iPhone แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติการทนน้ำที่ไม่เท่ากัน มาเช็คกันดูว่า iPhone แต่ละรุ่นทนน้ำ ทนฝุ่นได้มากแค่ไหน และจะมีคำแนะนำเรื่องการทนน้ำอย่างไร มาดูกันเลย
iPhone แต่ละรุ่นทนน้ำ กันน้ำกระเด็นและทนฝุ่นได้แค่ไหน? อัปเดต 2022
iPhone กันน้ำได้ไหม ?
คุณสมบัติการกันน้ำของ iPhone ในที่นี้ ทาง Apple จะเรียกว่าการทนน้ำทนฝุ่น จะไม่ได้บอกว่ากันน้ำซะทีเดียว มาดูกันว่า iPhone แต่ละรุ่นมีความสามารถในการทนน้ำทนฝุ่นได้แค่ไหนบ้าง (โดยจะอ้างอิงข้อมูลจาก Apple)
iPhone รุ่นต่าง ๆ ทนน้ำทนฝุ่นได้แค่ไหน ?
หากตามข้อมูลของ Apple นั้น iPhone รุ่นที่เก่ากว่า iPhone 7 จะไม่มีคุณสมบัติการทนน้ำ ส่วน iPhone รุ่นที่มีคุณสมบัติการทนจะมีตั้งแต่ iPhone 7 หรือใหม่กว่า
iPhone ที่มีมาตรฐาน IP67
iPhone รุ่นที่มีมาตรฐาน IP67 สามารถทนน้ำที่กระเด็น และตามเอกสารบอกว่า สามารถทนน้ำลึกระดับ 1 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที (ไม่แนะนำให้ทดสอบหากไม่จำเป็น) ได้แก่รุ่นต่อไปนี้
- iPhone 7
- iPhone 7 Plus
- iPhone 8
- iPhone 8 Plus
- iPhone X
- iPhone XR
- iPhone SE รุ่นที่ 2
iPhone ที่มีมาตรฐาน IP68
ใน iPhone รุ่นที่มีมาตรฐาน IP68 นั้น มีการทนน้ำที่ระดับความลึกที่ต่างกัน (ไม่แนะนำให้ทดสอบหากไม่จำเป็น) ได่แก่รุ่นต่อไปนี้
- iPhone XS – (IP68 ทนความลึกไม่เกิน 2 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
- iPhone XS Max – (IP68 ทนความลึกไม่เกิน 2 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
- iPhone 11 – (IP68 ทนความลึกไม่เกิน 2 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
- iPhone 11 – Pro (IP68 แต่ทนความลึกไม่เกิน 4 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
- iPhone 11 – Pro Max (IP68 แต่ทนความลึกไม่เกิน 4 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
- iPhone 12 – (IP68 แต่ทนความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
- iPhone 12 mini – (IP68 แต่ทนความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
- iPhone 12 Pro – (IP68 แต่ทนความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
- iPhone 12 Pro Max – (IP68 แต่ทนความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
- iPhone 13 – (IP68 แต่ทนความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
- iPhone 13 mini – (IP68 แต่ทนความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
- iPhone 13 Pro – (IP68 แต่ทนความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
- iPhone 13 Pro Max – (IP68 แต่ทนความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
Apple ได้บอกว่า ความสามารถในการทนน้ำ การทนน้ำที่กระเด็นใส่ และการทนฝุ่น จะไม่คงอยู่ถาวร ซึ่งความทนดังกล่าวอาจลดลงจากการใช้งานตามปกติ หรือค่อย ๆ ลดลงจากอายุการใช้งานและพฤติกรรมการใช้งานนั่นเอง ทางที่ดีหลีกเลี่ยงน้ำไว้จะดีที่สุด
ตั้งแต่ iPhone XR จนถึง iPhone รุ่นปัจจุบันสามารถทนของเหลวทั่วไปที่หกใส่โดยไม่ได้ตั้งใจได้ เช่น โซดา เบียร์ กาแฟ ชา และน้ำผลไม้ หากเราทำหกใส่ ให้ล้างด้วยน้ำสะอาด แล้วเช็ดให้แห้งสนิท
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกัน iPhone เสียหาย
- การใช้งาน iPhone ขณะว่ายน้ำหรืออาบน้ำ
- การทำให้ iPhone สัมผัสถูกน้ำที่มีแรงดันหรือความเร็วสูง เช่น ในระหว่างที่อาบน้ำฝักบัว เล่นสกีน้ำ เล่นเวคบอร์ด เล่นกระดานโต้คลื่น ขี่เจ็ทสกี เป็นต้น
- การใช้ iPhone ในห้องซาวน่าหรือห้องอบไอน้ำ
- การจุ่ม iPhone ลงไปในน้ำโดยเจตนา
- การใช้ iPhone ในที่ที่มีอุณหภูมินอกเหนือจากช่วงอุณหภูมิที่แนะนำหรือในสภาวะที่มีความชื้นสูง
- การทำ iPhone ตกหล่นหรือกระแทกกับสิ่งอื่น
- การถอดชิ้นส่วน iPhone รวมถึงการถอดสกรูออก
พยายามอย่าให้ iPhone สัมผัสกับสบู่ สารซักฟอก กรดหรืออาหารที่เป็นกรด และของเหลวอื่น ๆ เช่น น้ำหอม ยากำจัดแมลง โลชั่น ครีมกันแดด น้ำมัน ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบกาว น้ำยาย้อมผม และสารตัวทำละลาย หาก iPhone สัมผัสกับสารเหล่านี้ ให้ทำตามคำแนะนำเพื่อทำความสะอาด iPhone ที่นี่
สรุป
แม้ว่า iPhone จะถูกแบบมาให้ทนน้ำ หรือมีคุณสมบัติการทนน้ำตามที่ Apple ได้บอกไว้ แต่เราก็ไม่ควรที่จะนำ iPhone ไปจุ่มน้ำ แช่น้ำ หรือไปสัมผัสกับน้ำเป็นเวลานานโดยไม่จำเป็น
หากอยู่ในสถานการณ์ที่ iPhone มีโอกาสจะโดนน้ำก็ควรจะหาเคสกันน้ำหรือซองกันน้ำสวมใส่ให้เรียบร้อย เพื่อความปลอดภัยของตัวเครื่อง เนื่องจากเวลาที่เครื่องเสียหายจากสาเหตุการโดนน้ำ Apple มักจะไม่เคลมให้ เพราะ Apple ได้บอกชัดเจนว่าการประกันไม่ครอบคลุมถึงปัญหาที่เกิดจากน้ำเข้าเครื่องค่ะ
ที่มา – Apple