Apple ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2018 โดยสินค้ากลุ่ม Mac มียอดขายลดลง 13% แบบปีต่อปี แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าไม่ส่งผลต่อ Apple มากนัก
ยอดขาย Mac ตก 13% แบบปีต่อปีในไตรมาส 3 ปี 2018 ไม่ส่งผลต่อ Apple มากนัก
สินค้ากลุ่ม Mac มียอดขายลดลง 13% แบบปีต่อปีในไตรมาส 3 ปี 2018 (ไตรมาส 2 ของบริษัททั่วไป) โดย Neil Cybart เผยว่ายอดขาย Mac ลดลงเป็นผลมาจากปีที่แล้ว (2017) Apple เปิดขาย Mac ในช่วงงาน WWDC (มิ.ย.)
Mark Gurman จาก Bloomberg ให้ความเห็นว่า จริงๆ แล้วยอดขาย Mac เริ่มลดลงมาตั้งแต่ไตรมาสปี 2010 และการที่ Mac ยอดขายตกจะโทษ MacBook Pro ไม่ได้ เพราะรุ่น Refresh ของปี 2018 Apple ได้เปิดขายในเดือน ก.ค. (ซึ่งไม่อยู่ในไตรมาสที่ 3) เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่เปิดขายในเดือน มิ.ย.
Mac sales were the lowest in a quarter since 2010 – hard to blame the MacBook Pro coming out in July versus June. https://t.co/E6QDBJ9VYd
— Mark Gurman (@markgurman) 1 สิงหาคม 2561
9to5Mac เผยว่าถ้าสังเกตให้ดี Apple เปิดขายสินค้ากลุ่ม Mac ราคาสูงตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา ไม่ว่าจะเป็น MacBook Pro Touch Bar, iMac Pro และ MacBook Pro Touch Bar 2018 ซึ่งเจาะตลาดกลุ่มผู้ใช้ Profressional เป็นหลัก
แน่นอนว่าการที่ Apple เปิดขายสินค้ากลุ่ม Mac ที่มีราคาสูงขึ้นก็จะทำให้โอกาสที่ Apple มีรายได้ต่อการขายต่อเครื่องมีมากขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน ดังนั้นจำนวนหรือรายได้ที่ขายยังเทียบไม่ได้กับกำไรที่ Apple จะได้จากการขายสินค้ากลุ่ม Mac ราคาสูงนี้
ดังนั้นต้องติตดามกันต่อว่าไตรมาสที่ 4 ปี 2018 ยอดขายและรายได้ของสินค้ากลุ่ม Mac จะเป็นอย่างไร เพราะในช่วงไตรมาสดังกล่าวเป็นช่วงที่ Apple เปิดขาย MacBook Pro Touch Bar 2018 รุ่นสเปคแรงด้วย
ที่มา – 9to5mac