yugioh2500
ในช่วงหลังนี้กล้องสมาร์ทโฟนมีการพัฒนาไปมาก จนบางครั้งก็มีการกระทบกระทั่งกันระหว่างโฆษณาที่ “โอเวอร์เกินไปจริง” เกี่ยวกับกล้องมือถือที่มีคุณภาพเทียบเท่า DSLR ทั้งที่จริงมันเทียบกันไม่ได้ และบางครั้งก็มีดราม่าที่ว่าใช้กล้องมือถือถ่ายสวยกว่ากล้องใหญ่ (ทั้งที่จริงปัญหาน่าจะอยู่ที่ช่างภาพมากกว่า) และหนึ่งในคำถามที่หลายคนสงสัยคือทำไม iPhone 8 ถึงถ่ายวิดีโอ 4K @60fps ในขณะที่ DSLR หลายรุ่นซึ่งแพงกว่ากลับทำไม่ได้
ทำไมกล้องมือถือถึงถ่ายวิดีโอดีกว่ากล้องใหญ่
จากการเปิดตัว iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X มีการชูจุดเด่นอย่างรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K @60fps และ 1080P @240fps ในขณะที่กล้อง DSLR หรือ Mirrorless หลายรุ่นถ่ายได้เพียงแค่ 4K @30fps ก็หรูแล้ว (บางรุ่นถ่ายไม่ได้ด้วยซ้ำ) ซึ่งมันก็เป็นความจริงที่ว่าจ่ายแพงกว่า แต่ทำไมถึงใช้งานได้น้อยกว่า
เหตุผลแบบสั้นก็คือ “มันคือกล้องถ่ายภาพไม่ใช่กล้องวิดีโอ” แต่หากคุณอยากเข้าใจมากกว่านั้น สามารถดูได้จากวิดีโอด้านบน ซึ่งสรุปก็คือ DSLR หรือ Mirrorless มีขนาดเซ็นเซอร์ที่ใหญ่กว่า iPhone (มาก) ทำให้ได้ DoF ที่ตื้นกว่า รวมถึงทิ้งฉากหลังได้สวยกว่างกล้อง iPhone ที่มี DoF ขนาดเล็ก
ข้อจำกัดมีทั้งเรื่องความร้อน หน่วยประมวลผล อัตราการโอนถ่ายข้อมูล ฯลฯ ที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อถ่ายวิดีโอโดยเฉพาะ
แต่ปัจจัยหลักเลยก็คือ “หน่วยประมวลผล” ของสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพมากกว่ากล้อง DSLR หรือ Mirrorless อยู่หลายเท่า (แน่นอนว่ามันถูกออกแบบมาใช้งานคนละอย่างกัน) จนทำให้สามารถถ่ายวิดีโอ 4K @60fps และ 1080P @240fps ได้นั่นเอง
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยแล้วว่า ทำไมกล้องถึงไม่ใส่หน่วยประมวลผลดี ๆ เข้าไปเลยล่ะ! คำตอบก็คือนอกจากต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นแล้ว ซึ่งเจ้าชิปประมวลผลในสมาร์ทโฟนเรือธง มีต้นทุนสูงถึง $27.5 เลยทีเดียว และนอกจากนี้อาจมีความเสี่ยงเมื่อนำไปใช้ร่วมกับเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ อาจให้กล้องร้อนจนเกินไป
สรุปก็คือการลงทุนใส่หน่วยประมวลผลราคาแพงลงไป เป็นเพียงแค่การทำให้ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงได้มากขึ้นเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลด้านอื่นให้กับประสิทธิภาพของกล้อง จึงไม่แปลกที่เราจะไม่เห็นคุณสมบัติการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงในกล้องถ่ายรูป แถมยังทำให้ต้นทุนกล้องสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น
นอกจากนี้การที่สมาร์ทโฟนพัฒนาไปเร็ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคู่แข่งจำนวนมาก มีวัฎจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ที่ต่ำกว่า รวมถึงการผลิตจำนวนมหาศาล จนทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลงนั่นเอง ซึ่งต่างจากกล้อง DSLR หรือ Mirrorless ที่ไม่ได้เปิดตัวรุ่นใหม่และมีคนซื้อใหม่ทุกปี
