Zakura Kim
ทีมงาน Macrumors ได้หยิบ iPhone 11 Pro Max และ Samsung Galaxy S20 Ultra ซึ่งเป็นรุ่นท็อปเรือธงของทั้งสองค่ายสมาร์ตโฟนมาเปรียบเทียบกล้อง เพื่อให้เราได้รับชมว่าการถ่ายภาพแต่ละโหมดของกล้องทั้งสองนั้นเป็นอย่างไร มีข้อแตกต่างและจุดเด่นจุดด้อยตรงไหนบ้าง ไปชมกันเลย
เปรียบเทียบกล้อง iPhone 11 Pro Max กับ Samsung Galaxy S20 Ultra
ก่อนที่เราจะไปชมเปรียบเทียบการถ่ายภาพแต่ละโหมด เรามาดูสเปคกล้องของสมาร์ตโฟนทั้งสองก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง
iPhone 11 Pro Max มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ กล้องเลนส์ Wide, กล้องเลนส์ Tele และกล้องเลนส์ Ultra Wide ซึ่งทั้งสามมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลทั้งหมด
ส่วน Galaxy S20 Ultra มาพร้อมกล้อง 4 ตัว ได้แก่ กล้องเลนส์ Wide ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล, กล้องเลนส์ Tele ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, กล้องเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และกล้อง DepthVision สำหรับถ่ายภาพบุคคล
การเปรียบเทียบนี้เป็นการทดสอบและให้ความเห็นจากทีมงาน Macrumors
ชมวิดีโอเปรียบเทียบ
โหมดภาพถ่ายบุคคล (Portrait Mode)
การทดลองถ่ายโหมดภาพถ่ายบุคคลจาก Galaxy S20 Ultra มีความคมชัดมากกว่าและตรวจจับและเก็บขอบของวัตถุได้เนียนกว่า iPhone 11 Pro Max แต่ภาพจาก iPhone เก็บขอบเขตรายละเอียดของภาพหรือ Dynamic Range ดีกว่า แต่โดยรวมยกให้ Galaxy S20 Ultra ทำได้ดีกว่า iPhone ในโหมดนี้
โหมดถ่ายภาพปกติ
สำหรับการถ่ายภาพโหมดปกติทั่วไปด้วยกล้องทั้ง 3 ตัวที่มีเลนส์แตกต่างกัน iPhone ให้ภาพที่สวยกว่า โดยให้สีที่สมดุลและมี Dynamic Range ที่ดีกว่า
ภาพที่ได้จากกล้องของ Galaxy S20 Ultra ดูเหมือนว่าจะสว่างจ้าหรือ Contrast มากเกินไป โดยเฉพาะรูปที่ถ่ายดวงอาทิตย์และเมฆ แต่เมื่อถ่ายในที่แสงน้อยภาพจากกล้องทั้งสองถือว่าทำได้ดีทั้งคู่
เมื่อทดสอบถ่ายภาพมุมกว้างด้วยโหมด Ultra Wide พบว่า Galaxy S20 Ultra ให้ภาพที่คมชัดมาก ส่วน iPhone ให้ภาพโทนนุ่มนวล ไม่ค่อยคมชัดมากนัก เนื่องจากเซ็นเซอร์เลนส์ Wide ของ Apple ดีกว่าเซ็นเซอร์เลนส์ Ultra Wide
การซูม (Zoom)
Galaxy S20 Ultra มาพร้อมกับฟีเจอร์การซูม 100 เท่าหรือเรียกว่า Space Zoom ถ้าหากเทียบกับ iPhone 11 Pro Max ที่ซูมได้เพียง 10 เท่า แน่นอนว่า Galaxy S20 Ultra ชนะ ซึ่งฟีเจอร์การซูม 100 เท่านั้นอาจจะมีประโยชน์สำหรับการถ่ายภาพในบางโอกาส
และเมื่อทดสอบถ่ายภาพด้วยการซูม 30 เท่าจากกล้อง Galaxy S20 Ultra พบว่าภาพคมชัดน่าประทับใจมาก
โหมด Single Take ของ Galaxy S20 Ultra
Single Take เป็นฟีเจอร์เด่นใน Galaxy S20 Ultra ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอและถ่ายรูปไปพร้อมกัน เมื่อเวลาที่เรากดถ่ายวิดีโอ กล้องก็จะเก็บภาพช็อตดี ๆ ไว้ให้เราด้วย ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่น่าสนใจและสร้างความสนุกในการถ่ายรูป ใน iPhone ไม่มีฟีเจอร์นี้
โหมดความละเอียดสูงจาก Galaxy S20 Ultra
Samsung ได้พัฒนากล้องหลังของ Galaxy S20 Ultra ให้ถ่ายภาพความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล ภาพที่ได้มีความคมชัดและเก็บรายละเอียดได้ดีเยี่ยม สามารถครอบตัดส่วนที่ต้องการได้ ซึ่งภาพที่ตัดมาก็ยังคงความคมชัดอยู่ เหมาะสำหรับนำไปทำภาพ Wallpaper
แต่ภาพความละเอียดสูงนั้นมีไฟล์ขนาดใหญ่ Samsung จึงได้มีโหมดภาพถ่าย 12 ล้านพิกเซลสำหรับการถ่ายภาพทั่วไป
โหมดกลางคืน (Night Mode)
สมาร์ตโฟนทั้งสองรุ่นมีโหมดกลางคืน (Night Mode) ที่ช่วยให้การถ่ายภาพกลางคืนหรือในที่มืดได้สวยงามมากขึ้น ซึ่งทั้งสองสามารถถ่ายภาพกลางคืนได้ดี แต่ผู้ใช้ Galaxy S20 Ultra จะต้องเปิดโหมดกลางคืนก่อน ในขณะที่ iPhone 11 Pro Max จะตรวจจับและตั้งค่าโหมดกลางคืนให้อัตโนมัติ ให้ความสะดวกมากกว่า
ภาพจากโหมดกลางคืน iPhone 11 Pro Max มีการประมวลผล HDR ที่ดีกว่า ทำให้ภาพถ่ายในที่แสงน้อยดูสวยงาม แต่ก็ถือว่าถ่ายออกมาได้สวยทั้งคู่ แล้วแต่ความชื่นชอบโทนสีของแต่ละบุคคล
การถ่ายวิดีโอ
Galaxy S20 Ultra มาพร้อมกับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 8K ส่วน iPhone ถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 4K แน่นอนว่า Galaxy S20 Ultra ถ่ายวิดีโอได้คมชัด แต่ระบบป้องกันภาพสั่นไหวยังทำไม่ดีเท่าที่ควร
เมื่อเปรียบเทียบวิดีโอ 8K จาก Galaxy S20 Ultra กับวิดีโอ 4K จาก iPhone 11 Pro Max (ที่ 24 เฟรมต่อวินาที เนื่องจาก S20 ปรับสูงสุดได้เท่านี้) ทั้งคู่ทำงานได้ใกล้เคียงกันในแง่ของความเสถียรและการโฟสกัส แต่ iPhone 11 Pro Max อาจจะได้คะแนนด้านความเสถียรภาพมากกว่าเล็กน้อย
โหมดเซลฟี่ กล้องหน้า
Galaxy S20 Ultra มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ส่วน iPhone 11 Pro Max มาพร้อมกล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 เช่นกัน
จากการถ่ายภาพเซลฟี่ของกล้องทั้งสอง พบว่าภาพที่ได้สวยงามทั้งคู่ ซึ่งไม่แตกต่างกันมากนัก ถึงแม้ว่ากล้อง Galaxy S20 Ultra จะมีความละเอียดสูงกว่า แต่ในกล้องหน้าของ Galaxy S20 Ultra นั้นมีฟีเจอร์โหมดความงามที่สามารถเปิดใช้งานได้ เพื่อช่วยให้ภาพถ่ายเซลฟี่สวยและเนียนใสมากขึ้น ซึ่งใน iPhone 11 Pro Max ไม่มี
ส่วนการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าความละเอียด 4K ที่ 60 เฟรมต่อนาทีของทั้งสองนั้น ให้ภาพความคมชัดเหมือนกัน แต่เสียงของทางฝั่ง Galaxy S20 Ultra จะเบากว่า
ข้อสรุป
การเปรียบเทียบกล้องสมาร์ตโฟนเรือธงนั้น ไม่มีผู้ชนะแบบชัดเจน ทั้ง iPhone 11 Pro Max และ Galaxy S20 Ultra นั้นมีกล้องที่ดีและถ่ายภาพออกมาได้สวยงามทั้งคู่ ทั้งในเรื่องของความคมชัดและแสง
หลัก ๆ iPhone จะชนะในเรื่องของ Dynamic Range และความเสถียรในการถ่ายวิดีโอ ส่วน Galaxy S 20 Ultra ก็ชนะในเรื่องของการถ่ายภาพโหมดบุคคล (Portrait) และความคมชัด
และนี่ก็เป็นการเปรียบเทียบภาพถ่ายที่ได้จากกล้อง iPhone 11 Pro และ Galaxy S20 Ultra จากทีมงาน Macrumors แน่นอนว่าภาพที่ได้จากกล้องทั้งสองนั้นจะสวยหรือดีกว่ากันก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลว่าชอบโทนสีแบบไหนและชอบฟีเจอร์อะไรบ้าง ลองชมวิดีโอด้านบนประกอบได้นะคะ
ขอบคุณ macrumors
