ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะมีกระแสว่าการที่ iPhone 8 มีการจัดเต็มด้านคุณสมบัติการใช้งานใหม่มากมาย ส่งผลให้ตัวเครื่องอาจมีต้นทุนสูงขึ้นมากกว่าที่ผ่านมา ล่าสุดมีสื่อต่างประเทศวิเคราะห์ว่า iPhone 8 ไม่น่าจะมีราคาขายต่อเครื่องสูงกว่า 1,000 ดอลล่าร์ ด้วยเหตุผลด้านความเหมาะสมของกำไร
iPhone 8 ไม่น่าจะมีราคาต่อเครื่องสูงกว่า 1,000 ดอลล่าร์
เว็บไซต์ CNBC, UBS รายงานว่าราคา iPhone 8 ไม่น่าจะสูงจาก iPhone 7 รุ่นเดิมมากเท่าไหร่ คาดว่า iPhone 8 OLED รุ่น 64GB จะมีต้นทุนสูงกว่า iPhone 7 Plus รุ่นเดิมราวๆ 70 – 90 ดอลล่าร์
สำหรับต้นทุน iPhone ที่สูงขึ้นทำให้ UBS เชื่อว่าในปี 2018 ที่จะเป็นปีแห่งการจำหน่าย iPhone 8 Apple จะมีอัตราส่วนผลกำไรอยู่ที่ 38.5% ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าว่าจะอยู่ที่ 38.7%
iPhone 8 OLED 64GB ราคา 870 ดอลล่าร์เป็นราคาที่เหมาะสม
สื่อต่างประเทศประมาณราคาขาย iPhone 8 OLED รุ่น 64GB ว่าจะอยู่ใน ช่วงราคา 850 – 900 ดอลล่าร์ และถ้า Apple ตั้งราคา iPhone 8 ไว้ที่ 870 ดอลล่าร์ ก็จะทำให้มีความสมดุลระหว่างผลกำไรกับต้นทุนที่สูงขึ้น
UBS คาดการณ์ว่าปี 2018 (ปีหน้า) Apple จะมีอัตราส่วนกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 10.55 ดอลล่าร์ สูงกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้าที่ 10.25 ดอลล่าร์ และ ราคาจำหน่ายโดยเฉลี่ยของ iPhone รุ่นใหม่จะอยู่ที่ 692 ดอลล่าร์ มากกว่าเดิมที่เฉลี่ยอยู่ที่ 667 ดอลล่าร์
iPhone รุ่นใหม่ปี 2017 คาดว่าจะเปิดตัว 3 รุ่น โดย iPhone 8 (iPhone X, iPhone Edition) จะมีคุณสมบัติจัดเต็มมากมาย ต้องติดตามกันต่อว่า Apple จะตั้งราคาขาย iPhone 8 รุ่นใหญ่ไว้ให้สูงเหมือนกับ Macbook Pro Touch Bar 2016 หรือไม่ต้องติดตามกันต่อไป
ขอบคุณ – iclarified