iPhone 8
iPhone รุ่นใหม่ปี 2017 นี้ ถือว่าเป็น iPhone ที่มีความพิเศษเนื่องจากจะเป็นรุ่นฉลองครบรอบ 10 ปี iPhone ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2007
โดยข่าวลือที่สื่อต่างประเทศพูดถึงกันบ่อยคือใน iPhone รุ่นใหม่ปี 2017 นี้ จะมีคุณสมบัติใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ใช้หน้าจอ OLED แบบเต็มขอบ, หน้าจอใหญ่ 5.8 นิ้ว, เซนเซอร์สแกนนิ้วแบบใหม่, ตัดปุ่ม Home ออกไปให้ใช้แผงฟังก์ชันเสมือนที่หน้าจอแทนและระบบชาร์จไร้สาย เป็นต้น
คาดการณ์คุณสมบัติ
- ตัวเครื่อง : ตัวเครื่องขนาด 4.7 นิ้ว วัสดุกระจก ใช้กรอบสแตนเลส
- หน้าจอ : OLED เต็มความกว้าง (ขอบโค้ง) 5.8 นิ้ว, เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- ชิปประมวลผล : A11
- หน่วยความจำ : RAM 3GB, ความจุ 64GB 128GB 256GB
- ระบบปฏิบัติการ : iOS 11
- กล้อง : กล้องหลังคู่ความละเอียด 16MP
- แบตเตอรี่ : ความจุ 2,700 mAh แบบ 2 Cell, รองรับระบบ Quick Charge
- การเชื่อมต่อ : USB-C
- คุณสมบัติอื่นๆ : ระบบสแกนลายนิ้วมือที่หน้าจอ, ระบบสแกนใบหน้า / ม่านตา, ปุ่ม Home และแผงฟังก์ชันเสมือนที่หน้าจอ, ระบบชาร์จไร้สายทางไกล
- สี : White, Jet Black, Black, Silver, Gold, Rose Gold
สิ่งที่คาดว่าจะพบใน iPhone 8
ชื่อเรียก?
จริงๆแล้ว ชื่อ iPhone รุ่นใหม่ปี 2017 นี้ มีแนวทางที่จะเป็นไปได้หลายรูปแบบ ดังนี้
- iPhone 7s ชื่อปกติตาม Timeline การเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ของ Apple
- iPhone 8 (ไอโฟน 8) ชื่อที่บ่งบอกการเปลี่ยนแปลงการออกแบบและคุณสมบัติใหม่จากรุ่นก่อนหน้า
- iPhone 10 หรือ iPhone X ชื่อที่บ่งบอกถึงการฉลองครบรอบ 10 ปี iPhone
- iPhone Edition
- iPhone Decade Edition
จะทราบกันในวันที่ 12 กันยายน 2560 นี้
โดยสื่อต่างประเทศส่วนใหญ่มองว่าชื่อ iPhone 8 มีความเป็นไปได้มากที่สุด เนื่องจากเป็นชื่อที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนโฉมใหม่จาก iPhone 7 รุ่นที่แล้วมากกว่าการใช้ชื่อ iPhone 7s ที่สื่อให้เห็นว่ามีการปรับปรุงคุณสมบัติเล็กน้อยจากรุ่นที่แล้วเท่านั้น ส่วนชื่อ iPhone 10 หรือ iPhone X ก็เป็นชื่อรุ่นที่ก้าวกระโดดจาก iPhone 7 มากเกินไป ดังนั้น iPhone 8 จึงเป็นชื่อที่เหมาะสมที่สุด
กล้องหลังคู่แนวตั้ง
คาดว่า Apple จะปรับแนวการวางกล้องหลังจากแนวนอนที่เห็นใน iPhone 7 Plus ให้กลายเป็นแนวตั้งแทน ซึ่งถ้าวิเคราะห์เหตุผลที่ทำเช่นนั้นก็เพื่อรองรับระบบ AR, VR ที่ทาง Apple ตั้งใจผลักดันใน iOS 11 เป็นอย่างมาก การวางกล้องเช่นนั้นหากถ่ายภาพแนวนอนจะได้ความมีมติที่มากกว่าแบบเดิม ทั้งนี้ต้องติดตามกันต่อไปครับ
จอ OLED แบบเต็มขอบ (โค้ง) 5.8 นิ้ว
จากรายงานเกี่ยวกับการสั่งผลิตจอ OLED ปริมาณมากของ Apple ในปี 2017 นี้ ทำให้ข่าวเกี่ยวกับการใช้จอ OLED ใน iPhone 8 มีการพูดคุยเป็นอย่างมากและมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่ iPhone 8 จะใช้จอ OLED แบบเต็มขอบ
iPhone 8 จะมีการตัดพื้นที่ส่วนปุ่ม Home จากรุ่นเดิมออกไป ทำให้มีพื้นที่สำหรับการใส่จอ OLED ได้มากขึ้น สำหรับพื้นที่การแสดงผลนั้นจะมีขนาด 5.15 นิ้ว ส่วนที่เหลือด้านล่างจะเว้นไว้สำหรับแผงฟังก์ชันเสมือน (Function Area) เพื่อใช้ทดแทนปุ่ม Home ที่ตัดออกไปนั่นเอง
การที่ iPhone 8 ใช้จอ OLED และตัดปุ่ม Home ออกไป ก็จะมีพื้นที่การแสดงผลมากขึ้น สำหรับ iPhone 8 นั้นมีข่าวว่า ตัวเครื่องอาจมีขนาดตัวเครื่องเท่า iPhone 7 หน้าจอ 4.7 นิ้ว หรือ iPhone 7 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้ว แต่ขยายพื้นที่หน้าจอให้กว้าง 5.8 นิ้วนั่นเอง
ตัวเครื่องวัสดุกระจก กรอบสแตนเลส
แนวคิดอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจใน iPhone 8 คือ การใช้ตัวเครื่องวัสดุกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยมีกรอบสแตนเลสครอบตัวเครื่องไว้ เรียกว่า Sandwich Design
ลักษณะการออกแบบโดยรวมนั้นจะคล้ายกับ iPhone 4 แต่ใน iPhone 8 ตัวเครื่องอาจมีความบางกว่าเล็กน้อย โดยข้อมูลที่สนับสนุนคุณสมบัตินี้มาจากรายงานที่เผยว่า ผู้ลิตของ Apple กำลังผลิตชิ้นส่วนกรอบสแตนเลสอยู่ซึ่งคาดกันว่าจะถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งของ iPhone 8
ระบบสแกนนิ้วผ่านหน้าจอ
นอกจากจอ OLED ที่จะเป็นหน้าจอรูปแบบใหม่ของ iPhone 8 แล้ว เทคโนโลยีใหม่อย่าง ระบบสแกนนิ้วผ่านหน้าจอ ก็อาจถูกใส่มาด้วยเช่นกัน โดยระบบดังกล่าวมาจากเทคโนโลยีเซนเซอร์สแกนนิ้ว 3 มิติที่ Apple พัฒนาขึ้นมาเอง
ประกอบกับการที่ iPhone 8 จะตัดปุ่ม Home ออกไปแล้วใช้แผงฟังก์ชั่นเสมือนแทน ทำให้ iPhone 8 อาจฝังระบบสแกนลายนิ้วมือไว้ที่ปุ่ม Home เสมือน รวมทั้งทุกพื้นที่ของหน้าจอ iPhone 8 อีกด้วย
สำหรับการใช้งานการสแกนนิ้วผ่านหน้าจอนั้น คาดว่าลักษณะจะใกล้เคียงกับการแตะนิ้ว Touch ID ที่ปุ่ม Home ของ iPhone รุ่นเดิม แต่ในรุ่นนี้สามารถแตะนิ้วไปที่หน้าจอและอาจจะต้องออกแรงกดสักนิดเพื่อให้ระบบสแกนนิ้วเป็นต้น
ระบบสแกนม่านตา / ใบหน้า IRIS Scan
Apple อาจเพิ่มระบบระบุตัวตนอีกหนึ่งระบบ คือ ระบบสแกนม่านตา / ใบหน้า โดยลักษณะการใช้งานนั้นจะเป็นการจับภาพวัตถุโดยใช้เซนเซอร์พิเศษแบบ 3 มิติที่อาจฝังอยู่กับกล้องหน้าในการจับภาพ ประมวลผลภาพ อ้างอิงตามรูปภาพที่เจ้าของเครื่องสแกนไว้ก่อนหน้า
พอร์ต USB-C
สำหรับการเชื่อมต่อใน iPhone 8 มีโอกาสเหมือนกันที่จะเปลี่ยนไปใช้พอร์ตสารพัดประโยชน์อย่าง USB-C ที่เป็นพอร์ตการเชื่อมต่อหลักใน MacBook Pro 2016 ที่ Apple ใช้อยู่ โดยพอร์ต USB-C ข้อดี คือ สามารถเชื่อมต่อเพื่อโอนถ่ายข้อมูล และชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วกว่าพอร์ต Lightning แบบเดิม
คาดว่าในกล่อง iPhone 8 จะแถมสายเชื่อมต่อ USB-C ไป Lightning เพื่อเชื่อมต่อ iPhone 8 กับหัวชาร์จ โดยหัวชาร์จอาจจะไม่ใช้เป็นแบบ USB-A แบบเดิมก็เป็นได้
ระบบชาร์จไร้สาย Wireless Charging
การชาร์จไร้สายใน iPhone 8 ที่คาดหวังกันไว้ จะไม่ใช่เป็นการชาร์จไร้สายแบบ Apple Watch คือ การชาร์จโดยนำอุปกรณ์ไปวางบนแท่นชาร์จแล้วเชื่อมต่อกับปลั๊กไฟซึ่งสื่อต่างประเทศมองว่ายังไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นระบบชาร์จไร้สายอย่างแท้จริง
ระบบชาร์จไร้สายที่สื่อต่างประเทศพูดถึง คือ ระบบชาร์จไร้สายทางไกล ที่ไม่ต้องเชื่อมต่อกับสายใดๆ เลย โดยข้อมูลนี้อ้างอิงมาจากบริษัท Energous ที่ Apple เข้าไปเป็น Partner ด้วย ซึ่ง Energous เป็นบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีการชาร์จไร้สายทางไกลสามารถชาร์จแบตเตอรี่อุปกรณ์ได้โดยไม่ต้องเสียบปลั๊ก
กล้องหลังคู่แบบ 3 มิติ
iPhone 8 อาจมีการปรับปรุงกล้องหลังใหม่ให้มีคุณสมบัติที่ดีกว่า iPhone 7 Plus ซึ่งถือว่าทำได้ดีมากพอสมควร โดยใน iPhone 8 จะใช้กล้องหลังเทคโนโลยีจาก LG Innotek มีคุณสมบัติเด่นด้านการถ่ายภาพให้เป็นแบบ 3 มิติ จะช่วยเก็บรายละเอียดของภาพ สีภาพ แสง และความคมชัดได้ดียิ่งขึ้น
กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68
การกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 เป็นมาตรฐานที่ Smartphone รุ่นใหม่เริ่มใช้กันมากขึ้น และ iPhone 8 อาจจะใช้มาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นนี้เช่นเดียวกัน โดยมาตรฐานดังกล่าวสามารถใช้งานใต้น้ำที่ระดับความลึก 1.5 เมตรได้ยาวนาน 30 นาที
แต่ก่อนหน้านี้ใน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ที่ใช้มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP67 ก็สามารถกันน้ำได้ดีกว่ามาตรฐานกำหนดไว้ ดังนั้นการกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 ใน iPhone 8 คงจะทำได้ดีกว่า iPhone รุ่นที่แล้วมากพอสมควร
แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น
iPhone 8 จะมีการปรับปรุงรูปแบบแผงวงจรใหม่ การปรับปรุงดังกล่าวจะส่งผลให้มีพื้นที่เหลือมากขึ้น ทำให้มีพื้นที่ว่างเป็นรูปตัว L สามารถเพิ่มพื้นที่สำหรับการใส่แบตเตอรี่เพิ่มเติมได้
คาดว่าแบตเตอรี่ใน iPhone 8 จะมีความจุ 2,700 mAh แบบ 2 Cell สามารถจุแบตเตอรี่ได้เยอะและใช้งานได้ยาวนานกว่า iPhone 7 Plus
iOS 11
ข้อมูลเกี่ยวกับ iOS 11 ณ ตอนนี้ยังไม่มีอัปเดตให้ติดตามกันมากนัก คุณสมบัติที่มีให้เห็นกันก็จะเป็น FaceTime แบบกลุ่ม และคาดว่าการที่ Apple เปลี่ยนโฉมตัวเครื่อง iPhone 8 ให้เป็นแบบใหม่ ก็อาจจะมีการปรับปรุงการออกแบบ iOS 11 ด้วยก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม สื่อต่างประเทศก็ทำวิดีโอข้อความถึง Apple เกี่ยวกับสิ่งที่อยากให้มีใน iOS 11 ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเสนอการเพิ่มคุณสมบัติให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้มากขึ้น และอยากให้ปรับปรุงการใช้งาน iOS 11 ให้ใช้งานง่ายกว่า iOS 10
iPhone 8 สีอะไรบ้าง?
คาดว่าจะมีด้วยกัน 6 สีคือ Jet Black, Black, Silver, Rose Gold และ Gold ส่วน Red นั้นน่าจะรอช่วงกิจกรรมพิเศษเช่นเดิม
อัปเดตล่าสุดรุ่นนี้จะมีเพียง 3 สีเท่านั้นได้แก่ ดำ ขาวและทอง
คาดการณ์ราคาและวันเปิดจำหน่าย
วันเปิดตัว / เปิดจำหน่าย
- วันเปิดตัว : 12 กันยายน 2560 ยืนยันแล้ว
- วัน Pre-Orders : 15 กันยายน 2560 (คาดการณ์)
- วันเปิดขายครั้งแรก : 22 กันยายน 2560 (คาดการณ์)
- วันเปิดขายในไทย : ปลายตุลาคม 2560 (คาดการณ์)
ราคา
iPhone 8 (ราคาโดยประมาณ) :
- iPhone 8 64GB —– 769$
- iPhone 8 128GB —– 869$
- iPhone 8 256GB —– 969$
สำหรับแฟนๆ iPhoneMod.net สามารถติดตามความเคลื่อนไหวการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple ประจำปี 2560 ผ่านเว็บไซต์ iPhonemod.net และ Facebook Page ที่ IPhoneMod.net ได้เลยครับ รับรองว่าจะไม่พลาดรายละเอียดดีๆ อย่างแน่นอน