Zakura Kim
Apple ได้เปิดตัว Mac mini รุ่นชิป M2 และ M2 Pro เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เราอาจจะเห็นได้ว่า Mac mini นั้นเป็น Mac ที่มีราคาไม่สูงมากนักหากเทียบกับ Mac รุ่นอื่น ๆ แต่เราอย่าลืมว่าการใช้งาน Mac mini นั้น ต้องใช้คู่กับอุปกรณ์เสริมมากมาย ทีมงานเลยมีคำแนะนำเรื่องอุปกรณ์เสริมที่ต้องซื้อเพิ่มและงบประมาณคร่าว ๆ มาแนะนำให้ชมกัน
ซื้อ Mac mini ชิป M2 เริ่มต้น 20,900 บาท ต้องมีอุปกรณ์เสริมอะไรบ้าง เพิ่มงบอีกเท่าไหร่
สิ่งที่ให้มากล่องพร้อมกับ Mac mini นั้นมีเพียงตัวเครื่องและสายไฟ ดังนั้นเราจึงต้องหาอุปกรณ์เสริมที่พร้อมใช้งานคู่กับ Mac mini ขอแนะนำดังนี้
1. หน้าจอ Monitor
สิ่งที่ต้องมีและใช้งานคู่กับ Mac mini อย่างแรกก็คือ จอภาพ หรือจอ Monitor ซึ่ง Mac mini รุ่นชิป M2 นั้นรองรับจอภาพความละเอียดสูงสุด 6K ที่ 60Hz และรุ่นชิป M2 Pro รองรับจอภาพ 8K ที่ 60Hz สำหรับใครที่ไม่จำเป็นต้องใช้จอภาพความละเอียดสูง ๆ ก็อาจจะลดสเปกจอลงมาเป็นจอภาพความละเอียด 4K, 5K หรือ 6K แทนก็ได้
โดยจอภาพของ Apple นั้นมี 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Studio Display จอภาพ Retina 5K ขนาด 27 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 54,900 บาท และ Pro Display XDR จอภาพขนาด 6K ขนาด 32 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 154,900 บาท (อย่าลืมบวก Pro Stand ด้วย) ซึ่งใครที่ชอบประสบการณ์สีสันคมคมชัดสมจริง และอยากใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Apple แบบ Ecosystem ก็อาจจะเลือกพิจารณาจอภาพของ Apple ดู
แต่สำหรับใครที่มีงบจำกัด ก็อาจจะลองมองหาจอภาพแบรนด์อื่น ๆ เช่น LG, Samsung, DELL, BENQ เป็นต้น ซึ่งการเลือกซื้อนั้น ก็อาจจะดูเรื่องของความละเอียด จำนวนเม็ดสี ค่ารีเฟรชเรท (FPS) ที่เหมาะกับการใช้งานของเรา รวมถึงการรับประกันสินค้าด้วย ราคาจอภาพ 4K ที่มีสีสันครบ ก็จะเริ่มต้นที่ประมาณ 20,000 บาทเป็นต้นไป
สำหรับใครที่ต้องการจอภาพที่มีค่ารีเฟรชเรทสูง ใช้งานไหลลื่น ก็ต้องพิจารณาถึงข้อจำกัดด้วย ถึงแม้ว่า Mac mini จะรองรับ FPS สูงสุดที่ 240Hz แต่ก็รองรับเฉพาะการเชื่อมต่อกับจอภาพความละเอียด 4K ผ่าน HDMI เพียง 1 จอเท่านั้น และรองรับการต่อจอภาพ 2 จอ ความละเอียด 4K ที่ 144Hz ผ่าน HDMI ร่วมกับจอภาพความละเอียด 6K ที่ 60Hz ผ่าน Thunderbolt
2. สายสำหรับการเชื่อมต่อจอภาพ
เมื่อเรามีจอภาพแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ที่ต้องใช้คู่กันก็คือสายสำหรับเชื่อมต่อจอภาพกับ Mac mini บางครั้งจอภาพที่เราซื้อมานั้นไม่ได้มีสายเชื่อมต่อมาให้ในกล่องด้วย ดังนั้นเราอาจจะต้องซื้อสายเพิ่ม
โดยสายที่ใช้งานส่วนใหญ่ก็จะเป็น สาย HDMI, สาย Thunderbolt และสาย DisplayPort ซึ่งการเลือกใช้สายเชื่อมต่อจอภาพนั้นก็เช็คให้ดีก่อนว่าแต่ละสายรองรับการเชื่อมต่อกับจอภาพความละเอียดเท่าไหร่และรองรับค่าเฟรมเรทที่เท่าไหร่
ถ้าหากจะเลือกสาย HDMI เชื่อมต่อกับจอภาพ 4K, 5K, 6K และ 8K หรือจอภาพที่มีค่าเฟรมเรทสูง ก็ควรเลือกซื้อเป็น HDMI 2.1 ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1,500 – 2,000 บาท
ส่วนใครที่เชื่อมต่อ 2 หรือ 3 จอพร้อมกัน ก็อาจจะต้องมองหาสาย Thunderbolt ที่รองรับการส่งสัญญาณผ่าน DisplayPort ในตัวด้วย USB-C มาเชื่อมต่ออีก 1 จอที่ไม่ได้ใช้พอร์ต HDMI โดยจะเลือก Thunderbolt 3 สำหรับเชื่อมต่อจอภาพ 4K ที่ 60Hz ก็ได้ หรือจะเลือก Thunderbolt 4 เพื่อเชื่อมต่อกับจอความละเอียดสูงได้ ราคาก็จะสูงกว่าสาย HDMI อีกประมาณ 2 เท่า
การเลือกซื้อสายแบรนด์อื่น ๆ ก็ควรเลือกซื้อแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีการรับประกันสินค้า เช่น Belkin, Philips, Ugreen เป็นต้น
3. คีย์บอร์ด
คีย์บอร์ดก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่ขนาดไม่ได้เช่นกัน การเลือกซื้อคีย์บอร์ดสำหรับ Mac mini นั้น ขึ้นอยู่กับงบประมาณของผู้ใช้เลย สำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อ ก็อาจจะเลือกเป็นคีย์บอร์ดแบบไร้สาย ซึ่งของ Apple ก็จะเป็น Magic Keyboard ที่มีให้เลือกหลายรุ่น ราคาอยู่ที่ 3,190 – 6,590 บาท
ส่วนใครที่มีงบจำกัดก็อาจจะเลือกซื้อคีย์บอร์ดบลูทูธไร้สายจากแบรนด์อื่น ๆ ที่มีความน่าเชื่อถือ แต่ต้องดูเรื่องของรูปแบบปุ่มคีย์บอร์ดด้วยว่าใช้งานสำหรับ Mac ได้หรือไม่ จัดวางแบบ Mac หรือไม่ มีปุ่ม Command หรือไม่ เพื่อการพิมพ์ที่ถนัดมือ แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสก็สามารถเลือกซื้อคีย์บอร์ดแบบ Windows ก็ได้ ราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน
ส่วนใครที่เลือกอยากเลือกซื้อคีย์บอร์ดแบบมีสายก็สามารถเสียบใช้กับพอร์ต USB-A ด้านหลังเครื่องได้เลย
4. เมาส์หรือแทร็คแพ็ด
เมาส์หรือแทร็คแพ็ดอุปกรณ์เสริมจำเป็นที่ต้องใช้งานสำหรับควบคุมการทำงาน Mac มีทั้งเมาส์แบบมีสายและเมาส์แบบไร้สาย ราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ขึ้นอยู่กับการเลือกซื้อ
การเลือกซื้อเมาส์แบบไร้สายก็ช่วยให้โต๊ะทำงานเป็นระเบียบมากขึ้น และไม่จำเป็นต้องใช้พอร์ต USB-A ทำให้เราสามารถใช้พอร์ตเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นได้ Magic Mouse ของ Apple ก็ถือเป็นเมาส์ไร้สายที่ใช้งานสะดวก ชาร์จครั้งเดียวก็สามารถใช้งานได้ยาวนาน สีขาวราคาอยู่ที่ 2,490 ส่วนที่ดำราคาอยู่ที่ 3,190 บาท
แต่สำหรับใครที่ลองจับ Magic Mouse แล้วไม่ถนัดมือ ก็อาจจะเลือกซื้อเมาส์ Wirless หรือเมาส์บลูทูธแบรนด์อื่น ๆ ที่น่าเชื่อถือมาใช้งานก็ได้ โดยเลือกให้เหมาะสมกับการจับของเรา เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบาย
นอกจากนี้ สายงานกราฟิกหรือตัดต่อที่ชอบการควบคุมด้วยคำสั่งนิ้วที่แสนสะดวก ก็อาจจะต้องซื้อแทร็คแพ็ด (Trackpad) เพิ่ม ของ Apple สีขาวมีราคาอยู่ที่ 4,190 บาาท ส่วนสีดำมีราคาอยู่ที่ 4,890 บาท
5. อะแดปเตอร์แปลงหรือ Docking
สำหรับใครที่ต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เช่น SD Card, Micro Card หรือต้องเชื่อมต่อกับจอเสริม อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เป็นจำนวนมากที่ใช้ในเวลาเดียวกัน ก็อาจจะต้องหาอะแดปเตอร์เสริมหรือ Docking ที่รองรับกับการเชื่อมต่ออุปกรณ์มาใช้งาน ราคาก็จะอยู่ที่หลักพันถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับพอร์ตและแบรนด์
อะแดปเตอร์ของ Apple ก็มีให้เลือกค่อนข้างมาก แบ่งตามพอร์ตการใช้งาน แต่ก็มีหลายแบรนด์ที่รวมหลาย ๆ พอร์ตไว้ใน Docking เดียว เช่น Belkin, Satechi, Targus, UGreen, Phillips เป็นต้น ซึ่งซื้อครั้งเดียวก็ถือว่าคุ้มค่า
ทั้งหมดนี้ก็เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นจะต้องใช้งานร่วมกับ Mac mini การเลือกซื้อก็ขึ้นอยู่กับความจำเป็น ความสะดวกส่วนตัว และงบประมาณของแต่ละคนว่าหลังจากซื้อ Mac mini แล้ว ต้องเพิ่มงบซื้ออุปกรณ์เสริมอีกเท่าไหร่ แต่สำหรับใครที่มีเคยมีอุปกรณ์เสริมเดิมอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่ม ลองพิจารณากันดูนะคะ
ดูข้อมูลทางเทคนิคของ Mac mini เพิ่มเติม: https://www.apple.com/th/mac-mini/specs/
