับ Apple Pencil Pro

iPad Pro ชิป M4 รองรับ Apple Pencil Pro ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ใหม่ ที่ให้ผู้ใช้สามารถบีบเพื่อแสดงเครื่องมือวาด, มีการสั่นตอบสนอง, มี Gyroscope รองรับการหมุนด้ามเพื่อเปลี่ยนแนวของเครื่องมือวาด และยังรองรับการแตะสองครั้งไปที่ Smart Shape อีกด้วย

รองรับ Magic Keyboard ใหม่

iPad Pro ชิป M4 รองรับ Magic Keyboard ใหม่ที่มาพร้อมดีไซน์ที่ช่วยให้ใช้งาน iPad Pro แบบยกลอย และตัว Magic Keyboard มาพร้อมปุ่ม fn และที่พักมือใช้วัสดุอะลูมิเนียม, Trackpad ขนาดใหญ่ ตอบสนองด้วยการสั่นได้ด้วย

Magic Keyboard ใหม่มาพร้อมพอร์ต USB-C มีให้เลือก 2 สี คือ ดำพร้อมที่พักมืออะลูมิเนียมสีดำสเปซแบล็ก และสีขาวพร้อมที่พักมืออะลูมิเนียมสีเงิน

รองรับ Final Cut Pro

Apple เผยว่า iPad Pro ชิป M4 จะรองรับแอป Final Cut Pro สำหรับ iPad โดยผู้ใช้สามารถใช้ฟีเจอร์ Live Multicam ถ่ายวิดีโอจากกล้องหลาย ๆ ตัวได้ผ่านแอป Final Cut Camera

นอกจากนั้นการถ่ายทำ ตัดต่อวิดีโอบน iPad สามารถเลือก หรือสร้าง Project ผ่านพื้นที่ภายในตัวเครื่อง หรือ SSD ที่เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C ได้ด้วย

iPad Pro ชิป M4 มีให้เลือก 2 สี

iPad Pro ชิป M4 มีให้เลือก 2 สี คือ เงิน, ดำสเปซแบล็ค

ราคา

iPad Pro 11″ จอ OLED

รุ่น Wi-Fi

  • 256GB ราคา 39,900 บาท
  • 512GB ราคา 47,900 บาท
  • 1TB ราคา 63,900 บาท | กระจกผิวนาโน 67,900 บาท
  • 2TB ราคา 79,900 บาท | กระจกผิวนาโน 83,900 บาท

รุ่น Cellular

  • 256GB ราคา 47,900 บาท
  • 512GB ราคา 55,900 บาท
  • 1TB ราคา 71,900 บาท | กระจกผิวนาโน 75,900 บาท
  • 2TB ราคา 87,900 บาท | กระจกผิวนาโน 91,900 บาท

iPad Pro 13″ จอ OLED

รุ่น Wi-Fi

  • 256GB ราคา 52,900 บาท
  • 512GB ราคา 60,900 บาท
  • 1TB ราคา 76,900 บาท | กระจกผิวนาโน 80,900 บาท
  • 2TB ราคา 92,900 บาท | กระจกผิวนาโน 96,900 บาท

รุ่น Cellular

  • 256GB ราคา 60,900 บาท
  • 512GB ราคา 68,900 บาท
  • 1TB ราคา 84,900 บาท | กระจกผิวนาโน 88,900 บาท
  • 2TB ราคา 100,900 บาท | กระจกผิวนาโน 104,900 บาท

การจำหน่าย

iPad Pro 11″, 13″ จอ OLED ชิป M4 ยังไม่มีกำหนดเปิดให้สั่งซื้อ และวันวางจำหน่ายในประเทศไทย

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Thitirath Kinaret

เต้นท์ iMoD : ป.ตรี วิศวกรรมซอฟต์แวร์ ป.โท บริหารธุรกิจ ม.พายัพ ชอบความสวยงามแบบเรียบง่าย ตามแบบฉบับของ Apple @Contact : facebook.com/tentzy