iPhone 7 เปิดขายครั้งแรกในโลกเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2559 ที่ผ่านมาและขายที่ไทยในวันที่ 21 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา แรกๆ ที่ได้ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มาก็ยังรู้สึกว่าไม่ได้ต่างอะไรมากกับ iPhone 6s Plus ที่ใช้งานอยู่ก่อนหน้านี้ แต่…
เวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือนกว่า ตลอดเวลาที่ทดสอบเล่นและใช้งานจริงๆ ก็พบว่า iPhone 7 นั้น
ส่วนที่เพิ่มขึ้นมาใหม่จากรุ่นก่อนหน้าแม้ว่าไม่เยอะมาก แต่มันเป็นสิ่งที่มาเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับ iPhone
iPhone 7, 7 Plus นั้นตอบสนองการทำงานของผมได้ดีมากยิ่งขึ้น มันเหมาะกับงาน Blogger ที่ผมทำอยู่ประจำ ช่วยให้การทำงานง่าย สนุกและรวมเร็วมากยิ่งขึ้นครับ เมื่อใช้งานมาสักระยะแล้วอยากจะมาแชร์ให้ฟังว่ามีอะไรบ้างที่ผมชื่นชอบใน iPhone รุ่นใหม่นี้
ฟรีเจอร์เด่นใน iPhone 7, 7 Plus ที่ใช้งานแล้วชื่นชอบเป็นการส่วนตัว
1. กันน้ำได้ดีกว่าที่คิดหมดปัญหาเครื่องดับเพราะโดนน้ำ
ในฐานะที่เป็นทั้งผู้ใช้งานและช่างซ่อม iPhone ปัญหาหลักๆ ที่ทำให้เครื่องใช้งานไม่ได้ส่วนหนึ่งมาจาก “ตกน้ำ โดนความชื้น วงจรช็อต” ทำให้เครื่องเสียถึงขั้นต้องเคลมกับ AASP หรือหาซ่อมตามร้านทั่วไป สูญเสียกันไปมากทั้งเงินและข้อมูลที่อยู่ในเครื่อง
แต่แล้วใน iPhone 7, 7 Plus ทาง Apple ได้เพิ่มความสามารถในการกันน้ำและฝุ่นมาให้ใช้งานกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ทาง Apple จะบอกเพียงว่ากันน้ำแบบเบาๆ ตามมาตรฐาน IP67 ซึ่งอยู่ในน้ำได้ลึกสุด 1 เมตรไม่เกิน 30 นาที โดยที่เครื่องไม่เป็นอะไร แต่จากการทดสอบรีวิวพบว่า “iPhone 7, 7 Plus กันน้ำได้นานมากกว่า 7 ชั่วโมง“ เลยทีเดียว
ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องเครื่องจะเสียเพราะเปียกน้ำอีกต่อไปครับ แต่ยังไงก็ไม่แนะนำให้โดนน้ำจะดีที่สุดนะ ยิ่งการนำไปถ่ายรูปใต้น้ำหรือนำไปดำน้ำด้วยก็ยิ่งไม่แนะนำเลยนะครับ
2. กล้องหลังมาเป็นคู่
ถ่ายรูปบน iPhone นั้นเป็นเรื่องที่สุดแสนจะง่ายดาย ใครๆ ก็ถ่ายได้และได้ภาพออกมาสวย ยิ่งบน iPhone 7 Plus สนุกเข้าไปอีก ด้วยกล้องคู่บน iPhone 7 Plus (iPhone 7 มีกล้องตัวเดียวครับ) ไม่ว่าจะเป็นการถ่าย Portrait ถ่ายคนหรือนางแบบ, สินค้า ให้ได้ภาพภ่ายหน้าชัดหลังเบลอโดยที่ตัวแบบยังคงโดดเด่นเป็นสง่า ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นช่างกล้องมือโปรก็สามารถถ่ายรูปสวยๆ เหล่านี้ได้ครับ
หรือว่าจะเป็นวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K ที่ผมต้องถ่ายแล้วนำมาตัดต่อก็สะดวกสบายสามารถทำได้เลยบน iPhone 7 Plus เครื่องนี้
ทั้งรูปและวิดีโอแต่งและตัดต่อเสร็จสามารถอัปโหลดลง Facebook, YouTube และในเว็บ Blog ได้เลย หากทำงานนอกสถานที่ที่ไม่มีสัญญาณ WiFi ก็ไม่กังวลเพราะใช้ความเร็ว 4G ที่ให้ความแรงในการดาวน์โหลดและอัปโหลดนั้นรวดเร็วทำให้งานที่ทำเสร็จพร้อมเผยแพร่ได้ตลอดเลย ตัดปัญญาในเรื่องที่ต้อง “ต้องหา WiFi เพื่อทำงาน” ไปเลยครับ
3. ลำโพงก็มาเป็นคู่
ผมเป็นคนชอบฟังเพลงนะปกติจะใช้หูฟังที่ซื้อแยกมาใช้งานเพราะให้เสียงที่ดีกว่า แต่บางครั้งต้องใช้ลำโพงที่ตัวเครื่องบ้างเช่นตอนอาบน้ำหรืออยู่ในห้องคนเดียวก็จะเปิดเพลงฟัง ด้วยลำโพงคู่ของ iPhone 7 , 7 Plus ที่ทาง Apple อัปเกรดเป็นแบบสเตอริโอส่งผลให้คุณภาพเสียงที่ดียิ่งขึ้น ดังขึ้นและเสียงมีมิติมากยิ่งขึ้น จึงเป็นอีกความสามารถหนึ่งที่ผมประทับใจใน iPhone รุ่นใหม่นี้
4. ชิป LTE ใหม่เล่น 4G+ ได้แรงสมใจ
ข้อมูลที่น่าสนใจและคิดว่าผู้ที่ซื้อ iPhone 7, 7 Plus ควรทราบก็คือ
iPhone 7, 7 Plus รองรับ 3CA ความเร็วสูงสุดถึง 450 Mbps* และสามารถใช้งานได้จริงแล้ววันนี้ ที่ประเทศไทย!
ถือว่าเป็น iPhone รุ่นแรกที่รองรับ LTE-A แบบ 3CA นี้ครับ
ผลที่ตามมาก็คือ สามารถดาวน์โหลดข้อมูลได้แบบรวดเร็วสูงสุดถึง 450 Mbps ซึ่งทดสอบแล้วที่ประเทศไทย บนเครื่อง iPhone 7, 7 Plus เชื่อมต่อเครือข่าย TrueMove H สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 223 Mbps กันเลยทีเดียวครับ (บนชิปโมเดมของ Intel)
ความเร็วระดับนี้จะช่วยให้การดูคลิปความคมชัดระดับ HD จาก YouTube ดาวน์โหลดพร้อมให้ชมกันอย่างรวดเร็ว หรือไม่ว่าจะเป็นการท่องโลกอินเทอร์เน็ต ดาวน์โหลดไฟล์, การอัปโหลดรูปขึ้น Facebook, Instagram หรือการใช้งานโทรสนทนาผ่านเสียงแบบความละเอียดสูง VoLTE และวิดีโอคอลก็ทำได้อย่างสะดวกและไม่สะดุดอีกต่อไป
อีกทั้งสามารถเป็น iPhone 7, 7 Plus ให้เป็น Mobile Hotspot แชร์เน็ต 4G+ ไปเป็น WiFi แล้วใช้งานกับคอมพิวเตอร์เพื่อทำงานได้จากทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ
ทั้งหมดเป็นฟีเจอร์ที่ผมใช้งาน iPhone 7, 7 Plus แล้วชอบที่สุด แล้วเพื่อนๆ ชอบฟีเจอร์ไหนกันบ้างครับ?