CTO ของ LINE MAN Wongnai กางแผนดึง Tech Talent ลุยสร้างบริการ Made in Thailand ย้ำภาพบริษัทเทคโนโลยี
LINE MAN Wongnai กางแผนดึง Tech Talent ลุยสร้างบริการ Made in Thailand
LINE MAN Wongnai เดินหน้าขยายทีมเทคโนโลยีเต็มขั้นหลังประกาศระดมทุนซีรี่ส์บี ดันมูลค่าบริษัททะลุ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เล็งเพิ่มจำนวนทีมงานเทคโนโลยีเป็น 450 คนภายในครึ่งปีแรกปี 66 เพื่อสร้างบริการ Made in Thailand ที่ส่งผลกระทบเชิงบวกในระดับประเทศ
คุณภัทราวุธ ซื่อสัตยาศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี LINE MAN Wongnai และหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Wongnai ซึ่งเป็นกำลังสำคัญที่ผลักดันบริษัทกลายเป็นยูนิคอร์นได้สำเร็จ ได้เล่าแผนการลงทุนด้านเทคโนโลยีขั้นถัดไป ดังนี้
เบื้องหลังแพลตฟอร์มระดับชาติ คือทีมงานเทคโนโลยีระดับหัวกะทิกว่า 350 คน
LINE MAN Wongnai คือแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานคนไทย 10 ล้านคนใช้งานทุกวัน และมีความถี่ในการใช้งานวันละหลายครั้ง ภายในอีโคซิสเต็มของ LINE MAN Wongnai ประกอบไปด้วย 3 ส่วน ได้แก่ ผู้ใช้งาน, ร้านค้า และไรเดอร์ จำเป็นต้องใช้ทีมเทคโนโลยีมากกว่า 350 คน พัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ที่แต่ละส่วนมีรูปแบบการใช้งานแตกต่างกันมาก แต่มีเป้าหมายเดียวกันคือต้องให้คนไทยทุกคนใช้งานได้ง่าย
โครงสร้างทีมเทคโนโลยีแบ่งเป็น 3 ทีมใหญ่ ๆ ได้แก่ ทีม Engineering, ทีม Product และทีม Data ทำงานสอดประสานกันเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ง่ายและทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้นทั้ง
- ผู้ใช้มีชีวิตที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นผ่านบริการออนดีมานด์
- ร้านค้าพันธมิตรสามารถสร้างยอดขายออนไลน์และสร้างความเติบโตให้ธุรกิจได้ดี และ
- ไรเดอร์สามารถสร้างอาชีพและรายได้บนแพลตฟอร์มอย่างยั่งยืน
เข้าถึง-เข้าใจ-รวดเร็ว จุดแข็งของบริษัทเทคโนโลยีที่มี HQ และทีมงานในไทย
“ทีมงานเทคโนโลยีที่ LINE MAN Wongnai กว่า 90% เป็นคนไทย การมีทีมวิศวกรไทยที่นั่งทำงานอยู่ที่สำนักงานใหญ่ (Headquarter) ในประเทศไทย ทำให้ปรับตัวกับทุกสถานการณ์ได้รวดเร็ว รู้ลึกรู้จริงในความต้องการของคนไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการพัฒนาเทคโนโลยีสู่ผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์คนไทยได้อย่างแท้จริง ทุกคนทำงานโดยยึดหลัก Core Values ขององค์กร คือ Innovate Faster สร้างนวัตกรรมและทำให้เร็ว Go Deeper ทำงานลงลึกใกล้ชิดผู้ใช้งาน Respect Everyone ทำงานโดยเคารพทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน”
หนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจของการทำงานของทีมเทคโนโลยีที่สะท้อน Core Values ได้อย่างครบถ้วน คือ การเชื่อมระบบโครงการ ‘คนละครึ่ง’ เข้ากับบริการส่งอาหารของ LINE MAN ที่สามารถพัฒนาให้สำเร็จอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียง 6 สัปดาห์ และได้เสียงตอบรับจากร้านอาหารว่าใช้งานง่าย ส่งผลให้มีจำนวนร้านอาหารเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งในเฟส 3 กับ LINE MAN มากถึง 75% จากร้านคนละครึ่งที่ลงทะเบียนขายเดลิเวอรีทั้งหมด
นอกจากนี้ LINE MAN Wongnai เริ่มเปิดออฟฟิศสำหรับทีมเทคโนโลยีที่จังหวัดเชียงใหม่ ตอนนี้มีพนักงานราว 20 คนที่ทำงานร่วมกับทีมงานที่กรุงเทพฯ และสร้างบริการที่มีคนใช้ทั้งประเทศ โดยพนักงานทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่จังหวัดใดก็ได้รับผลตอบแทนและสวัสดิการเท่าเทียมกัน
“แม้ว่าเราเป็นแพลตฟอร์มระดับประเทศ แต่เป้าหมายของเราคือการสร้างเทคโนโลยีที่มีมาตรฐานระดับโลก ดังนั้นเราจึงเริ่มดึงชาวต่างชาติมีประสบการณ์การทำงานกับแพลตฟอร์มระดับโลกมาร่วมทีม ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ จีน หรืออินเดีย เพื่อนำ Know-how มาปรับใช้และพร้อมสำหรับสเกลอัพในอนาคต โดยทีมงานชาวต่างชาติสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ มีทั้งเลือกอยู่ที่ประเทศเดิมและย้ายมาทำงานในไทย” คุณภัทราวุธ กล่าวเสริม
ปี 66 ขยายทีมเทคเพิ่มขึ้นเป็น 450 คน ด้วยงานที่ท้าทายเทียบชั้นแพลตฟอร์มระดับโลก
คุณภัทราวุธยังเล่าว่า หลังการระดมทุนซีรี่ส์บีในปี 65 ตั้งเป้าขยายทีมงานเทคโนโลยีเป็น 450 คนภายในครึ่งปีแรกของปี 66 และเพิ่มสัดส่วนพนักงานระดับอาวุโส (Senior) อีกจำนวนมากทั้งคนไทยและต่างชาติ เพื่อรองรับการเติบโตของแพลตฟอร์มที่จะขยายพื้นที่บริการฟู้ดเดลิเวอรีให้ลึกยิ่งขึ้น
รวมถึงพัฒนาบริการใหม่ ๆ อีกมากมายในรูปแบบ E-commerce Platform for Services โดยมีกลยุทธ์ดึงดูด-รักษา-พัฒนาทีมงานเทค ตั้งแต่กระบวนการค้นหาคนที่ใช่อย่างเข้มข้น เปิดพื้นที่แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ระหว่างทีมงาน สร้างบรรยากาศการทำงานที่ท้าทาย ให้ผลตอบแทนที่สมเหตุสมผล
มีสวัสดิการที่สนับสนุนการใช้ชีวิตหลากหลาย และเข้าไปมีส่วนร่วมผลักดัน Developer Community ในประเทศไทย ด้วยการสนับสนุนทั้งองค์ความรู้และประสบการณ์เพื่อพัฒนาชุมชนนักพัฒนาในไทยให้เติบโตไปพร้อมกัน
“ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา เรามุ่งมั่นสร้างบริษัทเทคโนโลยีที่เป็นแรงบันดาลใจให้คนไทย เพื่อดึงดูดบุคลากรด้านเทคโนโลยีชาวไทยที่ทำงานอยู่ทั่วโลก ให้สามารถกลับมาพัฒนาแพลตฟอร์มไทยที่มีเพื่อน ครอบครัว และคนรอบตัวใช้งานจริงๆ ในทุกวัน รับรองว่าบรรยากาศการทำงานที่ LINE MAN Wongnai เต็มไปด้วยงานที่ท้าทาย และสามารถสร้างประสบการณ์การทำงานในระดับเดียวกับแพลตฟอร์มระดับโลก” คุณภัทราวุธ ปิดท้าย