หลังจากที่ Apple ได้เปิดตัว macOS รุ่นใหม่ภายใต้ชื่อรุ่นว่า Catalina ซึ่งมาในเวอร์ชัน macOS 10.15 ในงาน WWDC 2019 เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา และเมื่อปลายเดือนเดียวกันทาง Apple ได้ปล่อย macOS Catalina 10.15 Public beta ซึ่งหมายถึงประชาชนทั่วไป “สามารถทดสอบติดตั้งและใช้งานได้” โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ วันนี้จะขอนำข้อมูลสิ่งใหม่ ๆ ใน macOS Catalina มาให้ชมพร้อมทั้งลิงก์สำหรับการลงทะเบียนใช้งานรุ่นทดสอบ
15 ฟีเจอร์ใหม่ใน macOS Catalina 10.15 ดาวน์โหลดเวอร์ชันทดลองได้แล้ววันนี้
สำหรับผู้ที่สนใจอยากลองติดตั้ง macOS Catalina 10.15 สามารถดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งได้ที่ https://beta.apple.com/sp/betaprogram/ (วิธีการดูได้ตามคลิปจะอัปเดตให้ทราบอีกครั้ง) สำหรับในรอบนอกจากจะบอกข่าวการมาของ macOS Public beta แล้ว ยังมี 15 ฟีเจอร์เด็ดใน macOS Catalina 10.15 มาแชร์ให้ฟังกันอีกด้วย มีอะไรบ้างไปดูกันเลย
- Sidecar ฟีเจอร์ที่ช่วยให้ iPad กลายเป็นหน้าจอที่ 2 สำหรับ Mac นอกจากการแสดงผลบนหน้าจอ iPad แล้ว ยังสามารถใช้งาน Apple Pencil วาดบน iPad ให้มาโผล่ที่ Mac ได้ เพิ่มความสะดวกสำหรับนักวาด ทำให้ใช้งาน Mac และ iPad ร่วมกันได้ราบลื่นมากยิ่งขึ้น
- Screen Time ฟีเจอร์เด็ดสมัย iOS 12 ที่ช่วยให้ติดตามการใช้งานอุปกรณ์ว่าเราใช้งานอะไรไปมากเท่าไหร่แล้ว ดูรายละเอียดของแอปที่ใช้งานรวมไปถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ของการใช้ และยังสามารถควบคุมการใช้งานของบุคคลในครอบครัวได้ด้วย เช่น จำกัดเวลาให้ลูกเล่นเกมได้ถึง 3 ทุ่มหลังจากนั้นจะเล่นไม่ได้ เป็นต้น
- Music เนื่องจาก Apple ได้ตัด iTunes ออกไปและแตกเป็นแอป ใหม่ 3 ตัวได้แก่ Music, TV และ Podcast ซึ่งแอป Music นี้จะเป็นที่สำหรับการฟังเพลงจาก Apple Music และซื้อหาเพลงจาก iTunes Store ได้เช่นเดิม ทำให้แอปนี้กลายเป็นศูนย์กลางของการฟังเพลงอย่างชัดเจนและมีความเหมือนกับ iOS และ iPadOS ยิ่งขึ้น
- TV แอป TV ถูกแยกออกจาก iTunes เช่นกันโดยทาง Apple วางแผนที่จะผลักดันบริการ Apple TV+ และตั้งใจให้แอปนี้เป็นที่รวมสำหรับการรับชมภาพยนต์และรายการต่าง ๆ เอาไว้ที่เดียว
- Podcast หากใครคุ้นเคยกับการฟัง Podcast บน iPhone, iPad วันนี้ใน macOS Catalina 10.15 ก็มีแอป Podcast แยกออกมาให้เรียบร้อย เพิ่มความสะดวกในการค้นหา Episode ต่าง ๆ ที่อยากจะฟัง และที่สำคัญสามารถค้นหา Podcast ด้วยข้อความที่มีการพูดถึงใน Podcast นั้น ๆ อีกด้วย
- Find My แอปสำหรับการค้นหาอุปกรณ์และเพื่อน ๆ เอามารวมไว้ในที่เดียวกัน จากเดิมจะเป็น Find My iPhone สำหรับค้นหา iDevice และอีกแอปคือ Find My Friend ค้นหาเพื่อน ตอนนี้เหลือแค่ Find My เพียงอย่างเดียว
- แอป iPad จะมาอยู่บน Mac มากขึ้น ใน macOS Catalina 10.15 นี้เราจะได้เห็นแอปของ iPad นั้นมาอยู่บน Mac มากขึ้น เนื่องมาจากได้รับประโยชน์จาก Project Catalyst ที่จะช่วยให้นักพัฒาสามารถนำโค้ดของแอปใน iPadOS แปลงมาให้รันบน macOS ได้ อย่างล่าสุดที่ทาง Twitter ประกาศไปว่าจะนำแอป Twitter กลับมาให้ใช้งานบน Mac อีกครั้งหลังจากหยุดพัฒนาไปก่อนหน้านี้ และต่อจากนี้ไปเกมและแอปดี ๆ จากฝั่ง iPad นั้นสามารถใช้งานบน Mac ได้อีกมากนั่นเองครับ
- Voice Control (Accessibility) ฟีเจอร์นี้จะแตกต่างจาก Siri โดยสรุปคร่าว ๆ แล้ว Voice Control นั้นจะช่วยให้เราควบคุมเครื่อง Mac ได้โดยที่ไม่ต้องเลื่อนเม้าส์ไปตามจุดต่าง ๆ โดยจะใช้การสั่งการด้วยเสียงแทน ซึ่งจะเหมาะมากสำหรับผู้ใช้ที่ไม่สามารถใช้มือในการควบคุมเมาส์ ยกตัวอย่างเช่น ผู้พิการเป็นต้น
- Finder หลังจากที่ Apple ตัด iTunes ออกจาก macOS Catalina 10.15 แล้ว การซิงก์ข้อมูลของ iDevices นั้นจะถูกรวมไว้ที่ Finder ที่เดียวเลย หลักการทำงานจะเหมือนเดิม Sync & Backup iDevices เพียงเปลี่ยนที่สำหรับการใช้งานเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามรถขยายหน้าต่างให้แสดงผล 3 รูปแบบได้คือ เต็มจอทั้งหมด, แสดงครึ่งจอซ้ายหรือแสดงครึ่งจอขวา
- Photos จะมีความเหมือนกับ iOS 13 และ iPadOS ในจุดของการแสดงผลจะเลือกชมแบบ Day, Month, Year หรือว่า All Photos ได้ ในส่วนของรูปอย่าง Live Photos และวิดีโอนั้นจะถูกแสดงผลโดยการเริ่มเล่นมีเดียเหล่านั้นเลย จะช่วยให้การรับชมรูปและวิดีโอที่ถ่ายมานั้นมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
- Safari ปรับปรุงให้มีความฉลาดมากยิ่งขึ้น มีการเพิ่ม Siri Suggestion และมีส่วนของคำแนะนำ สำหรับหน้าเว็บไซต์ที่เข้าบ่อยและมีการแจ้งเตือนเมื่อผู้ใช้ใช้รหัสผ่านที่ไม่ปลอดภัย (Weak Password) อีกด้วย
- Thai Dictionary ฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Lookup ที่ผู้ใช้สามารถเลือกคำภาษาอังกฤษจากหน้าเว็บไซต์ต่างประเทศและสามารถแปลความหมายเป็นภาษาไทยได้เลยโดยที่ไม่ต้องเปิดพจนานุกรมให้เมื่อย นอกจากพจจนานุกรม Thai-English แล้วยังมี Vietnamese-English อีกด้วย
- Reminder ถูกออกแบบใหม่หมด เพิ่มฟีเจอร์มากกว่าเดิมสำหรับการสร้างการแจ้งเตือน การจัดการลิสต์และติดตามการแจ้งเตือนต่าง ๆ การสร้างรายการนั้นสามารถเพิ่มข้อมูลเข้าได้เยอะขึ้น เช่น วันเวลา สถานที่ รูปถ่าย ไฟล์สแกนหรือเว็บลิงก์ที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย
- Notes เพิ่มความสามารถของแอป Notes มากขึ้น ปรับโหมดมุมมองได้โดยการเพิ่ม Gallery View ทำให้จดจำโน้ตที่ต้องการจะเปิดหรือแก้ไขได้ง่ายขึ้น, การค้นหาในโน้ตที่ฉลาดขึ้นจากเดิมที่ค้นจากตัวอักษรที่เขียนในโน้ตแล้ว สามารถค้นหาจากวัตถุได้ด้วย เช่น เอาเราเพิ่มรูปท้องฟ้าไว้ในโน้ตนั้น เราแล้วค้นหาด้วยคำว่า Sky รูปภาพนั้นก็จะถูกนำมาแสดง เป็นต้น
- Mail เพิ่ม 3 ฟีเจอร์หลัก ๆ ได้แก่ Mute a Thread, Block a sender คือการบล็อคการส่งอีเมลจากผู้ส่งที่ไม่ต้องการ และ Unsubscribe สำหรับยกเลิกจดหมายข่าวจากเว็บไซต์ต่าง ๆ
ยังมีฟีเจอร์ใหม่อื่น ๆ พร้อมระบบความปลอดภัยที่มามากขึ้นใน macOS Catalina 10.15 ซึ่ง ณ ปัจจุบันเปิดให้ทดสอบใช้งานกันแล้วและจะปล่อยให้อัปเดตกันอย่างเป็นทางการในปลายเดือน กันยายน 2019 ที่กำลังจะถึงนี้
Mac รุ่นไหนที่ติดตั้ง macOS Catalina 10.15 ได้บ้าง?
รุ่นที่รองรับได้แก่
- MacBook (Early 2015 หรือใหม่กว่า)
- MacBook Air (Mid 2012 หรือใหม่กว่า)
- MacBook Pro (Mid 2012 หรือใหม่กว่า)
- Mac mini (Late 2012 หรือใหม่กว่า)
- iMac (Late 2012 หรือใหม่กว่า)
- iMac Pro (2017)
- Mac Pro (Late 2013 หรือใหม่กว่า)
ข้อมูลเพิ่มเติม Apple.com
เรียบเรียงโดยทีมงาน iMoD