บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งวิเคราะห์ว่ายอดขาย iPhone จะลดลงแบบปีต่อปีโดยเริ่มต้นที่ไตรมาสถัดไป โดยบริษัทด้านลงทุนเทคโนโลยีได้สะท้อนการคาดการณ์ของบริษัทหลักทรัพย์ KGI เกี่ยวแนวโน้มขาลงหลังจากนี้แบบ “ปีต่อปี” หลังจากเปิดตัว iPhone 6s แต่ทั้งนี้ก็ยังบอกนักลงทุนว่า “ยังไม่ควรกังวล”
ทางด้านนักวิเคราะห์ได้กล่าวว่าก่อนหน้านี้ Apple สามารถทำกำไรได้ดีจาก iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ในเรื่องของการปรับราคาขาย (แพงขึ้น) รวมถึงยอดขายที่มากขึ้นจากคนที่กำลังต้องการ “ไอโฟนหน้าจอใหญ่” โดยทั้งนี้เขากล่าวว่าหลังจาก iPhone 6s ยอดขายอาจเริ่มซาลง ซึ่งวัดจากยอดสั่งซื้อของบริษัทผลิตชิ้นส่วน
แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า Apple จะเสียส่วนแบ่งให้กับคู่แข่งแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้เกิดจากปริมาณการสั่งซื้อที่สูงขึ้นมากสมัย iPhone 6 และ iPhone 6 Plus จึงทำให้การซื้อรุ่นถัดไปอาจชะลอหรือน้อยลง และฟีเจอร์ใหม่อย่าง Force Touch ก็ไม่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อเท่ากับ “หน้าจอที่ใหญ่ขึ้น” รวมทั้งเศรษฐกิจจีนในตอนนี้ที่กำลังอ่อนแอลงนั่นเอง
สรุปดังนี้
- ยอดขายปีก่อนสูงมากแล้ว ปีนี้ไม่น่าจะทำได้เท่ากับปีที่แล้ว
- ลูกค้ารายใหญ่อย่างจีนกลังประสบปัญหาเศรษฐกิจ
- ส่วนแบ่งการตลาดไม่ได้หนีหายไปไหน
- iPhone 6s มีหน้าตาเหมือน iPhone 6 เรื่องดีไซน์คงยังไม่มีอะไรดึงดูด
- ฟีเจอร์ใหม่ Force Touch ยังไม่ดึงพอที่จะให้คน “ซื้อเครื่องใหม่”
ก็ซื้อเพราะเป็นไอโฟนไง ระบบคงามสเถียร ระบบการใช้งานที่ดีขึ้น
ตอนแบบIphone6หลุดออกมาก็บ่นกันระนาวว่าเครื่องขอบโค้งๆไม่สวย ข้างหลังเป็นเส้นคาดไม่สวยไม่อยากได้
I5sนี่แหละคลาสสิกสวย ดีสุดๆละ
พอออกมาปุ๊บ ทำหน้าทำตาโตอยากได้กันถ้วนหน้า5555555555555555555555