in , ,

รีวิว iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ครั้งแรกของการกันน้ำและกล้องคู่

ในที่สุดทีมงานเราก็ได้ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มาครอบครองหลังจากที่ใช้วิธีจองผ่านออนไลน์และเข้าคิวเพื่อซื้ออีกเครื่องจนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก (จริงๆ แล้วผมไปมาซื้อที่นี่ก็ปีที่ 2 แล้วนะ ไม่ได้ต่างอะไรจากปีที่แล้วเท่าไหร่) เอาหละโดย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ที่ได้มา เป็นสีดำด้าน (Black) ทั้ง 2 เครื่องครับซื้อจาก Apple Store ประเทศออสเตรเลีย (สามารถเคลมได้ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยด้วย) รายละเอียดในแต่ละจุดจะเป็นอย่างไรนั้น ไปชมรีวิวกันเลย

มีอะไรในกล่องบ้าง iPhone 7, 7 Plus

iphone-7-7plus-review-1-6

สำหรับ iPhone 7, iPhone 7 Plus  มาพร้อมตัวกล่องโดยรวมเป็นสีขาว ส่วนหน้ากล่องเป็นรูปตัวเครื่อง iPhone สีดำและที่ข้างกล่องนั้นเขียนแค่ iPhone ติดไว้โดยไม่ได้ระบุรุ่นว่าเป็น iPhone 7 เหมือนรุ่นก่อนหน้าที่มีบอกเอาไว้

ในกล่องของทั้ง 2 รุ่นประกอบไปด้วย

  • ตัวเครื่อง iPhone 7 และ iPhone 7 Plus
  • หูฟังแบบ Lightning EarPods
  • หัวแปลงแบบ Lightning เป็น 3.5 มม.
  • อะแดปเตอร์สำหรับชาร์จขนาด 1W
  • สายเชื่อมต่อ USB Lightning สำหรับการชาร์จและโอนถ่ายข้อมูล
  • เอกสารประกอบการใช้งาน

iphone-7-7plus-review-1iphone-7-7plus-review-1-3iphone-7-7plus-review-1-4

iphone-7-7plus-review-2 iphone-7-7plus-review-1-5 iphone-7-7plus-review-1-2

ทั้งนี้สามารถชมวิดีโอแกะกล่องของทั้ง 2 รุ่นได้ที่ลิงก์ด้านล่างครับ

ลักษณะโดยรวมและสัมผัสแรก

iPhone-7-7plus-launch-17

จับ iPhone 7, 7 Plus ครั้งแรกก็เหมือนเราจับ iPhone 6/6s, 6 Plus/6s Plus แหละครับ รูปร่างภายนอกเหมือนกัน 90% ต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

จับ iPhone 7 / 7 Plus ครั้งแรก

iphone-7-7plus-review-1-8

iPhone 7 ขนาดตัวเครื่อง 4.7 นิ้ว ถือได้พอดีมือเท่ากับ  iPhone 6, 6s ส่วน iPhone 7 Plus นั้นขนาดหน้าจอใหญ่ 5.5 นิ้วเท่ากับ iPhone 6 Plus, 6s Plus

ด้านหลังสายสัญญาณหายไปทำให้ดูสวยขึ้น ตรงกลางจะเป็นโลโก้ Apple และด้านล่างจะมีคำว่า iPhone และรายละเอียดเกี่ยวกับการผลิต

iphone-7-7plus-review-1-7

iPhone 7 กล้องหลังมีเลนส์ขนาดใหญ่ขึ้นและขอบเลนส์นั้นจะต่างจาก iPhone 6/6s ในส่วนที่ขอบจะเป็นเนื้อเดียวกับเคสและครอบข้างเลนส์เอาไว้ทั้งหมด ด้านข้างเป็น LED Flash จำนวน  4 ดวง ให้แสงสว่างมากกว่า iPhone รุ่นก่อน

iphone-7-7plus-review-1-9

iPhone 7 Plus มาพร้อมกล้องหลัง 2 ตัว แยกเป็นเลนส์ Wide สำหรับถ่ายมุมกว้างและเลนส์ Telephoto สำหรับถ่ายระยะไกล ตัวกล้องจะใหญ่กว่า iPhone 6 Plus, 6s Plus ค่อนข้างมากครับ

iphone-7-7plus-review-1-11

iphone-7-7plus-review-1-20

ด้านข้างขวามีปุ่ม Power และช่องถาดซิมที่ถาดซิมนั้นเล็กว่า iPhone รุ่นก่อนหน้าครับและมีซีลยางกันน้ำมาด้วยครับ

iphone-7-7plus-review-1-12

ส่วนด้านข้างซ้ายมีปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง และปิดเสียงที่มองแล้วยังคล้ายกับรุ่นเดิมครับ ส่วนปุ่ม Home นั้นภายนอกอาจจะดูเหมือนเดิมนะแต่จะรู้ถึงความต่างเมื่อกด และส่วนสุดท้ายคือช่องเสียบหูฟังหายไปเพิ่มเติมเข้ามาคือเจาะรูที่เคสให้เหมือนว่ามีลำโพงอีกตัวเพิ่มมาในฝั่งนั้นแต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ลำโพงครับ

iphone-7-7plus-review-1-10

ต่อไปมาลงรายละเอียดส่วนที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละส่วนกันบ้างครับ

ปุ่ม Home แบบ Taptic Engine

iphone-7-7plus-review-1-13

ลักษณะการออกแบบปุ่ม Home หากมองจากภายนอกจะไม่แตกต่างจาก iPhone รุ่นก่อนหน้า แต่สิ่งที่แตกต่างนั้นจะอยู่ที่ระบบภายใน คือ

  • ถ้าไม่เปิดเครื่องและไม่ใช้ผิวหนังสัมผัสปุ่ม Home ใหม่นั้น เมื่อกดที่ปุ่มแล้วจะไม่ยุบตัวและไม่ตอบสนองต่อการกด
  • กดปุ่ม Home แล้วระบบสั่นจาก Taptic Engine จะทำงาน เพื่อบอกให้รู้ว่ากดแล้ว
  • ระดับการสั่นมี 3 ระดับ สามารถปรับตั้งค่าได้โดยเลือก สั่นเบา สั่นปานกลางหรือสั่นแรง
  • ปุ่ม Home ยังใช้ Touch ID รุ่นที่ 2 แบบเดียวกับ iPhone 6s ที่ทำให้สแกนนิ้วได้อย่างรวดเร็ว

นี่คือการเปลี่ยนแปลงของปุ่ม Home ใน iPhone 7 ครับ แน่นอนว่าปุ่มนี้กันน้ำได้และกันรอยขีดข่วนได้ระดับหนึ่ง ไม่แนะนำให้ใช้ของแข็งขูดที่ปุ่มนะครับเพราะจะทำให้สแกนนิ้วไม่ได้

iphone-7-7plus-review-1-14

หลังจากการใช้งานพบว่าปุ่ม Home ใหม่ดีในจุดที่ว่ากดเล่นไม่ได้ถ้าไม่เปิดเครื่อง, อายุการใช้งานนั้นอาจจะยาวนานกว่าเดิม(ทั้งนี้ต้องรอดูกันต่อไปว่า ถ้าใช้งานไปนานๆ แล้วจะเสียง่ายไหม?), ลดความเสี่ยงของฝุ่นและน้ำที่จะเข้าไปใต้ปุ่ม, แม้ปุ่มจะไม่ได้ยุบตัวลงเมื่อกด แต่ว่าระบบ Taptic Engine นั้นตอบสนองได้ค่อนข้างดีในส่วนของการสั่นแจ้งเตือน

ส่วนที่ต้องปรับตัวในการใช้งานคือ “ต้องใช้ผิวหนังสัมผัสที่ปุ่มก่อนจึงจะกดได้ ถ้าใช้เล็บจิกเพื่อกดจะไม่สามารถทำได้นะ” ดังนั้นหากใครนิ้วเปื้อนแล้วคิดจะกดก็ต้องหาทางออกกันให้ดี

การแสดงผลหน้าจอ

iphone-7-7plus-review-1-15

หน้าจอ iPhone 7 มีความละเอียดที่ 1334×750px  และ iPhone 7 Plus มีความละเอียดที่ 1920×1080px หน้าจอแสดงผลได้อย่างคมชัด และมีสีสันที่สดใสพร้อมแสดงรายละเอียดของสีได้ดีกว่าเดิม คุณสมบัติตัวจอเป็นแบบ IPS ทำให้สามารถแสดงผลหน้าจอได้ทุกมุมมอง การสัมผัสที่หน้าจอทำได้ดีและลื่นไหลไม่มีสะดุดเช่นเดิมครับ

กันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP67

iPhone 7, 7 Plus มาพร้อมระบบกันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP67 ซึ่งถือว่าเป็น iPhone รุ่นแรกที่สามารถกันน้ำได้อย่างเป็นทางการ โดย IP67 นั้นกล่าวไว้ว่า สามารถป้องกันฝุ่นได้ 100% สามารถกันน้ำได้ 30 นาที เมื่ออยู่ในน้ำระดับไม่เกิน 1 เมตร กันเหงื่อได้ กันฝนสาดได้

iphone-7-7plus-review-1-16

ทางทีมงานได้ทดสอบจำลองสถานการณ์นำ iPhone 7, 7 Plus เปิดน้ำจากก๊อกใส่ที่ตัว iPhone เป็นระยะเวลาประมาณ 1 นาทีจากนั้นเช็ดให้แห้งและใช้งานตามปกติ พบว่าตัวเครื่องยังทำงานได้ดีปกติครับเพียงแค่ระบบจะแจ้งเตือนเมื่อชาร์จหากพบว่าพอร์ต Lightning นั้นยังชื้นอยู่ ฉะนั้นต้องรอให้พอร์ตแห้งสัก 4-5 ชั่วโมงจึงชาร์จได้อีกครั้งครับ

ทีมงาน iPhoneMod นำ iPhone 7 แช่น้ำพร้อมเปิดเพลง!

  • เครื่องยังใช้งานได้ปกติไม่มีอาการดับหรือไฟระบบช็อตแต่อย่างใด
  • น้ำจะเข้าไปที่ช่องลำโพงทำให้เสียงเหมือนลำโพงแตกและคลื่นเสียงจะดันน้ำออกมาด้านนอก
  • เสียงนั้นจะดังไม่ชัดเท่าขณะลำโพงแห้ง
  • ระบบ Touch ID จะใช้งานไม่ได้ขณะที่ปุ่มเปียก
  • หน้าจอจะสัมผัสได้ประมาณ 80-90% ไม่สมบูรณ์ 100% เนื่องจากความชื้นครับ
  • แช่น้ำผ่านไป 5 นาที นำขึ้นมาทำความสะอาดด้วยการล้างน้ำเปล่าและเคาะน้ำออกจากช่องลำโพง ทิ้งไว้ให้แห้งสักพัก เปิดเพลงอีกครั้งพบว่าเสียงกลับมาดีเหมือนเดิมครับ
  • กล้องไม่มีน้ำเข้า
  • หน้าจอไม่มีน้ำไหลแล้วข้างใน
  • ทิ้งไว้ให้พอร์ต Lightning แห้ง สามารถชาร์จไฟได้ตามปกติ
  • ปุ่ม Touch ID กลับมาใช้งานได้เช่นเดิม

นอกจากนี้ยังมีรีวิวจากหลายๆ แหล่งข่าวได้รายงานว่า iPhone 7, 7 Plus กันน้ำได้นานมากกว่า 7 ชั่วโมงทั้งๆ ที่ Apple บอกว่าไม่เกิน 30 นาที และนอกจากนี้ยังอยู่ใต้น้ำที่ระดับความลึกกว่า 40 ฟุตได้นาน 5 นาทีโดยที่ยังไม่ดับ ถือว่ากันน้ำได้ในระดับดีมากครับ

ฟีเจอร์กันน้ำและฝุ่นถือว่าเป็นฟีเจอร์หลักของ iPhone รุ่นใหม่นี้เลยก็ว่าได้ครับ

ลำโพงแบบ Stereo

iphone-7-7plus-review-1-18

เป็น iPhone รุ่นแรกที่มีลำโพงแบบสเตอรีโอ  เสียงจะออกจากลำโพงที่อยู่ด้านล่างตัวเครื่องอยู่ที่ด้านขวา 1 อันให้เสียงออกไปทางแหลมนิดๆ และลำโพงอีกจุดจะออกที่หูฟังด้านบน (บริเวณที่เราแนบหูตอนคุยโทรศัพท์เลยครับ)  ส่วนด้านซ้ายล่างที่เจาะรูเหมือนว่าเป็นช่องลำโพงนั้นจะไม่มีลำโพงอยู่แต่อย่างใด

ทดลองใช้งานเปิดฟังเพลงแล้วเสียงดีกว่า iPhone 6, 6s อย่างมากครับ ยิ่งเปิดในห้องน้ำเสียงก้องและดังดีใช้ได้เลย โดยไม่ต้องอาศัยลำโพงแยกและไม่ต้องกลัวเปียกน้ำอีกด้วย นับว่าเป็นการปรับปรุงที่ดีครับหลังจากที่รอมานานแสนนานเลย

กล้องหลังใหม่

iphone-7-7plus-review-1-19

กล้องหลังของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มีความละเอียด 12MP มีระบบกันภาพสั่น (OIS) มี LED Flash  4  ดวง แบบ True Tone ช่วยปรับอุณหภูมิและความสะดวกของภาพถ่ายได้ดียิ่งขึ้นหากต้องถ่ายภาพโดยการใช้แสงแฟลชช่วย

จุดที่น่าสนใจในรุ่นนี้ คือ กล้องหลัง 2 ตัว ของ iPhone 7 Plus โดยกล้องแรกจะเป็นแบบ Telephoto และ Wide angle ความละเอียด 12MP มีคุณสมบัติการซูมภาพ 2 เท่า ถ่ายภาพแบบ RAW ได้ และถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้

ความแตกต่างของกล้อง iPhone 7, 7 Plus

นอกจากภายนอกที่เราเห็นกันอย่างชัดเจนคือ iPhone 7 มีกล้องหลังตัวเดียว ส่วนทางด้าน iPhone 7 Plus นั้นมีกล้องหลัง 2 ตัว ซึ่งทำให้กล้องของ iPhone 7 Plus เหนือกว่าก็มีเพียง

  • ซูมได้ไกลกว่าทำให้ถ่ายภาพระยะไกลได้ดีกว่า
  • iPhone 7 Plus ซูมได้ 10 เท่า, ส่วน iPhone 7 ซูมได้ 5 เท่า
  • iPhone 7 Plus ซูมได้ดีเพราะ? เลนส์ตัวแรกเป็นเลนส์มุมกว้าง ส่วนเลนส์อีกตัวเป็นเลนส์เทเลโฟโต้(ถ่ายภาพระยะไกล)
  • iPhone 7 Plus เก็บภาพมุมกว้างได้มากกว่า iPhone 7 นิดเดียว (ไม่เกิน 10% ที่กว้างกว่า เมื่อวัดจากตำแหน่งเดียวกัน)
  • iPhone 7 Plus สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ(โบเก้) ได้ แต่ว่าต้องรออัปเดต iOS 10.1 ขึ้นไปจึงจะใช้ฟีเจอร์การถ่ายภาพ Portrait ได้

ความสามารถอื่นๆ นั้นแทบจะเหมือนกันหมดเลยครับกล้องหน้าก็ไม่ได้ต่างกันนะครับอีกทั้งมีระบบ OIS มาให้ทั้ง 2 รุ่น ทำให้การถ่ายวิดีโอนั้นดูนิ่งมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วย iPhone 7, 7 Plus

ภาพถ่ายปกติซูม 1x ของ iPhone 7 Plus

ภาพถ่ายแบบซูม 2x ซึ่งเป็น Optical Zoom จากตัวเลนส์ที่ 2 ทำให้ความละเอียดภาพนั้นดีกว่าการซูมแบบ Digital ครับ

ภาพถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอหรือโหมด Portrait ของ iPhone 7 Plus

ภาพถ่ายในที่มืด / แสงน้อย

ภาพถ่ายในที่กลางแจ้ง

การบันทึกวิดีโอ

ตัวอย่างบันทึกวิดีโอที่ถ่ายบน iPhone 7 เพื่อทดสอบระบบกันการสั่นสะเทือน ซึ่งทีมงานได้บันทึกวิดีโอนี้ขณะเดินถ่ายไปด้วยครับ ซึ่งผลที่ออกมานั้นถือว่านิ่งดีครับ ดีกว่ารุ่น iPhone 6s ครับ

สรุปในส่วนของการรีวิวกล้อง iPhone 7, 7 Plus

กล้อง iPhone 7, 7 Plus ไม่ใช่กล้องสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในโลก แต่หากเทียบกับ iPhone 6s และรุ่นที่เก่ากว่าถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างมากและคุณภาพดีขึ้นเยอะครับในเรื่อง

  • การถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้ดีขึ้นแต่ยังไม่ถึงกับดีมาก ยังต้องรับการพัฒนาอีกหน่อย
  • การถ่ายภาพตอนกลางวันได้ดีขึ้น การเก็บสีของรูปถ่ายที่ทำให้ภาพดูดีขึ้น เก็บสีได้เยอะขึ้น สีอิ่มตัวมากขึ้น
  • การนำเลนส์คู่มาใช้กับ iPhone 7 Plus ครั้งแรก เพิ่มประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถโหลดการซูมและโหมดการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ ทำให้สนุกกับการถ่ายภาพมากยิ่งขึ้นครับ
  • ระบบกันสั่นแบบ Optical ทั้ง  2 รุ่น ทำให้การถ่ายภาพและวิดีโอทำได้นิ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการถ่ายวิดีโอไปพร้อมกับการเดิน
  • การถ่ายภาพที่สนุกมากขึ้น ใช้งานง่าย และถ่ายสวยขึ้น เหมาะสำหรับคนทั่วไปที่ไม่มีพื้นฐานการถ่ายภาพหากถ่ายด้วย iPhone ก็สามารถถ่ายภาพให้สวยได้ โดยไม่อาศัยเทคนิคมากมายและไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก นั่นคือหัวใจของกล้องใน iOS ครับ

ในรอบนี้กล้องของ iPhone 7, 7 Plus เหมือนเป็นการอัปเกรดจาก iPhone 6s ไม่มากเท่าไหร่นัก คาดว่าจะเก็บการปรับปรุงชุดใหญ่ไว้ใช้สำหรับ iPhone ที่จะเปิดตัวในปี 2017 ที่ถือว่าเป็นการครบรอบ 10 ปีของ iPhone  นั่นเองครับ

ชมรีวิวกล้อง iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เพิ่มเติมทั้งหมดได้ที่นี่เลยครับ

หูฟังแบบ Lightning EarPods

สำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แถมมาด้วยหูฟังแบบ Lightning EarPods มาพร้อมกับหัวแปลงแบบ Lightning เป็น 3.5 มม. ลักษณะภายนอกของหูฟัง Lightning EarPods เป็นสีขาวเหมือนกับ iPhone รุ่นก่อนหน้าแตกต่างที่ขั้วสายจะเป็นการเชื่อมต่อแบบ Lightning เท่านั้นครับ

iphone-7-7plus-review-1-17

การออกแบบหูฟัง Lightning EarPods นั้นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนไม่ชอบบริเวณข้อต่อที่แปลงจาก Ligthning มาสู่สายหูฟัง มันดูใหญ่และการออกแบบไม่ค่อยจะสวยเท่าไหร่นัก

เมื่อทดลองฟังเพลงด้วยหูฟังแบบ Lightning EarPods ปรากฏว่าให้คุณภาพเสียงไม่แตกต่างจากแบบ 3.5 มม. แต่มีคุณภาพเสียงที่ดีกว่าเล็กน้อยครับ และเมื่อนำหัวแปลงแบบ Lightning มาเชื่อมต่อกับหูฟังสาย 3.5 มม. แบบเดิมมาต่อในช่อง Lightning ปรากฏว่าให้คุณภาพเสียงปกติไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่ครับ คาดว่าต้องทดสอบกับหูฟังที่พัฒนามาเพื่อใช้ประโยชน์จาก Lightning Port อย่างเต็มที่จึงจะเห็นความแตกต่างจากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้

ประสิทธิภาพ

iphone-7-7plus-review-1-21

ความเร็ว

ด้วยชิปประมวลผล A10 มาพร้อมกับ CPU แบบ 4 หัว (2 หัวแรกเพื่อความเร็ว อีก 2 หัว เพื่อการประหยัดพลังงาน) ความเร็ว 2.34GHz ที่มีความเร็วมากกว่า A9 ถึง 40% ทำให้การใช้งาน iPhone 7 ที่มี RAM 2GB และ iPhone 7 Plus ที่มาพร้อม RAM 3GB  ทำให้การใช้งานตัวเครื่องโดยรวมมีความลื่นไหลไม่สะดุด ซึ่งจะเห็นความต่างมากเมื่อประมวลผลหนักๆ อย่างเช่นการเล่นเกมกราฟฟิกสูงๆหรือการตัดต่อวิดีโอครับ

การเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth, Cellular

การเชื่อมต่อ Wi-Fi ของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับ iPhone 6s คือ 867Mbps 802.11ac Wi-Fi  และ  Bluetooth 4.2 พร้อมกับการอัปเกรดโมเด็ม LTE ให้รองรับความเร็วจาก 300 Mbps เป็น 450 Mbps ทำให้การเชื่อมต่อแบบ Cellular (3G / 4G) มีความเร็วสูงขึ้น

รองรับ 3CA ซึ่งเครือข่ายที่ให้บริการในประเทศไทยก็เช่น TrueMove H ซึ่งการเชื่อมต่อแบบ Cellular ก็เป็นการเชื่อมต่อหลักที่ผู้ใช้ iPhone ใช้อย่างเป็นประจำ ตอบโจทย์การใช้งานดาวน์โหลดเนื้อหา ดูวิดีโอต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

แบตเตอรี่

iphone-7-7plus-review-1-23

จากการใช้งาน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แบบชีวิตประจำวันทั่วไป เช่น การเล่นเกม ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ เล่นอินเตอร์เน็ต โชเชียลมีเดียต่างๆ โดย iPhone 7 มีความจุแบตเตอรี่ 1960mAh ส่วน iPhone 7 Plus มีความจุแบตเตอรี่ 2910mAh พบว่ามีอัตราการใช้แบตเตอรี่นั้นใกล้เคียงและดีขึ้นกว่า iPhone 6s และ iPhone 6s Plus เล็กน้อย สืบเนื่องมาจากความจุของขนาดแบตเตอรี่ที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเองครับ

อีกจุดหนึ่งที่สังเกตเห็นคือ iOS 10.0.1 นั้นกินแบตเตอรี่ค่อนข้างเยอะหลังการอัปเดต (พบเจอทั้ง iPhone 7, 7 Plus และ iPhone 6s Plus) แต่หลังจากทดสอบใช้ iOS 10.1 Developer Beta 1 พบว่าอาการแบตเตอรี่หมดเร็วนั้นทำได้ดีขึ้นครับ

สีและความจุตัวเครื่องและราคา

iPhone-7-7plus-launch-12

iPhone 7, 7 Plus มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่

  1. สีโรสโกลด์ (Rose Gold)
  2. สีดำ (Black)
  3. สีทอง (Gold)
  4. สีเจ็ท แบล็ค (Jet Black)
  5. สีเงิน (Silver)

ซึ่งสี Jet Black นั้นจะมีให้เลือกแค่ขนาด 128GB และ 256GB เท่านั้นครับ

ความจุตัวเครื่องของ iPhone 7, 7 Plus มีขนาดให้เลือกคือ 32GB, 128GB และ 256GB ซึ่งเมื่อเทียบกับ iOS 10 ที่ติดตั้งมาพร้อมในครั้งซึ่งใช้เนื้อที่ไปค่อนข้างเยอะเช่นกัน แต่ข้อดีคือ Apple ปรับความจุเริ่มต้นเป็น 32GB โดยราคาค่าเครื่องนั้นทำเดิม ทำให้มีเนื้อที่เหลือสำหรับการใช้งานที่มากกว่าเครื่องความจุ 16GB ของ iPhone 6, 6s ครับ

ความจุของ iPhone ไม่สามารถเพิ่มได้ดังนั้นหากใครใช้งานไม่เยอะก็แนะนำ 32GB ครับ ส่วนงานปานกลางถึงหนักแนะนำ 128GB ครับ ส่วนใครใช้งานหนักมากๆ อย่างถ่ายรูปเยอะๆ ถ่ายไฟล์ RAW หรือบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K แนะนำให้เลือก 256GB ไปเลยครับ

ราคาของ iPhone 7, 7 Plus ที่ต่างประเทศนั้นประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ประเทศไทยนั้นยังไม่มีราคาแจ้งออกมาครับ ส่วนกำหนดการขายในประเทศไทยจะเป็นช่วงปลายเดือนตุลาคม 2559 ที่จะถึงนี้ สามารถติดตามความคืบหน้าราคา iPhone 7, 7 Plus ได้ที่นี่ครับ

อัปเดตราคาที่เป็นทางการในประเทศไทย

Screenshot 2016-10-14 09.12.00

สรุป

iphone-7-7plus-review-1-22

จุดที่ประทับใจ

  1. กันน้ำกันฝุ่นได้อย่างมั่นใจไม่ต้องกังวลหากเครื่องโดนน้ำหกใส่หรือตกลงในน้ำครับ
  2. ลำโพงแบบ Stereo เสียงที่ออกมานั้นทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าเยอะครับ
  3. ชิป A10 ทำให้ประมวลผลได้เร็วมาก ไม่สะดุด
  4. กล้องหลัง 2 ตัวของ iPhone 7 Plus ที่ช่วยเรื่องการซูมแบบ Optical ทำให้ภาพไม่แตกและถ่ายภาพระยะใกล้ยกตัวอย่างเช่นสามารถถ่ายภาพดอกไม้ได้สวยและสะดวกขึ้น และถ่าย Portrait ได้ง่ายและสนุกขึ้นพร้อมด้วยการจับภาพและถ่ายภาพในที่แสงน้อยดีกว่าเดิมด้วยครับ
  5. ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานกว่ารุ่นที่แล้ว
  6. ตัวเครื่องสีดำสวยงาม ดูดีมีระดับ โดยเฉพาะสี Jet Black นั้นเนื้องานดีมากๆ ครับ
  7. การแสดงผลหน้าจอสวยงามกว่าเดิม สีสันสดใส
  8. ความจุตัวเครื่องที่ให้มามีความเหมาะสม ราคาเท่าเดิมแต่เพิ่มเติมคือเทคโนโลยีและความจุใหม่
  9. ราคาไม่แตกต่างจากรุ่นที่แล้ว เมื่อเทียบกับคุณสมบัติที่เพิ่มขึ่น
  10. RAM 3G ของ iPhone 7 Plus ทำให้รู้สึกว่าเป็นมือถือรุ่น Top อย่างแท้จริง

จุดคิดว่าต้องปรับปรุงเพิ่ม

  1. การออกแบบตัวเครื่องที่ไม่แตกต่างจากเดิม ไม่มีความแปลกใหม่
  2. กล้องหลัง Telephoto ของ iPhone 7 Plus ยังทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพมากพอ
  3. เพิ่มขั้นตอนการเชื่อมต่อหูฟัง และการพกพาหัวแปลง Lightning
  4. เลนส์กล้องหน้าควรถ่ายภาพได้กว้างมากกว่านี้
  5. หูฟังแบบ Lightning EarPods บริเวณที่เชื่อมต่อกับพอร์ต Lighting ควรออกแบบให้กระทัดรัดกว่านี้
  6. ควรเพิ่มระบบ Fast Charge ให้สามารถชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ได้เร็วมากขึ้นกว่าเดิม
  7. กระจกจอควรกันรอยได้มากกว่านี้

จุดที่ผู้ซื้อควรทราบ

  1. เคสของ iPhone 6s, 6s Plus ไม่สามารถใช้งานร่วมกับ iPhone 7, 7 Plus ได้
  2. iPhone 6s กับ iPhone 7 นั้นแตกต่างกันไม่มาก หากใครคิดจะอัปเกรดแนะนำว่าให้รอรุ่นต่อไปดีกว่า แต่หากอยากอัปเกรดไปเล่นรุ่น iPhone 7 Plus เพื่อทดสอบกล้องคู่ก็น่าสนใจดีเหมือนกันครับ
  3. ผู้ใช้จะไม่สามารถชาร์จไฟแบตเตอรี่พร้อมกับการฟังเพลงไปด้วยได้ ถ้าอยากทำเช่นนั้นได้ต้องใช้หูฟังไร้สายหรืออุปกรณ์เสริมแทนครับ
  4. ถาดซิมของ iPhone 6s, 6s Plus ไม่สามารถใช้กับ iPhone 7, 7 Plus ได้

หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ หากทีส่วนไหนที่ขาดตกไปและอยากรู้เพิ่มเติมสามารถทิ้งความเห็นไว้ที่ด้านล่างนะครับ

ขอขอบคุณ

iphone 7 sponsor

ที่สนับสนุนการรีวิวในครั้งนี้ครับ

บทความโดย iPhoneMod.net

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Attapon Thaphaengphan

ศิษย์เก่าวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ม. ขอนแก่น ผู้ก่อตั้ง iPhoneMod.net ตั้งแต่ปี 2009
อดีต Dell Technical Support รู้จัก ​Apple เพราะ Macbook Pro และใช้ iPhone ตั้งแต่รุ่น 3G จนถึงปัจจุบัน