iPadOS 17 เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปดาวน์โหลดแล้ว ปรับแต่ง Lock Screen, เพิ่มวิดเจ็ตได้ ดูข้อมูลสรุปที่นี่ พร้อมเช็ค iPad รุ่นไหนอัปเดตได้บ้าง
คลิปสรุปจาก iPadOS 17 Public Beta
iPadOS 17 มาแล้ว! ชมสรุปฟีเจอร์ใหม่ที่นี่
หน้าจอล็อคปรับแต่งได้ตามใจ
iPadOS 17 สามารถปรับแต่งหน้าจอล็อค Lock Screen ได้เหมือน iPhone โดยวอลเปเปอร์ที่เพิ่มเข้ามาเป็นวอลเปเปอร์จาก iOS 16 เช่น สภาพอากาศ, Unity, อิโมจิ, ดาราศาสตร์, Gradient, ธีม Pride และยังสามารถเลือกรูปภาพจากในคลังมาแสดงบนหน้าจอล็อคได้
และยังตั้งเป็น Live Wallpaper ได้เหมือนกับ iPhone ด้วยการถ่ายภาพเป็น Live Photo แล้วนำมาตั้งเป็นวอลเปเปอร์
นอกจากนี้ก็ยังสามารถปรับแต่งฟ้อนต์ สีของตัวอักษร บนหน้าจอล็อคได้ตามต้องการ
เพิ่มวิดเจ็ต Lock Screen บน iPad
iPadOS 17 สามารถเพิ่มวิดเจ็ตต่าง ๆ ที่หน้าจอล็อคได้ โดยวิดเจ็ตบนหน้าจอล็อคของ iPadOS 17 จะย้ายไปอยู่ด้านซ้ายของหน้าจอ ซึ่งสามารถเลือกเพิ่มวิดเจ็ตจากแอปต่าง ๆ ได้มากกว่าเดิม
การแจ้งเตือนบนหน้าจอล็อค
iPadOS 17 ถูกอัปเกรดให้สามารถปรับแต่งหน้าจอล็อคหรือเพิ่มวิดเจ็ตได้ รวมไปถึงการแจ้งเตือนที่แสดงบนหน้าจอล็อคก็จะถูกปรับให้เป็นแบบวิดเจ็ตซ้อนกันอยู่ด้านล่างเหมือน iOS 17 ด้วย
รองรับ Live Activities บนหน้าจอล็อค
iPadOS 17 ถูกปรับปรุงให้รองรับการใช้ฟีเจอร์ Live Activities ด้วย ซึ่งก็จะแสดงผลที่หน้าจอล็อคบน iPad เช่น สถานะของแอป Uber, สถานะ Flight บิน, สกอร์คะแนนการแข่งกีฬา รวมไปถึงนาฬิกาจับเวลาก็จะถูกนำมาแสดงด้วยเช่นกัน
Interact Widget วิดเจ็ตแบบโต้ตอบและสั่งการได้
วิดเจ็ตแบบโต้ตอบบนหน้าจอล็อคและหน้าจอโฮม ช่วยให้ผู้ใช้สั่งการหรือเรียกใช้งานฟีเจอร์ของแอปต่าง ๆ ได้จากวิดเจ็ตที่ปรากฏบนหน้าจอโฮมเลย ไม่ต้องกดเข้าไปในแอปให้ยุ่งยาก อยากสั่งการอะไรก็แตะจากบนวิดเจ็ตได้เลย
ดูและโต้ตอบไฟล์ PDF ในแอปโน้ตได้
iPadOS 17 อัปเดตแอปโน้ตใหม่ให้สามารถดูไฟล์ PDF ได้ง่ายขึ้น เลื่อนดูแต่ละหน้าเอกสารได้เลยแบบรวดเร็ว รวมถึงไฮไลท์ประเด็นสำคัญ หรือใส่คำอธิบายประกอบในไฟล์ PDF ได้เลยผ่าน Apple Pencil ซึ่งไม่ใช่แค่ไฟล์ PDF แต่ไฟล์ที่สแกนเอกสารก็ทำได้เช่นเดียวกัน และสามารถดูตัวอย่าง PDF ในหลาย ๆ ไฟล์ได้ในโน้ตเดียว
กรอกข้อมูลเร็วขึ้นด้วยฟีเจอร์ Auto Fill
ทำงานผ่าน PDF ได้ง่ายกว่าเดิมด้วยฟีเจอร์ Auto Fill ที่ระบบจะตรวจจับได้ว่าเอกสารชิ้นไหนมีช่องให้กรอกข้อมูลบ้าง เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร และอีเมล ซึ่งฟีเจอร์นี้จะจดจำข้อมูลส่วนตัวที่เราบันทึกไว้ในแอปรายชื่อแล้วป้อนลงไปในไฟล์ PDF หรือ ไฟล์ที่เราสแกนโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องมานั่งกรอกเองให้เสียเวลา
แชร์ไฟล์ PDF แก้ไขงานร่วมกัน
แอปโน้ตอัปเดตให้สามารถแชร์การทำงานร่วมกันหรือแก้ไขงานร่วมกันกับเพื่อนได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำเครื่องหมายในเอกสาร วาดภาพ หรือเพิ่มสติกเกอร์ รวมถึงดูไฟล์ PDF ร่วมกัน เวลาที่มีคนมาแก้ไขงานก็จะอัปเดตสถานะแบบเรียลไทม์โดยคนที่เราแชร์โน้ตให้ก็จะเห็นการแก้ไขด้วย
แอปข้อความ ปรับปรุงเครื่องมือใหม่
เพิ่มวิธีการสื่อสารใหม่ในแอปข้อความ ใช้สติ๊กเกอร์แบบอิโมจิ หรือสร้าง Live Sticker ได้จากรูปภาพของตัวเอง
ปรับดีไซน์เมนูในแอปข้อความให้ดูเรียบง่ายสะอาดตามากขึ้น โดยรวมเอาเมนูต่าง ๆ ไปใส่ไว้ในปุ่มเดียว แค่กดค้างที่ปุ่มจากนั้นก็เลือกใช้เมนูที่ซ่อนอยู่ได้เลย
ปรับปรุงตัวกรองการค้นหาด้วย ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาและใส่ตัวกรองเพิ่มได้เพื่อจำกัดผลลัพธ์การค้นหาให้แคบลงและเห็นสิ่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ข้อความเสียงจะได้ถูกถอดเสียงออกมาเป็นตัวหนังสือให้โดยอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ใช้อ่านข้อความนั้นได้ทันทีในกรณีที่ไม่สะดวกเปิดฟังเสียง หรือจะกลับมาฟังในภายหลังก็ได้
สื่อสารด้วย FaceTime ได้เจ๋งกว่าเดิม
ในแอป FaceTime ผู้ใช้สามารถทิ้งข้อความเสียงหรือวิดีโอได้หากอีกฝั่งไม่สะดวกรับสายโทร
เพิ่มการรีแอคชั่น เสริมอรรถรสในการพูดคุยหรือประชุมงาน สามารถเลือกหัวใจ ลูกโป่ง พลุ แสงเลเซอร์ สายฝน และอื่นๆ เพื่อแสดงรีแอคชั่นระหว่างประชุม
Safari ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สร้างโปรไฟล์ใน Safari ท่องเว็บโดยแยกเป็นหัวข้อต่าง ๆ อย่างการทำงานและเรื่องส่วนตัวได้ แต่ละโปรไฟล์จะเก็บประวัติการเข้าชม คุกกี้ กลุ่มแถบ และรายการโปรดแยกออกจากกัน และเปลี่ยนสลับไปมาระหว่างโปรไฟล์ได้ง่าย
เพิ่มความเป็นส่วนตัวเข้ามา ผู้ใช้สามารถล็อคหน้าต่างที่กำลังใช้งานอยู่ได้ โดยใช้ Face ID หรือ Touch ID และยังลบตัวติดตามที่ใช้ติดตามแบบข้ามเว็บไซต์ได้อีกด้วย
แอปสุขภาพใน iPad
นำแอปสุขภาพ (Health) และฟีเจอร์ต่าง ๆ ภายในแอปมาไว้บน iPad เพื่อให้เราดูข้อมูลสุขภาพที่ซิงค์จาก iCloud ให้เราเรียกดูข้อมูลสุขภาพบนหน้าจอที่ใหญ่กว่า ละผู้ใช้สามารถดูข้อมูลสุขภาพในเชิงลึกได้ผ่านแนวโน้ม ไฮไลต์ และแผนภูมิแบบอินเทอร์แอ็คทีฟที่มีรายละเอียดครบถ้วน
อีกหลายการอัปเดตที่น่าสนใจของ iPadOS 17
- ตัวจัดการให้อยู่ตรงกลาง เพิ่มความยืดหยุ่นขึ้นไปอีกระดับในเรื่องตำแหน่งและขนาดของหน้าต่าง ผู้ใช้จึงสามารถจัดการพื้นที่การทำงานได้มากกว่าเดิม รวมถึงยังรองรับกล้องในตัวเครื่องและจอภาพภายนอกอีกด้วย
- แอป Freeform มีเครื่องมือใหม่ๆ ด้านการวาด รองรับการยกปลาย เอียง และการย้ายไปติดรูปร่างอื่น ความสามารถในการเพิ่มเส้นเชื่อมต่อและรูปร่างใหม่ๆ ลงในวัตถุ และ Follow Along เพื่อแนะนำผู้ทำงานร่วมกันในบอร์ด
- Spotlight ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลและดำเนินการต่าง ๆ ได้เร็วขึ้นไปอีกโดยมีทางลัดไปสู่การกระทำถัดไป ผลลัพธ์ที่มีการปรับปรุงเรื่องการแสดงผล และการค้นหาวิดีโอ
- ค้นดูจากภาพ ขยายความสามารถของการรู้จำไปสู่อาหาร หน้าร้าน รวมถึงเครื่องหมายและสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น ป้ายแนะนำการดูแลรักษาที่ติดอยู่บนเสื้อผ้า
- แป้นพิมพ์มีการปรับปรุงเรื่องการแก้ไขอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ใช้ป้อนข้อความได้รวดเร็วและง่ายดายมากกว่าเดิม การคาดเดาข้อความแบบในบรรทัดช่วยให้ผู้ใช้พิมพ์ให้จบประโยคได้รวดเร็ว และคุณสมบัติการป้อนตามคำบอกก็มีโมเดลใหม่เรื่องการรู้จำคำพูดของที่ทำงานได้แม่นยำขึ้นไปอีก
- Siri เปิดใช้งานได้เพียงพูดว่า “Siri” เมื่อเปิดใช้งานแล้ว ผู้ใช้จะสามารถพูดหลายคำสั่งติดต่อกันได้เลยโดยไม่ต้องพูดสั่งเพื่อเปิดใช้งานซ้ำหลายครั้ง
- AirPlay แชร์เนื้อหาได้ง่ายกว่าเดิมเนื่องจากมีระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์ที่จะคอยศึกษาความชื่นชอบของผู้ใช้ นอกจากนี้ AirPlay ยังทำงานได้กับโทรทัศน์รุ่นที่รองรับในโรงแรมหลายแห่ง ผู้ใช้จึงสามารถเพลิดเพลินไปกับเนื้อหาโปรดบนโทรทัศน์ได้ง่ายๆ แม้ไม่ได้อยู่ที่บ้าน ความสามารถนี้สร้างขึ้นโดยคำนึงความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเป็นหลัก จึงจะเปิดให้ใช้งานได้ในช่วงก่อนสิ้นปีนี้ในโรงแรมบางแห่งโดยเริ่มจากแบรนด์ต่างๆ ในเครือ IHG Hotels & Resorts ก่อน
- แอปเตือนความจำ มีประสบการณ์ใช้งานใหม่อย่างรายการจ่ายตลาดอัจฉริยะ ที่ทำให้ซื้อของได้ง่ายขึ้นโดยการจัดกลุ่มสินค้าเป็นหมวดหมู่ต่างๆ โดยอัตโนมัติ และมีมุมมองคอลัมน์แบบใหม่เพื่อแสดงหมวดหมู่เรียงไปตามหน้าจอแนวนอน
- แอปแผนที่ เปิดให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแผนที่เพื่อให้แบบออฟไลน์ได้ ผู้ใช้สามารถเลือกพื้นที่ ค้นหาและลองดูข้อมูลแบบละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ รวมถึงขอเส้นทางได้ทุกรูปแบบการเดินทางแม้ว่าจะออฟไลน์อยู่ก็ตาม
- ความเป็นส่วนตัว ได้รับการอัปเดตให้ขยายความปลอดภัยในการสื่อสารไปเพิ่มการปกป้องให้เด็กๆ รวมถึงมีการแจ้งเตือนเนื้อหาที่มีความละเอียดอ่อนสำหรับผู้ใหญ่ มีการอัปเดตเรื่องสิทธิ์อนุญาตของรูปภาพและปฏิทินช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจได้ดีมากขึ้นเกี่ยวกับข้อมูลที่แชร์กับแอป รวมถึงมีการอัปเดตโหมดล็อคดาวน์ที่เสริมการปกป้องให้ผู้ที่อาจตกเป็นเป้าหมายของสปายแวร์แบบว่าจ้างผลิต
- การช่วยการเข้าถึง มีเครื่องมือใหม่ ๆ ที่ทำให้ iPad ใช้งานได้ง่ายขึ้นไปอีก อย่างคุณสมบัติการเข้าถึงการช่วยเหลือซึ่งเป็นอินเทอร์เฟซที่ปรับแต่งได้เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ที่มีความบกพร่องด้านการรู้คิดมีความสะดวกและใช้ iPad ด้วยตนเองได้มากขึ้น คุณสมบัติเสียงพูดสดช่วยให้ผู้ใช้ที่ไม่สามารถสื่อสารผ่านการพูดมีตัวเลือกในการป้อนข้อความให้ตัวเครื่องออกเสียงแทนตัวเองได้เมื่อสื่อสารแบบพบหน้า อยู่ในสายโทรศัพท์ หรืออยู่ในสายโทร FaceTime คุณสมบัติเสียงส่วนตัวช่วยให้ผู้ใช้ที่มีความเสี่ยงในการสูญเสียความสามารถในการพูดมีตัวเลือกในการผลิตเสียงที่คล้ายกับเสียงของตัวเอง แล้วนำไปใช้ได้อย่างลื่นไหลด้วยคุณสมบัติเสียงพูดสด ส่วนในแว่นขยายก็มีคุณสมบัติชี้และอ่านออกเสียง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ที่ตาบอดหรือมองเห็นเลือนรางสามารถใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือวัตถุที่จับต้องได้อื่นๆ ซึ่งมีป้ายข้อความขนาดเล็ก
iPad รุ่นรองรับ iPadOS 17
- iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 6)
- iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 5)
- iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 4)
- iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 3)
- iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 2)
- iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 4)
- iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 3)
- iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 2)
- iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 1)
- iPad Pro รุ่น 10.5 นิ้ว
- iPad Air (รุ่นที่ 5)
- iPad Air (รุ่นที่ 4)
- iPad Air (รุ่นที่ 3)
- iPad (รุ่นที่ 10)
- iPad (รุ่นที่ 9)
- iPad (รุ่นที่ 8)
- iPad (รุ่นที่ 7)
- iPad (รุ่นที่ 6)
- iPad mini (รุ่นที่ 6)
- iPad mini (รุ่นที่ 5)