เมื่อช่วงเดือนปลายปี 2560 ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปซื้อ iPhone 8, X ที่ออสเตรเลียพร้อมทั้งเยี่ยมครอบครัวที่นั่นและบังเอิญว่า iPad 2 เครื่องเก่าของหลานเกิดอาการแบตเตอรี่บวมขึ้น ผมเลยตัดสินใจซื้อ iPad 9.7 นิ้วรุ่นประหยัดให้หลานสาวของผมคนหนึ่งเพื่อใช้ในการเรียนที่โรงเรียนและเล่นที่บ้าน แต่…
เด็ก VS. iPad
“เด็กก็คือเด็ก” เขาไม่รู้หรอกว่าของจะแพงมากเท่าไหร่ถ้ามีของให้เขาเล่นเขาก็เล่น, iPad เครื่องใหม่ก็เหมือนกันนะ ถ้าเราจะหวังให้เขาถนอมเครื่องโดยการบอกว่าเล่นเบาๆ นะ, อย่าทำหน้าจอเลอะนะ ฯลฯ เขาไม่สนหรอก 555
ดังนั้นผลที่ตามมาคือ “หน้าจอ iPad ลาย” ตามการใช้งานที่หนักหน่วงตามกาลเวลานั่นเอง (พลาดเองที่ผมไม่ได้ติดฟิล์มให้เขาตั้งแต่ตอนแรก)
เมื่อปีใหม่ 2561 หลานๆ และครอบครับกลับมาที่บ้านที่ไทย ผมก็เลยจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบให้เลย ด้วยการทำความสะอาดรอบเครื่องใหม่และติดกระจกกันรอยแบบใสสำหรับ iPad ให้ด้วยเลย เพราะเคยลองติดแบบฟิล์มพลาสติกธรรมดาแล้วเอาไม่อยู่ เด็กเล่นหนักเกินและไม่ได้ดูแลเครื่องดีอย่างผู้ใหญ่แบบเราๆ
Hi-Shield กระจกกันรอย iPad 9.7 นิ้ว เพื่อการถนอมหน้าจอจากการใช้งานหนัก
นี่คือกระจกกันรอยสำหรับ iPad ที่ผมเลือกใช้ วันนี้จะขอแบ่งปันประสบการณ์ให้ฟังกันครับว่าติดแล้วเป็นยังไงบ้าง
คุณสมบัติของ Hi-Shield Tempered Glass สำหรับ iPad 9.7 นิ้ว
- ปกป้องเต็มจอ ด้วยกระจก Asahi Glass จากญี่ปุ่น
- กระจกเต็มพอดีขอบขอบเครื่อง หมดปัญหาขอบกระเทาะ ขอบแตก
- ขอบไม่คมเวลาสัมผัสที่ขอบ
- หน้าจอเคลือบ Oleophobic หน้าจอลื่น ทำความสะอาดง่ายให้ภาพคมชัดเสมือนไม่ติด
- กระจกแข็งแรงระดับ 9H
- ติดเข้ารูปดี งานตัดเนียบ
- แสงผ่านได้ดี ไม่ลดความสว่างหน้าจอ
- ลดรอยนิ้วมือ เช็ดทำความสะอาดง่าย
- กันรอยขีดข่วน
ในกล่อง Hi-Shield Tempered Glass สำหรับ iPad 9.7 นิ้วมีอะไรให้บ้าง?
- กระจกกันรอย iPad 9.7 นิ้ว รุ่นนี้ใช้งานกับ iPad Pro 9.7 นิ้วได้เช่นกัน
- ชุดทำความสะอาดจอ
- และสติกเกอร์ดึงฝุ่นเพื่อเตรียมการติดตั้ง
การติดตั้งกระจกนั่นค่อนข้างง่ายสามารถทำได้ด้วยตนเองข้อแนะนำพิเศษคือ เช็ดจอให้สะอาด, ดึงฝุ่นออกให้หมดและใช้โคมไฟมาช่วยส่องแสงในช่วงติดจะทำให้เห็นเม็ดฝุ่นได้ง่ายขึ้นจากนั้นเล็งให้ตรงตำแหน่ง เพียวเท่านี้ก็จะติดได้สำเร็จเรียบร้อยแล้วนะครับ
ผลงานเสร็จสิ้นหลังจากติดตั้งกระจกกันรอยรุ่นนี้ครับ
ประสบการณ์หลังการใช้งาน
- ไม่ทำให้ความชัดของหน้าจอลดลง
- ติดง่ายติดเนียนไร้ฟองอากาศ
- ติดตั้งแล้วช่วยกลบเกลื่อนรอยที่หน้าจอ iPad อันเก่าได้แม้จะหายไม่หมดแต่ก็ทำให้เบาตาลง
- การทัชหน้าจอลื่นดี
- กันรอยนิ้วมือได้ดี
- เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย
- ขอบกระจกมน ไม่บาดมือในเวลาใช้งานเมื่อแตะขอบ
- ใช้งานกับเคสได้หลากหลายแต่ให้ระวังเคสที่จิกเข้ามาในขอบจอจะทำให้ดันกระจกขึ้นมาได้ ถ้าใครใช้เคสแบบนั้นแนะนำว่าให้เปลี่ยนเคสใหม่หรือเลี่ยงการติดกระจกกันรอยนี้
- ทนทานต่อการใช้งานแม้ในสถาพหนักๆ ทดสอบแล้วด้วย 2 หลานสาวตัวแสบที่ใช้งาน iPad มากกว่าน้าของเขาซะอีก
โดยรวมแล้วถือว่าเป็นที่น่าพอใจอย่างน้อยก็เพิ่มความมั่นใจว่าหน้าจอ iPad จะไม่เป็นรอยจากการใช้งานมากกว่านี้ ด้วยความที่หลานๆ เองใช้งาน iPad หนักมาก (สาวๆ อายุ 6 ขวบ) ทำให้ก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้ติดฟิล์มนั้นจอ iPad ค่อนข้างที่จะมีรอยขนแมวเยอะมาก ติดไว้ก็อุ้นใจมากขึ้นครับแถมกันการกระแทกได้ด้วย
iPad พื้นที่หน้าจอใหญ่
พื้นที่การแสดงผลของ iPad นั่นค่อนข้างใหญ่ยิ่งหากครอบครัวไหนให้เด็กเล่น iPad แล้วหละก็ แนะนำเลยครับว่าควรติด ถ้าหากมองว่ากระจกกันรอยราคาสูงเกินไปก็ไม่เป็นไรสามารถหาฟิล์มที่เป็นพลาสติกมาติดแทนก็ได้ แต่ถ้าใครมองว่าอยากลงทุนครั้งเดียวให้อยู่ได้นานๆ เลย กระจกกันรอยก็ยังเป็นคำตอบที่ดีครับ
ส่วนใครที่คิดว่าจะใช้น้ำยาเคลือบกระจกนั้นผมยังมองว่าเลือกกระจกกันรอยดีกว่า นอกจากจะกันรอยได้แล้วยังรองรับการกระแทกได้ดีกว่าเคลือบด้วยน้ำยาเฉยๆ นะครับ (ความคิดเห็นส่วนตัว)
รุ่นของกระจกกันรอย iPad จาก Hi-Shield พร้อมราคาและสถานที่จัดจำหน่าย
สำหรับ Hi-Shield นั้นผลิตกระจกกันรอยสำหรับ iPad แทบจะทุกรุ่นที่วางขาย ณ ตอนนี้ได้แก่
- iPad mini 4 – 650 บาท (ซื้อผ่านออนไลน์จาก Hi-Shield เท่านั้น)
- iPad 9.7″ และ iPad Pro 9.7″ – 1,290 บาท
- iPad Pro 10.5″ – 1,290 บาท
- iPad Pro 12.9″ – 1,390 บาท
ผู้ที่สนใจสามารถซื้อหากันได้ที่
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
- Facebook : Hishield ฟิล์มและกระจกกันรอย
- เว็บไซต์: https://www.facebook.com/Hishieldgadget/
- LINE@ : @Hishieldgadget