หลังจากประมูลคลื่นความถี่เพื่อนำไปพัฒนา 4G แล้วสิ่งที่ต่อไปที่เราจะได้ยินกันก็คือ LTE Advanced ที่มีถึงการพัฒนา LTE ในขั้นสูงและ Carrier Aggregation (CA) ที่หมายถึงการนำความถี่หลายย่านมารวมกัน ขออธิบายให้เข้าใจกันง่ายๆ ดังนี้ครับ
LTE Advanced คือ การทำ LTE ขั้นสูงให้ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทั้งเรื่องระยะการรับส่งข้อมูลที่ไกลมากขึ้นแถมได้ความเร็วที่มากกว่าเดิม
Carrier Aggregation หรือ CA คือการนำความถี่หลายย่านมารวมกัน
อ่านแล้วอาจจะงงๆ ลองดูตัวอย่างด้านล่างเทียบความแตกต่างระหว่าง LTE vs. LTE Advanced จะเห็นว่า
- ความเร็ว LTE-A มากกว่า 2 เท่า
- ความสามารถในการขนข้อมูลมากกว่า 2 เท่าคือท่อใหญ่ขึ้น (จากรูปล่างเห็นส่วนที่นำเอาสีส้ม สีฟ้า รวมแล้วส่งไปพร้อมกันไหมนั่นแหละครับ)
LTE vs. LTE-A
LTE-A นั้นมันสามารถทำได้มากกว่านั้นอีกแทนที่จะส่งความถี่เดียวแต่มันยังสามารถรวมหลายความถี่ไปด้วยกันได้ เขาเรียกว่าการทำ Carrier Aggregration หรือ CA นั่นเอง
CA สามารถนำคลื่นความถี่มารวมกันตั้งแต่ 2 ความถี่ขึ้นไป ปัจจุบัน TrueMove H, AIS และ Dtac ทำอยู่
- ถ้านำ 2 ความถี่มารวมกันจะเรียกว่า 2CA
- ถ้านำ 3 ความถี่มารวมกันเรียกกว่า 3CA
ในไทยเจ้าไหนทำ LTE-A บ้าง?
- TrueMove H ทำ LTE-A แบบ 3CA โดยเอา 10MHz ของคลื่น 900MHz + 10Mhz ของคลื่น 1800MHz + 10MHz ของคลื่น 2100MHz มารวมกัน ทำให้อัตราความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดถึง 225Mbps
- AIS ทำ 2CA โดยเอา 15MHz ของคลื่น 1800MHz + 10MHz ของคลื่น 2100MHz ทำให้อัตราความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดที่ 150Mbps
- dtac ทำ 2CA โดยเอา คลื่น 1800MHz + คลื่น 2100MHz ) ทำให้อัตราความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดที่ 150Mbps
แน่นอนเลยว่าปีหน้าเราจะได้ยินผู้ให้บริการรายต่างๆ ประกาศเรื่อง LTE Advanced มากขึ้นและเราอาจจะได้ใช้ LTE-A ความเร็วมากกว่า 100Mbps อย่างชัวร์
เรียบเรียงโดยทีมงาน iPhonemod อ้างอิง Wikipedia, Radio-Electronic, Olleh, THDEV, PCworld