ก่อนที่ Apple จะจัดงานเปิดตัวสินค้าใหม่ประจำปี 2017 ในวันที่ 12 ก.ย. 2017 นี้ มาชม สรุปทุกสิ่งเกี่ยวกับ iPhone X (Edition) ทั้งสเปค ราคา และวันจำหน่ายกันก่อนว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
ภาพรวม iPhone X หรือ iPhone Edition (จากข่าวลือ)
บอกก่อนเลยว่าข่าวลือ iPhone รุ่นฉลองครบรอบ 10 ปี iPhone นี้มีมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว (2016) ที่สื่อต่างประเทศคาดการณ์กันว่า Apple จะเปิดตัว iPhone รุ่นพิเศษอีกหนึ่งรุ่นเพื่อฉลองครบรอบ 10 ปี iPhone โดยเป็นรุ่นที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งงานออกแบบ ปรับปรุงสเปค และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ
สื่อต่างประเทศและหลายฝ่ายคาดหวังว่า iPhone X (iPhone รุ่นฉลองครบรอบ 10 ปี iPhone) จะจัดเต็มคุณสมบัติใหม่ๆ โดยมีไฮไลท์น่าสนใจดังนี้
สิ่งที่คาดว่าจะเจอใน iPhone X หรือ iPhone Edition
ทีมงานขอสรุปสิ่งที่คาดว่าจะเจอใน iPhone X หรือ iPhone Edition ซึ่งอ้างอิงข้อมูลข่าวลือต่างๆ โดยหยิบจุดที่น่าสนใจมาให้ชมกันดังนี้
ใช้ชื่อ iPhone X (ครบรอบปีที่ 10 ของ iPhone)
ทราบกันดีว่า Apple ได้เปิดตัวและวางขาย iPhone รุ่นแรกเมื่อปี 2007 และตอนนี้ปี 2017 ผ่านมา 10 ปีแล้ว โดยก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า Apple จะใช้ชื่อ iPhone รุ่นพิเศษนี้ว่า iPhone 8, iPhone 10, iPhone Edition, iPhone Pro และ iPhone X
แต่ด้วยความที่เป็นปีที่ 10 ของ iPhone สื่อต่างประเทศส่วนใหญ่ให้ข้อมูลและความเห็นว่าชื่อ iPhone รุ่นฉลองครบรอบ 10 ปี iPhone นี้จะใช้ชื่อว่า “iPhone X” ที่เป็นตัวแทนของเลข 10 มากกว่า iPhone Edition เนื่องจาก Edition จะหมายความถึงรุ่นพิเศษหรือ Premium กว่ารุ่นทั่วไป เหมือนที่ใช้ใน Apple Watch Edition
ตัวเครื่องพื้นผิววัสดุกระจก
Apple ใช้ตัวเครื่องพื้นผิววัสดุกระจกทั้งหน้าและหลังใน iPhone 4, iPhone 4s แล้วเปลี่ยนเป็นอะลูมิเนียมตั้งแต่ iPhone 5 จนถึง iPhone 7 รุ่นล่าสุดตอนนี้ โดยข่าวลือส่วนใหญ่มองว่า iPhone X จะใช้ตัวเครื่องพื้นผิววัสดุกระจก ด้วยเช่นกัน
การใช้ตัวเครื่องพื้นผิววัสดุกระจกนั้นจะช่วยให้อุปกรณ์ รองรับการชาร์จไร้สาย (Wireless Charging) ผ่านแท่นชาร์จเหมือนที่เราเห็นใน Apple Watch และการออกแบบตัวเครื่องของ iPhone X นั้นจะใช้เป็นวัสดุกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยมีกรอบสแตนเลสครอบตัวเครื่องโดยรอบอยู่ เราเรียกการออกแบบแนวนี้ว่า Sandwich Design
จอ OLED ครั้งแรกใน iPhone
เทคโนโลยีจอ OLED ใน Smartphone นั้นมีมานานแล้วที่เราเห็นได้ชัดคือของ Samsung โดย Apple นั้นใช้จอ OLED กับสินค้าตัวเองอย่าง Apple Watch และใน iPhone X รุ่นพิเศษนี้ก็จะใช้จอ OLED เช่นกัน
ข้อดีหลักๆ ของจอ OLED นั้นจะช่วยให้ iPhone สามารถแสดงหน้าจอที่สดใสขึ้น รวมไปถึงตัวจอ OLED มีความยืดหยุ่นสามารถยืดหรือตรึงให้เต็มพื้นที่หน้าจอตัวเครื่องได้ และที่สำคัญเทคโนโลยีจอ OLED ก็จะช่วยให้ประหยัดพลังงานในการแสดงผลได้อีกด้วย
ข่าวลือส่วนใหญ่ชี้ว่า iPhone X จะใช้จอ OLED แบบเต็มขอบ มีความกว้างแนวทแยง 5.8 นิ้ว และมีขอบตัวเครื่องเล็กน้อย ไม่มีการเว้นช่องสำหรับปุ่ม Home และด้านบนมีการเว้น “รอยบาก” สำหรับกล้องหน้า
TrueTone Display
เมื่อเปลี่ยนไปใช้จอ OLED ใน iPhone X ก็จะสามารถใส่เทคโนโลยีการแสดงผลใหม่ๆ ได้มากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ Apple เปิดตัวเทคโนโลยี TrueTone Display ใน iPad Pro ที่ช่วยให้การแสดงผลคมชัด สวยงามมากขึ้น แน่นอนว่า iPhone X ที่ใช้จอ OLED อาจใช้เทคโนโลยี TrueTone Display ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแสดงผลเช่นเดียวกัน
ชิพ A11 ทรงพลัง
หากใครได้สัมผัสและทดลองใช้ iPad Pro 10.5 นิ้ว คงได้ทราบถึง ประสิทธิภาพชิพ A10X ทรงพลัง เป็นหัวใจสำคัญให้ตัวอุปกรณ์ประมวลผลเร็วมีประสิทธิภาพสูง และ ชิพ A11 ของ iPhone X จะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า A10X มากขึ้นไปอีก
ข่าวลือส่วนใหญ่ชี้ว่าชิพ A11 จะเป็นชิพแบบ 10nm ที่ผลิตโดย TSMC เหมือน A10X ของ iPad Pro 10.5 นิ้ว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า A10 แบบ 16nm แน่นอนว่าต้องประมวลผลเร็วกว่าหลายเท่าตัว
RAM 3GB
หากใครใช้ iPhone และติตตามข้อมูลสเปค iPhone จะทราบดีว่า RAM ที่ Apple ให้มาไม่ได้มีตัวเลขที่สูงมากเลย โดยใน iPhone X นี้จะยังใช้ RAM 3GB เหมือนกับ iPhone 7 Plus รุ่นเรือธงปีที่แล้วเช่นกัน ไม่ได้อัปเกรดเป็น 4GB 6GB เหมือนกับ Smartphone แบรนด์อื่น
ความจุ 64GB 256GB
ข้อมูลส่วนใหญ่บ่งชี้ว่า Apple จะยังใช้ความจุ 256GB เป็นความจุสูงสุดของ iPhone X เนื่องจากประเด็นเรื่องราคา โดยถ้าหากมี iPhone X รุ่น 512GB เปิดขายจะเป็นราคาขายที่สูงมากในตลาด Smartphone แบบ Premium
หาก Apple ยังคง iPhone X รุ่น 64GB ให้เป็นความจุเริ่มต้นก็จะเป็นกลยุทธ์ด้านราคาที่ให้ผู้ที่คิดจะซื้อ iPhone 8 Plus (หรือ iPhone 7s Plus) ความจุสูงสุดให้เพิ่มราคาอีกนิดเพื่อได้ iPhone X รุ่นพิเศษนั่นเอง
Apple เองก็พยายามออกระบบบริหารจัดการไฟล์ให้มีขนาดเล็กลงเหลือพื้นที่ใช้งานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนระบบไฟล์เป็น APFS, การเพิ่ม HEVC จัดการรูปให้มีขนาดเล็กลง เป็นต้น
ลาก่อนปุ่ม Home ลาก่อน Touch ID (สแกนนิ้ว)
จริงๆ แล้วช่วงต้นปี 2017 ถึงช่วงครึ่งปีมีข่าวลือว่า Apple พัฒนาและทดสอบเทคโนโลยีการสแกนนิ้ว (Touch ID) ที่หน้าจอมาแทนการสแกนนิ้วของปุ่ม Home ที่จะตัดออกไปใน iPhone X แต่ด้วยปัญหาด้านเทคนิคทำให้มีข่าวว่า Touch ID ก็จะถูกถอดออกไปพร้อมกับปุ่ม Home
Apple ใช้ปุ่ม Home ใน iPhone เป็นจุดเด่นด้านการใช้งานตั้งแต่ iPhone รุ่นแรก ด้วยเหตุผลที่ว่า iPhone ต้องไม่มีปุ่มเยอะ และการสแกนนิ้ว (Touch ID) นั้นถูกใช้มาตั้งแต่ iPhone 5s จนถึง iPhone 7
ใน iPhone 8 และ iPhone 8 Plus จะยังมีปุ่ม Home และ Touch ID เหมือนเดิม แต่ใน iPhone X นั้นจะเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีการยืนยันตัวบุคคลใหม่ คือ ระบบการสแกนใบหน้า (Face ID) นั่นเอง
หวัดดี Face ID
ระบบการสแกนใบหน้า (Face ID) ที่เป็นข่าวลือว่าจะมาแทน Touch ID นั้นมาจากการพบชุดคำสั่ง iPhone X ใน HomePod Firmware ที่ส่วนใหญ่แล้วเผยข้อมูลการระบุตัวบุคคลเป็นการสแกนใบหน้า (Facial Recognition) เป็นหลัก ไม่มีชุดคำสั่งเกี่ยวกับ Touch ID เลย
สื่อต่างประเทศให้ความเห็นว่าการสแกนใบหน้าของ iPhone X นั้นจะสามารถสแกนใบหน้าได้เร็วมาก และ Apple เองจะเน้นเทคโนโลยีจากเซ็นเซอร์หน้า 3 มิติเป็นพิเศษเพราะจะใช้ทั้งสำหรับการสแกนใบหน้าและเทคโนโลยี AR อีกด้วย
เซ็นเซอร์ 3 มิติ พระเอกของ iPhone X
ข่าวลือเรื่อง เซ็นเซอร์ 3 มิติ (3D Sensor) นวัตกรรมของ Apple เป็นที่พูดถึงกันมากว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญของคุณสมบัติการใช้งานของ iPhone X
เซ็นเซอร์ 3 มิติ (3D Sensor) นั้นจะถูกนำมาใส่ไว้ที่ด้านหน้าตัวเครื่อง (บางสื่อบอกมีด้านหลังด้วย) คุณสมบัติหลักจะเป็นเซ็นเซอร์ 3 มิติแบบพิเศษที่สามารถยิงอินฟาเรดได้หลายจุด สามารถจับภาพหรือวัตถุตรงหน้าได้ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในที่มืดก็ตาม โดยเซ็นเซอร์ 3 มิติ จะใช้เป็นหัวใจสำคัญของ Face ID, การถ่ายภาพให้มีมิติมากขึ้น และเพื่อรองรับ AR
Augmented Reality
Apple เปิดตัวเทคโนโลยี ARKit เมื่องาน WWDC 2017 ที่ผ่านมา โดยนักพัฒนาบางส่วนได้นำเทคโนโลยีตัวนี้ไปพัฒนาแอปฯแล้วเผย ตัวอย่าง ARKit ให้เราได้เห็นกันมากมายก่อนหน้านี้
ระบบความเป็นจริงเสมือนหรือ Augmented Reality จะช่วยเปลี่ยนรูปแบบการใช้งาน iPhone ไปอีกขั้นหนึ่ง แน่นอนว่า iPhone X จะรองรับเทคโนโลยีนี้อย่างแน่นอน และด้วยเซ็นเซอร์ 3 มิติที่มาพร้อมกับรุ่นนี้ อาจทำให้การใช้ AR ใน iPhone X มีความพิเศษกว่ารุ่นอื่นอีกด้วย
กล้องหลัง 2 ตัวแนวตั้ง
เมื่อข่าวลือและภาพแนวคิดเรื่องกล้องหลัง 2 ตัวแนวตั้งเผยออกมา ก็ได้รับความเห็นและเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับการออกแบบต่างๆนานา ว่า Apple ไม่น่าทำแบบนี้ (เหมือนกับตอนกล้องหลัง 2 ตัวของ iPhone 7 Plus)
หาก Apple ใช้กล้องหลัง 2 ตัวแนวตั้งจริง ข้อมูลส่วนใหญ่ที่พูดถึงเหตุผลที่เลือกใช้แนวตั้งก็เพราะว่าจะให้ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ 3 มิติด้านหลังได้ดีขึ้นนั่นเองเพื่อให้รองรับ AR, การถ่ายภาพ Portrait และการถ่ายภาพมุมกว้างได้ดีขึ้น และอาจ รองรับการอัดวิดีโอ 1080p 240fps, HDR ชัดขึ้น, หยุดการอัดวิดีโอ (Pause) ชั่วคราวและอัดต่อ (Resume) ได้
ชาร์จไร้สาย (Wireless Charging) ครั้งแรกใน iPhone
เทคโนโลยีการชาร์จไร้สายของ iPhone X นั้นลือกันว่าจะใช้รูปแบบการ ชาร์จผ่านแท่นชาร์จ (Wireless Charger) เหมือนของ Apple Watch โดยที่แท่นชาร์จไร้สายของ iPhone X นั้นต้องซื้อแยก ไม่ได้แถมมาด้วยในกล่อง
สำหรับแท่นชาร์จไร้สายของ iPhone X นั้นคาดว่าจะสามารถ จ่ายกำลังไฟอยู่ที่ 7.5W น้อยกว่ามาตรฐาน Qi ไปครึ่งหนึ่ง แต่ด้วยการชาร์จด้วยกำลังไฟ 7.5W นั้นก็อาจจะเร็วกว่าการชาร์จผ่าน USB Adapter ที่จ่ายไฟได้ 5W นั่นเอง
iOS 11
หลังจากที่ปล่อย iOS 11 ให้เหล่านักพัฒนา (Developer Beta) ได้ไปใช้ทดสอบพัฒนาแอปฯมากกว่า 10 เวอร์ชัน คาดว่า Apple จะปล่อยตัว iOS 11 เวอร์ชันทางการในเปิดตัว iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X เช่นกัน โดยมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้ใช้งานกันมากมาย
และใน iOS 11 นั้นอาจมี รูปแบบการใช้งานจำเพาะของ iPhone X ที่ตัดปุ่ม Home ออกไป ลักษณะการใช้งานอาจเหมือนกับ iPad Pro
สีทอง Blush Gold
สื่อต่างประเทศลือกันว่า iPhone รุ่นใหม่ปี 2017 นี้จะมีเพียง 3 สีเท่านั้น คือ สีดำ (Jet Black หรือ Black), สีเงิน (Silver) และสีทอง (Gold หรือ Blush Gold) โดยลือกันว่า สีทอง Blush Gold จะเป็นสีใหม่ มาแทนสี Gold และ Rose Gold
คาดการณ์สเปค
สเปค iPhone X
- ชื่อ : iPhone X, iPhone Edition
- ตัวเครื่อง : ตัวเครื่องสูง 143.59 มม. x กว้าง 70.94 มม. x หนา 7.57 มม.
- หน้าจอ : หน้าจอขนาด 5.8 นิ้ว (แนวทแยง), Super AMOLED ความละเอียด 2436x1125px ที่ 521ppi, TrueTone Display
- ชิปประมวลผล : A11 Fusion (64-bit), M11
- หน่วยความจำ :
- RAM 3GB
- ROM 64GB, 256GB
- ระบบปฏิบัติการ : iOS 11
- ซิมการ์ด : Nano-SIM (1 Slot)
- กล้อง :
- กล้องหลังคู่แนวตั้ง เลนส์ Wide ความละเอียด 12MP ƒ/1.8, เลนส์ Telephoto ความละเอียด 12MP ƒ/2.8, ซูมออปติคอล 2 เท่าและซูมดิจิตอลได้สูงสุด 10 เท่า, HDR ใหม่, Face Detection, บันทึกวิดีโอ 2160p@30fps, 1080p@30/60/120fps, 720p@240fps
- กล้องหน้า ความละเอียด 7MP ƒ/2.2, HDR ใหม่, Face Detection, บันทึกวิดีโอ 1080p@30fps, 720p@240fps
- เซ็นเซอร์ : 3D Sensors, Face ID, Gyro 3 แกน, อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว, บารอมิเตอร์, เซ็นเซอร์ตรวจจับระยะ, เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบ
- แบตเตอรี่ : ใช้ต่อเนื่องสูงสุด 13 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อ 4G LTE
- การเชื่อมต่อ : Lightning Port
- อุปกรณ์ภายในกล่อง :
- iPhone พร้อม iOS 11
- EarPods พร้อมหัวต่อ Lightning
- Lightning to 3.5 mm Headphone Jack Adapter
- Lightning to USB Cable
- USB Power Adapter
- เอกสารคู่มือ
- คุณสมบัติอื่นๆ : รองรับชาร์จไร้สายผ่านแท่นชาร์จ (Wireless Charger), กันน้ำ IP68, ถ่ายภาพ Portrait, Apple Pay, Face ID
- สี : Jet Black (หรือ Black), Silver, Gold (หรือ Blush Gold)
คาดการณ์ราคาและวันจำหน่าย
ราคา
- iPhone X 64GB — ประมาณ 999 ดอลลาร์
- iPhone X 256GB — ประมาณ 1099 ดอลลาร์
วันเปิดตัวและเปิดจำหน่าย
- วันเปิดตัว : 12 ก.ย. 2017 (ยืนยันแล้ว)
- วันเปิดจอง (Pre-Order) : 15 ก.ย. 2017
- วันเปิดขายวันแรก : 22 ก.ย. 2017
- วันเปิดขายในไทยวันแรก : 27 ต.ค. 2017