Gartner รายงานว่ายอดขาย iPhone ไตรมาส 4 ปี 2018 ลดลง 11.8% หากเป็นจริงก็เท่ากับว่ายอดขาย iPhone ลดลงมากสุดในรอบ 3 ปี (ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2016)
ยอดขาย iPhone ไตรมาส 4 ปี 2018 ลดลง 11.8%
Gartner เผยว่ายอดขายสมาร์ตโฟนโดยรวมในไตรมาส 4 ปี 2018 นั้นอยู่ที่ประมาณ 408 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% แบบปีต่อปีเท่านั้น โดย Samsung ยังเป็นผู้จำหน่ายสมาร์ตโฟนเชิงปริมาณได้สูงสุดอยู่
Samsung, Apple ขายได้น้อยลง แต่ Huawei ขายได้เพิ่มขึ้นมาก (เชิงปริมาณ)
Samsung และ Apple มียอดขายสมาร์ตโฟนลดลงในไตรมาส 4 ปี 2018 (ไตรมาส 1 ปี 2019 ของ Apple) แต่ Huawei กลับขายแบบปีต่อปีได้มากขึ้น และเมื่อดูยอดขายสมาร์ตโฟนทั้งปี 2018 นั้น Samsung ยังครองอันดับ 1 และ Apple อยู่อันดับ 2 ส่วน Huawei อยู่อันดับ 3 ตาม Apple มาติดๆ
รายงานของ Gartner ชี้ว่า Apple ขาย iPhone ได้ประมาณ 64.5 ล้านเครื่องในไตรมาส 4 ปี 2018 โดยลดง 11.8% แบบปีต่อปี (ไตรมาส 4 ปี 2017 นั้น Apple ขาย iPhone ได้ 73.1 ล้านเครื่อง) ซึ่งปัจจัยหลักมาจากขาย iPhone ในจีนได้น้อย, ปัญหาเศรษฐกิจจีน-สหรัฐ, การตั้งราคาขาย iPhone แพงและอื่นๆ
Apple ไม่ได้บอกยอดขายเชิงปริมาณในการประกาศผลประกอบการในไตรมาสล่าสุด หากการคาดการณ์ของ Gartner เป็นจริงก็เท่ากับว่า ไตรมาส 4 ปี 2018 เป็นไตรมาสที่ Apple ขาย iPhone ลดลงมากสุด นับตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2016 เป็นต้นมาหรือใน 3 ปี นั่นเอง
นักวิเคราะห์เผยว่า ผู้ซื้อตัดสินใจซื้อ iPhone รุ่นใหม่น้อยลงเพราะไม่ค่อยมีนวัตกรรมอะไรใหม่ๆ รวมไปถึงราคาขายแพงซึ่งเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ แล้ว iPhone ดูน่าสนใจน้อยกว่า จึงเป็นความท้าทายของ Apple ที่ต้องแก้ปัญหาในประเด็นนี้ต่อไป
ที่มา – iclarified