iPhone X มาพร้อมตัวเครื่องที่เฟรมส่วนกลางผลิตจากสแตนเลสสตีลขัดมันเงาวับสวยงามและเพิ่มความหรูหราด้วยฝาหลังแบบกระจกที่ไม่เพียงให้แต่ความสวยงามแต่ยังทำให้ iPhone X นั้นรองรับระบบชาร์จไร้สายได้ ดังนั้นเครื่องสวยแบบนี้ใครๆ ก็อยากโชว์ ถ้าอยากโชว์ความงามก็ต้องคู่กับเคสใส แล้วเคสใสแบบไหนหละที่เหมาะ?
วันนี้มีอีกแบรนด์ในชื่อ JTLegend (เจ ที รีเจนต์) มาแนะนำให้ชมกันครับ
รีวิวเคสใสกันกระแทกและรอยขีดข่วนเพื่อ iPhone X จาก JTLegend
JTLegend เป็นแบรนด์จากประเทศใต้หวันที่ผลิตออกมาสู่ท้องตลาดตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา มีเอกลักษณ์เด่นเรื่องการออกแบบและการเลือกใช้วัสดุที่ดีในการผลิตเคส โดยเฉพาะเคสใสนั้นทาง JTLegend รับรองว่าใช้งานไปนานๆ เคสจะไม่เหลือง
รีวิวนี้จะได้นำเคสจาก JTLegend มาทดสอบใช้งานด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่นได้แก่
- Hybrid Cushion Basic
- Hybrid Cushion Elite
- Self-Healing
โดยทั้ง 3 รุ่นนั้นส่งที่เหมือนกันคือวัสดุที่นำมาใช้ผลิตและคุณสมบัติการป้องกันการกระแทกโดยจุดที่แตกต่างกันออกไปคือการออกแบบของแต่ละรุ่นที่จะมีจุดเด่นออกมาให้ได้เห็น ไม่รอช้าเราไปชมรายละเอียดของแต่ละรุ่นกันเลยครับ
1. Hybrid Cushion Basic
คุณสมบัติ
- วัสดุหลัก Polycarbonate/ Thermoplastic Polyurethane
- มุมเคสมีช่องว่างอากาศเพื่อรองรับการกันกระแทกที่ดี
- รองรับแรงกระแทกได้ดีด้วยการออกแบบรับแรงกระแทกแบบ 2 ชั้น
- ตัวเคสออกแบบได้เข้ารูปกับ iPhone X และรองรับการกันกระแทกได้ดี
- ขอบด้านข้างเป็น TPU ยืดหยุ่น
- เคสด้านหลังเป็น PC แบบใส
- ด้านหลังเคสจะมีส่วนที่ยื่นออกมาทำให้เคสหลังไม่ติดกับพื้นจึงไม่ทำให้ด้านหลังเคสเป็นรอย
ตัวอย่างเคสพร้อมการติดตั้งและความเห็นหลังการใช้งาน
รุ่นนี้ติดตั้งง่าย ถอดง่ายสุดในบรรดาเคสที่รีวิวในรอบนี้ จับกระชับมือเมื่อแห้ง หากมีเหงื่อออกมากก็อาจจะทำให้ลื่นได้ และติดตั้งเข้ารูปกับ iPhone X ได้ดี ด้านหลังของเคสใสและมี dot ทำให้เคสไม่เกิดรอยคราบน้ำเมื่อติดตั้งกับ iPhone ขอบเคสเป็น TPU มีความยืดหยุ่นและมุมของเคสมีช่องอากาศเพื่อรองรับแรงกระแทกเมื่อเครื่องตกทำให้ลดความเสียหายให้กับตัวเครื่องได้
- ติดตั้งแล้วด้านหลังเคสไม่เป็นฟองอากาศทำให้ iPhone X ดูเด่นสวยสดใส
- ปุ่มกดใช้งานได้ดีกดง่าย
- เว้นช่องว่างสำหรับพอร์ตทำให้ใช้งานได้ง่ายเช่นการเสียบสายชาร์จได้อย่างสะดวก
- ตัวเคสไม่เหลืองเมื่อใช้งานไปนานๆ
- ใช้งานกับกระจกกันรอยแบบเต็มจอแบบ 3D ได้ เคสไม่ดันฟิล์ม
- ใช้งานร่วมกับฟิล์มกันรอยเต็มจอแบบไม่ 3D ก็ได้ไม่ดันฟิล์ม
- ระดับขอบของเคสสูงกว่าหน้าจอและหากติดกระจกกันรอยเข้าไปที่ความหนา 0.33 มม. จะทำให้อยู่ในระนาบเดียวกับกระจก
- ทดสอบการขีดข่วนพบว่าเหรียญทำให้เป็นรอยได้แต่ไม่ชัด, กุญแจทำให้เป็นรอยที่ชัดขึ้นส่วนคัดเตอร์เป็นรอยชัดเจน ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้งานร่วมกับของมีคม
ราคา
- iPhone 8, X – 890 บาท
- iPhone 8 Plus – 950 บาท
2. Hybrid Cushion Elite
คุณสมบัติ
- วัสดุหลัก Polycarbonate/ Thermoplastic Polyurethane
- มุมเคสมีช่องว่างอากาศเพื่อรองรับการกันกระแทกได้ดี
- รองรับแรงกระแทกด้วยการออกแบบรับแรงกระแทกแบบ 2 ชั้น
- ตัวเคสออกแบบได้เข้ารูปกับ iPhone X
- ขอบด้านข้างเป็น TPU ที่แข็งกว่ารุ่น Hybrid Cushion Basic
- เคสด้านหลังเป็น PC แบบใสทนทานต่อรอยขีดข่วนและเคลือบป้องกันแสงยูวี จึงไม่ทำให้ตัวเคสเหลือง
- ด้านหลังเคสจะมีส่วนที่ยื่นออกมาทำให้เคสหลังไม่ติดกับพื้นจึงไม่ทำให้ด้านหลังเคสเป็นรอย
- ผ่านมาตรฐานการทดสอบทางด้านการทหาร MIL STD 810G516.6 การันตรีเรื่องความแข็งแรงทนทานมาก
- น้ำหนัก 22 กรัม
ตัวอย่างเคสพร้อมการติดตั้งและความเห็นหลังการใช้งาน
รุ่นนี้ติดตั้งง่ายถอดง่ายแต่จะยากกว่ารุ่น Hybrid Cushion Basic จับกระชับมือและติดตั้งเข้ารูปกับ iPhone X ได้ดี ด้านหลังของเคสใสล้วนและสามารถกันรอยขีดข่วนความแข็งระดับ 2H (ด้วยเครื่องมือ Mohs Hardness Pick สำหรับการวัดความแข็งของวัตถุ) ขอบเคสเป็น TPU มีความยืดหยุ่นและมุมของเคสมีช่องอากาศเพื่อรองรับการกันกระแทกเมื่อเครื่องตกทำให้ลดความเสียหายให้กับตัวเครื่องได้
- ติดตั้งแล้วไม่ด้านหลังเคสไม่เป็นฟองอากาศทำให้ iPhone X ดูเด่นสวยสดใส
- ปุ่มกดใช้งานได้ดีแต่จะต้องกดแรงกว่ารุ่น Hybrid Cushion Basic
- เคสหนา แข็งแรงทนทานกว่า Hybrid Cushion Basic แล้วรายละเอียดการเก็บงานนั้นทำได้อย่างละเอียด
- ขอบจะมีความหนามากกว่า Hybrid Cushion Basic ทำให้รองรับการกระแทกได้ดีกว่า
- เว้นช่องว่างสำหรับพอร์ตทำให้งานได้ง่าย เช่น การเสียบสายชาร์จ
- ใช้งานกับกระจกกันรอยแบบเต็มจอแบบ 3D ได้ เคสไม่ดันฟิล์ม
- ทดสอบการขีดข่วนพบว่าเหรียญทำให้เป็นรอยได้แต่ไม่ชัด, กุญแจทำให้เป็นรอยมากขึ้นส่วนคัดเตอร์เป็นรอยชัดเจน ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้งานร่วมกับของมีคม
ราคา
- iPhone X – 890 บาท
3. Self-Healing
คุณสมบัติ
- วัสดุ Polycarbonate
- เป็นเคสใสแข็งแต่มีความยืดหยุ่น
- เคสใสผลิตจากวัสดุนำเข้าจากประเทศเยอรมันพร้อมเทคโนโลยีที่ป้องกันไม่ให้เคสเหลือง (PU)
- ออกแบบได้เข้ารูปกับ iPhone X และเคสมีความบางเพียง 1.2 มม.
- ขอบเคสยกสูงกว่าหน้าจอ 1 มม. ทำให้หน้าจอเวลาคว่ำหน้าจอ iPhone X จะไม่ติดกับพื้น
- มาพร้อมเทคโนโลยีลบรอยข่วนได้ด้วตัวเอง Self-Healing
ตัวอย่างเคสพร้อมการติดตั้งและความเห็นหลังการใช้งาน
เคสใสกันกระแทกที่มาพร้อมเทคโนโลยีการลบรอยขีดข่วนให้กับตัวมันเองได้ ระดับความแข็งแรงอยู่ที่ 2H (ด้วยเครื่องมือ Mohs Hardness Pick สำหรับการวัดความแข็งของวัตถุ) ทดสอบทำให้เคสเป็นรอยโดยการขูดด้วยเครื่องมือวัดและทิ้งไว้นาน 1 ชม. พบว่ารอยที่ขูดนั้นจางลงแม้จะลบไม่หมดก็แต่ก็น้อยลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความลึกของรอยที่เกิดขึ้น ถ้าว่าเป็นลอยถลอก แต่ที่ประทับใจคือการใช้ผ้า(เสื้อยืด) ถูค่อนข้างที่จะแรง ก็ไม่ทำให้เคสเกิดรอยขนแมว(เคสบางยี่ห้อที่เป็น Self-healing ผมเคยทำสอบเพียงแค่เช็ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ก็เป็นรอยขนแมวแล้ว) ถือว่ารุ่นนี้กันรอยได้ระดับดีสำหรับเคสใส
- ติดตั้งแล้วไม่ด้านหลังเคสไม่เป็นฟองอากาศทำให้ iPhone X ดูเด่นสวยสดใสและเข้ารูปกับ iPhone ดีมาก
- เคสใส่แล้วไม่หลวม ไม่ขยับ เข้าตรงตำแหน่งดีและบางดี ดูสวยงาม
- รุ่นนี้มีมุมเว้าด้านล่าง เพราะต้องการให้ถอดและใส่ได้ง่าย คือถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ จะไม่มีเว้าด้านล่างเลย ปัญหาคือเวลาจะถอดจะถอดค่อนข้างยาก
- เว้นช่องว่างสำหรับพอร์ตทำให้งานได้ง่าย เช่น การเสียบสายชาร์จ
- ใช้งานกับกระจกกันรอยแบบเต็มจอแบบ 3D ได้ เคสไม่ดันฟิล์ม
- ตัวเคสมีความบางเพียง 1.2 มม. และใสมาก ทำให้มองผ่านๆ เหมือนไม่ได้ใส่เคส
- ใช้งานไปเมื่อมือมีเหงื่อจะทำให้เคสลื่นได้ดังนั้นควรระวังเรื่องนี้ด้วย
ราคา
- iPhone 8, X – 890 บาท
- iPhone 8 Plus – 950 บาท
หากท่านใดสนใจเคส JTLegend ทุกรุ่นที่รีวิวมา สามารถเลือกซื้อได้ที่ Studio7 ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไปลองดูของจริงเพิ่มเติมกันได้นอกจากเคสใสแล้วก็ยังมีลายอื่นๆ ให้เลือกเช่นกัน
ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ