yugioh2500
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติ เริ่มเป็นที่คุ้นเคยของบ้านเรา เพราะมีจำหน่ายตั้งแต่หลักร้อยจากจีน จนไปถึงรุ่นหลักหมื่นบาทจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง iRobot ซึ่งรุ่น Roomba 890 ก็ถือว่าเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด โดยถูกวางตำแหน่งให้เป็นรองรุ่นพี่อย่างรุ่น Roomba 980 เพียงแต่ว่าราคามันถูกและน่าซื้อกว่ากันเยอะ เพราะฟังก์ชั่นที่น่าจะพอเหมาะกับบ้านทั่วไป ส่วนรุ่น Roomba 980 ก็จะตอบโจทย์บ้านใหญ่มากกว่า
รีวิว iRobot Roomba 890 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติ เพิ่มพลังดูดกรองไรฝุ่น 10 ไมครอนและสั่งงานผ่านแอพ
สำหรับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติรุ่น Roomba 890 ในรีวิวนี้มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 29,900 บาท แต่ตอนนี้ทาง Com7 นำเอามาจัดโปรโมชันอยู่ที่ 26,910 บาท ซึ่งยังไงก็แนะนำให้ไปเช็คหน้าร้านดูอีกครั้งหนึ่ง เพราะอาจมีโปรโมชันอื่นร่วมเพิ่มเติมด้วย อย่างพวกบัตรเครดิตอะไรพวกนี้
หลายคนอาจมองว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นนี่ทำไมมันแพงจัง ทำไมมันแพงกว่าชาวบ้านเขา ~*
ก่อนอื่นเลยขอทำความเข้าใจดังนี้ iRobot เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันแท้ๆ ที่ก่อตั้งมาเกือบสามสิบปี เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกลไกและหุ่นยนต์อย่างแท้จริง รวมถึงพวกหุ่นยนต์กู้ระเบิดที่ใช้ในกองทัพสหรัฐอเมริกา (ไม่ได้ขำอันนี้จริงจัง!) และบริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ เป็นที่เรียบร้อย
แตกต่างจากหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจากจีนที่ขายกันเต็มบ้านเต็มเมือง ซึ่งหลายยี่ห้อพึ่งเกิดเมื่อตอนยุคมะนาวแพงมาเร็วๆ นี้เอง พวกสิทธิบัตรและคุณภาพจึงไม่มีทางที่จะเทียบได้กับต้นตำรับที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องอย่างแท้จริง เหมือนเหตุผลที่ว่าทำไมคุณถึงเลือกซื้อ iPhone เครื่องละหลายหมื่นทั้งที่ของจีนเครื่องละไม่กี่พันก็มี
สรุปก็คือ iRobot เป็นผู้นำด้านหุ่นยนต์ดูดฝุ่นลำดับต้นๆ ของโลก (หากผมจำไม่ผิดน่าจะเป็นเบอร์หนึ่งเลยด้วยซ้ำ) จึงมั่นใจได้ว่าจะได้วัสดุที่แข็งแรงทนทาน กับแรงดูดมหาศาลที่ดูดได้ตั้งแต่ไรฝุ่น น๊อต ตะปู ไปจนถึงกระจก iRobot ไม่ใช่เครื่องปัดฝุ่นที่แค่ปัดฝุ่นทิ้งไปวันๆ
นอกจากนี้ยังวางใจได้เรื่องการดูแลหลังการขายพวกอะไหล่และอุปกรณ์เสริม ที่จะสามารถหาซื้อมาเปลี่ยนซ่อมได้ตลอด (แบตเตอรี่ก็มีขาย) ไม่ใช่ว่าแบตเสื่อมแล้วโยนทิ้งถังขยะ
ก่อนอื่นเราไปดูวิดีโอสาธิตการทำงานของ Series 800 กันก่อน ซึ่งอันที่จริงวิดีโออาจเก่าไปนิด เพราะรุ่นเดิมคือ Roomba 880 แต่รุ่นใหม่ Roomba 890 เป็นการพัฒนาต่อยอดขึ้นมาอีกขั้น แล้วก็ขายทดแทนรุ่นเดิมนั่นเองครับ
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Roomba 890
- แท่นชาร์จแบตเตอรี่
- แบตเตอรี่ Li-on ที่สามารถชาร์จใหม่ได้
- อุปกรณ์สร้างผนังจำลอง Virtual Wall (รวมถ่าน)
- ฟิลเตอร์กรองฝุ่นรวม 2 ชิ้น
- ใบรับประกันเครื่องและแบตเตอร์รี่ 1 ปี
จุดเด่นของรุ่นนี้คือมีแรงดูดมากกว่า Series 600 และ 700 ถึงห้าเท่า และเป็นรองเพียงแค่ Roomba 980 ที่เป็นตัว TOP สุดของทาง iRobot แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะแรงดูดเท่านี้ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นอยู่ตรงที่เทคโนโลยี AeroForce พร้อมระบบทำความสะอาด 3 ขั้นตอน ซึ่งได้รับการพิสูจน์ว่าสามารถกำจัดฝุ่น เส้นผม และสิ่งสกปรกจากพื้นทุกชนิดได้มากขึ้นถึง 50%
และถึงแม้ว่าจะมีแปรงปัดฝุ่นอยู่เพียงแค่ด้านเดียว แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อประสิทธิภาพแต่อย่างใดเพราะ iRobot เค้าคิดมาแล้วว่าแปรงด้านเดียวนั้น เอาไว้ใช้สำหรับปัดฝุ่นตามขอบเฟอร์นิเจอร์ ขอบกำแพง แต่หากมีอีกข้างจะทำให้ฝุ่นถูกปัดออกไปตรงกลางบ้านอีกรอบ และตรงกลางเครื่องเป็นแปรงที่ผลิตจากยางโพลีเมอร์ที่มีความทนทาน ซึ่งช่วยดูดเก็บฝุ่นและเศษสิ่งสกปรกได้ จากพื้นทุกประเภท รวมถึงช่วยลดการพันกันของเส้นผม ทำให้ทำความสะอาดแปรงได้ง่ายและยังช่วยเพิ่มแรงดูดอีกด้วย
แปรงตรงนี้สามารถแกะออกมาทำความสะอาดได้ครับ และทำความสะอาดได้ง่ายกว่าแปรงที่เป็นขน เนื่องจากมีการลดการพันกันของเส้นผมหรือขนสัตว์ จะได้ไม่ต้องมานั่งดึงเส้นผมออกบ่อยๆ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยสมกับที่ซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติมาใช้
ฟิลเตอร์กรองฝุ่น สามารถจัดการกับฝุ่นละอองและสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99% ด้วยไส้กรอง AeroForce High-Efficiency Filter ทำให้สามารถกรองสิ่งสกปรกขนาดเล็กได้ถึง 10 ไมครอน เช่น ไรฝุ่นซึ่งเป็นสารก่อภูมิแพ้ จึงมั่นใจได้เลยว่ามันจะสะอาดกว่าเครื่องดูดฝุ่นอย่างแน่นอน
ไม่พูดถึงคงไม่ได้กับอุปกรณ์สร้างผนังจำลอง Virtual Wall ตัวนี้เป็นความพิเศษเฉพาะ iRobot หลักการก็คือใช้เจ้าอุปกรณ์นี้ ในการยิงแสงเลเซอร์ที่มองไม่เห็น เพื่อสร้างแนวเขตป้องกันไม่ให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นของเราเข้าไป โดยอาจเป็นเส้นกั้นระหว่างห้อง หรือใช้ตีเป็นครึ่งวงกลมเพื่อป้องกันชนอาหารสัตว์เลี้ยงก็ได้
โยนรีโมททิ้งไปได้เลย เพราะการใช้งานที่ง่ายของ iRobot เพียงกดแค่ปุ่มเดียว หรือหากต้องการควบคุมและเชื่อมต่อ Wi-Fi ก็สามารถทำได้ผ่านแอพพลิเคชัน iRobot HOME App รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS สามารถใช้ดูประวัติการทำความสะอาด ย้อนหลังได้ 30 ครั้งล่าสุด, ตั้งเวลาให้หุ่นยนต์ตื่นขึ้นมาทำงานได้เอง 7 ครั้งต่อสัปดาห์, ปริมาณแบตเตอรี่, ตั้งค่าของเครื่องเช่นการเดินเลาะขอบกำแพงและเฟอร์นิเจอร์, แจ้งเตือนต่างๆ เช่น ถังขยะเต็มหรือถึงเวลาทำความสะอาดหุ่นยนต์แล้ว รวมถึงเมื่อหุ่นยนต์เกิดขอผิดพลาดพร้อมบอกวิธีช่วยเหลือหรือแก้ไขได้เอง, เชื่อมต่อกับ Google Home, Alexa, สั่งงานจากนอกบ้านได้, หรือประยุกต์กับ IFTTT
เมื่อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทำความสะอาดเสร็จทั่วพื้นที่ และเซ็นเซอร์ดูว่าไม่มีฝุ่นแล้ว หากแบตเตอรี่ใกล้หมด ตัวเครื่องจะทำการกลับไปยังแท่นชาร์จแบตเตอรี่โดยอัตโนมัติ (สะดวกดี) โดยที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย และจากการทดสอบแบตเตอรี่ใช้งานได้ราวหนึ่งชั่วโมงครับ (เขาบอกว่ารุ่นนี้ทำงาน 1 ชั่วโมงจะเหมาะกับพื้นที่ 80 ตารางเมตรกำลังดี)
ชุดเซ็นเซอร์อัจฉริยะมากกว่า 25 จุด ทำงานและตัดสินใจด้วยความละเอียด 60 ครั้ง/วินาที ในการเคลื่อนย้ายและตัดสินใจและหุ่นยนต์ยังเดินซ้ำจุดเดิม 3-5 ครั้ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าห้องจะสะอาดอย่างทั่วถึง ต่างจากหลายรุ่นในท้องตลาดที่ “วิ่งมั่ว”
บวกกับตัวเครื่องสูงเพียง 3.6″ จึงทำให้ซอกซอนใต้โต๊ะและเตียงได้ง่ายกว่า และด้วยเซ็นเซอร์พิเศษบริเวณกันชน ถึงแม้จะมีผ้าคลุมอยู่หุ่นยนต์ก็จะทราบว่าเป็นเพียงแค่ผ้าคลุมไม่ใช่กำแพง และมุดเข้าไปทำงานได้ทุกซอกทุกมุม และก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตกบันไดเพราะมีเซ็นเซอร์อีกตัวคอยจับอยู่
หลังจากทดสอบทำความสะอาดไปซักพักก็ได้ฝุ่นเป็นที่น่าพอใจ (ฮา) พร้อมกับมีระบบแจ้งเตือนถังขยะเต็ม ทำให้คุณทราบเมื่อถังเก็บฝุ่นเต็ม และจำเป็นต้องนำฝุ่นไปทิ้ง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะขนาดห้องที่เห็นอยู่ว่าสะอาด แท้จริงแล้วยังมีฝุ่นอยู่ตามพื้นมากมาย
สรุป
การใช้งานโดยรวมแล้วเป็นที่น่าประทับใจ สามารถใช้งานและดูแลรักษาโดยง่าย พลังดูดของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอยู่ในขั้นที่น่าพึ่งพอใจ หากคุณอาศัยอยู่ตามคอนโดหรือห้องบ้านที่ไม่ใหญ่มากนัก สามารถเอามาใช้งานได้จริงทุ่นแรงทำความสะอาดลงได้เยอะเลย
ส่วนหากใครสนใจหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติ iRobot Roomba 890 หรือรุ่นอื่น ๆ สามารถไปลอง ไปสัมผัสตัวจริงกันได้ที่ Studio7 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ
