หลายคนอาจจะตัดสินใจซื้อ iPhone ที่เป็นเครื่องมือสองมาใช้ ทีมงานจึงมีคำแนะนำในการตรวจเช็ค หรือคำแนะนำในการเลือกซื้อ iPhone มือสองมาบอก
ถ้าจะซื้อ iPhone มือ 2 ต้องตรวจเช็คอะไรบ้าง ? (อัปเดต 2022)
iPhone มือสองที่ขายในท้องตลาดในปี 2022 ก็มีหลายรุ่นด้วยกัน เช่น iPhone 7, iPhone 8, iPhone X, iPhone XR, iPhone XS, iPhone XS Max, iPhone 11, iPhone 12, iPhone SE 2 หรือแม้กระทั่ง iPhone รุ่นใหม่อย่าง iPhone 13 ก็มีวางขายเช่นกัน โดยแนะนำให้เลือกซื้อให้ดี
iPhone ที่เป็นเครื่องมือสองแน่นอนว่าอาจผ่านการใช้งานมาพอสมควร เราควรจะตรวจเช็ค iPhone ให้ดีก่อนจ่ายเงินหรือรับเครื่องมาใช้ จะได้ไม่เกิดปัญหาภายหลัง มาดูคำแนะนำกันเลย
1. เช็คสภาพเครื่องภายนอก
ตรวจดูร้ิวรอยรอบตัวเครื่องว่ามีร่องรอยการตกกระแทกไหม เช็คหน้าจอว่าเป็นรอยมากไหมหรือมีรอยแตกตรงไหน ตัวเครื่องงอหรือบิ่นหรือไม่ ให้ประมาณจากสายตาเราเองเลยว่าสภาพเครื่องสวยและเรารับได้หรือไม่
2.เช็ค IMEI และเลขประจำเครื่อง
เช็คเลขประจำเครื่อง และ เลข IMEI ของตัวเครื่องว่าตรงกับเลขที่อยู่หลังกล่องหรือไม่สำหรับวิธีเช็คเลขประจำเครื่อง ให้เข้าไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > เกี่ยวกับ > ดูเลขประจำเครื่อง 10 หลัก ว่าตรงกับหลังกล่องไหม
ส่วนวิธีเช็คเลข IMEI ทำได้โดย เข้าไปที่แอปโทรศัพท์ (Phone) จากนั้นกด *#06# จากนั้นจะมีเลข IMEI พร้อมบาร์โค้ดปรากฏขึ้นมา ให้ตรวจเช็คว่าตรงกับเลขที่หลังกล่องหรือไม่
3.ทดสอบ Touch ID / Face ID ว่าสามารถใช้งานได้หรือไม่
หากเป็น iPhone รุ่น Touch ID ให้ทดสอบโดยการเพิ่มลายนิ้วมือเข้าไป แล้วลองสแกนนิ้วเพื่อปลดล็อค iPhone ดู โดยให้ลองหลาย ๆ ครั้งว่าสามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่
หากเป็น iPhone รุ่น Face ID ให้ทดสอบโดนการเพิ่มใบหน้า และให้ลองปลดล็อค iPhone ด้วยการสแกนใบหน้าหลาย ๆ ครั้งว่าสามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่
4.เช็คหน้าจอ
ให้เช็คดูว่าหน้าจอมี dead pixel หรือ bright pixel หรือไม่ แนะนำให้ปรับแสงหน้าจอให้สว่างสุด แล้วเปิดภาพพื้นหลังที่เป็นสีขาว สีดำ สีเขียว สีแดง และสีฟ้า เพื่อทดสอบ
หรือแตะที่ลิงก์นี้ : พื้นหลังสำหรับทดสอบ dead / bright pixel
5.เช็คระบบสัมผัสหน้าจอ
ทอสอบการทัชสกรีนในตำแหน่งต่างๆ ลองพิมพ์ข้อความลงบนโน้ตพร้อมดูว่าการพิมพ์ตอบสนองต่อการการสัมผัสของนิ้วได้ดีหรือไม่ อาจจะลองเล่นเกมเบา ๆ ซักเกม เพื่อดูการตอบสนองการสัมผัส
6.ตรวจสอบแบตเตอรี่
อย่างแรกให้ดูว่าแบตบวมหรือไม่ โดยให้สังเกตจากตัวเครื่องภายนอกบริเวณจอ ว่าจอมีการนูนขึ้นมาจนผิดปกติหรือเปล่าจากนั้นให้เช็คสุขภาพแบตเตอรี่ โดยสุขภาพของแบตเตอรี่ที่ดีไม่ควรต่ำกว่า 80%
เข้าไปเช็คสุขภาพแบตเตอรี่โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > แบตเตอรี่ > สุขภาพแบตเตอรี่ > ดูความจุสูงสุด (ไม่ควรต่ำกว่า 80%)
เมื่อเช็คดูแล้วให้ลองใช้งานดูว่าแบตเตอรี่ลดเร็วไปไหม หากแบตเตอรี่ลดลงอย่างรวดเร็ว อาจแปลว่าแบตเตอรี่ในเครื่องนั้นกำลังเสื่อม
7.เช็คปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ปุ่มด้านข้าง และปุ่มเปิด/ปิดเสียง
เปิดเพลงแล้วให้ลองใช้งานปุ่มเพิ่มเสียง/ปุ่มลดเสียง ว่ามีการตอบสนองตามนั้นหรือไม่
จากนั้นให้ทดสอบปุ่มเปิด/ปิดเสียง (ปุ่ม sleep/wake) เช็คดูว่าเมื่อปิดเสียง มีการสั่นหรือไม่ส่วนปุ่มด้านข้างก็ต้องเช็คเช่นกัน เมื่อกดปุ่มด้านข้างจะเป็นการล็อคหน้าจอ หรือปลุกหน้าจอเมื่ออยู่ที่หน้าล็อคสกรีน
8.ทดสอบลำโพงและไมค์
ให้ลองทดสอบลำโพงโดยการเปิดเพลงจากแอปฟังเพลง เช่น Apple Music หรือ YouTube ลองเพิ่มเสียงลดเสียง และลองฟังความดังของลำโพงตอนเปิดเสียงดังสุดดูว่าปกติไหม
สำหรับไมโครโฟนให้ทดสอบโดยการอัดเสียงในแอปเสียงบันทึก หรือจะทดสอบโดยการโทรก็ได้
9.ทดสอบกล้องหน้าและกล้องหลัง
ลองถ่ายรูปภาพหรือวิดีโอจากทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังดูว่า กล้องโฟกัสไหม รูปและวิดีโอที่ถ่ายออกมามีความชัดหรือไม่
10.ทดสอบการเชื่อมต่อ Wi-Fi และเซลลูลาร์
ให้ลองเชื่อมต่อ Wi-Fi ว่าสามารถเชื่อมต่อหรือใช้งานได้ปกติหรือไม่
หากมีซิมก็ให้ลองใส่ซิมการ์ดเข้าไปแล้วทดสอบการใช้งานเซลลูลาร์ 4G หรือ 5G ว่าใช้งานได้ปกติไหม
11.ทดสอบใส่ซิมไทย
ลองใส่ซิม เช็คดูการโทรเข้า โทรออกว่าปกติหรือไม่ และตอนที่เราเอาเครื่องแนบหูหน้าจอ iPhone จะต้องดับ
ทดสอบกล้องหน้าและกล่องหลังสำหรับกล้องให้ทดลองถ่ายรูปและวิดีโอดูว่า กล้องโฟกัสได้ไหม ถ่ายออกมาแล้วรูปคมชัดในแบบที่ควรจะเป็นหรือไม่ โดยให้ทดสอบทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
12.ทดสอบหูฟัง (หากมีมาด้วย)
หากมีหูฟังแบบเสียบสาย ลองเสียบหูฟังเพื่อเช็คดูว่าพอร์ตหูฟังยังใช้งานได้ เมื่อเชื่อมต่อกับหูฟังแล้ว เสียงที่ออกมามีความดังหรือชัดเจนหรือเปล่า
13.เช็คพอร์ต Lightning และการชาร์จ
ลองเสียบสาย Lightning ดูว่าชาร์จไฟเข้าไหม
14.ตรวจสอบประกันของเครื่อง
หากผู้ขายแจ้งว่าเครื่องยังอยู่ในระยะเวลาการรับประกัน ให้ลองเช็คว่าเป็นไปตามที่แจ้งหรือไม่ โดยเข้าไปเช็คได้ที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > เกี่ยวกับ > การรับประกันแบบจำกัด ดูว่ามีประกันถึงเมื่อไหร่ (เครื่องมือ 1 จะมีการรับประกันจาก Apple ให้ 1 ปี)
ทั้งหมดนี้ถือเป็นจุดหลักสำคัญในการตรวจสอบเครื่องก่อนที่จะรับ iPhone มือ 2 มาใช้งาน ควรตรวจเช็คทุกอย่างโดยละเอียดเพื่อจะได้ไม่มีปัญหาภายหลังค่ะ