เปิดขายมาสักระยะแล้วกับที่ชาร์จ MagSafe ใครที่กำลังตัดสินใจซื้อ มาชมรีวิวนี้กันก่อนเผื่อมีข้อมูลบางจุดที่ยังไม่ทราบเพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจ
ที่ชาร์จ MagSafe ราคา 1,490 บาท
ที่ชาร์จ MagSafe ไม่มีหัวชาร์จ (อะแดปเตอร์ชาร์จ) มาให้
ตอนที่เราซื้อที่ชาร์จ MagSafe มาจะได้เป็นกล่องเล็ก ๆ กล่องเดียว มีเฉพาะตัวชาร์จมาให้เท่านั้น ไม่มีหัวชาร์จมาให้ ต้องหาเพิ่มเอง
ที่ชาร์จ MagSafe ใช้สาย USB-C
ที่ชาร์จ MagSafe ใช้สาย USB-C นั่นหมายความว่าเราต้องหาหัวชาร์จที่เป็นพอร์ต USB-C มาใช้ เช่น หัวชาร์จ USB-C 20W ที่ต้องหาเพิ่มเอง ไม่มีมาให้ในกล่อง
หรือไม่ก็เสียบกับคอม, จอ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีช่อง USB-C ก็ได้ แต่จะชาร์จช้าหน่อย
ดูดติดกับ iPhone 12 ได้ดี
ที่ชาร์จ MagSafe ถูกออกแบบมาให้ใช้กับ iPhone 12, iPhone 12 mini, iPhone 12 Pro, iPhone 12 Pro Max ที่มี MagSafe หลังเครื่อง
เมื่อเราวาง iPhone ไว้บนที่ชาร์จ MagSafe ก็จะดูดติดกันทันที ประโยชน์หลัก ๆ ของ MagSafe คือ ช่วยให้เราวาง iPhone บนที่ชาร์จได้แม่นยำ ไม่หลุด ไม่เลื่อนไปมาระหว่างชาร์จ
วางง่าย, หยิบขึ้นมาจะลำบากหน่อย
ตอนวาง iPhone ไว้บนที่ชาร์จก็ง่ายดี แต่ตอนที่เราจะหยิบ iPhone ขึ้นมา การหยิบด้วยมือข้างเดียวจะยากหน่อย ต้องใช้นิ้วไถที่ชาร์จให้ออกจากตัวเครื่อง iPhone หรือไม่ก็ต้องใช้สองมือจับถึงจะถึงขึ้นมาได้สะดวก
ชาร์จกับ iPhone รุ่นอื่นได้
ที่ชาร์จ MagSafe รองรับชาร์จไร้สายกับ iPhone รุ่นอื่นที่รองรับชาร์จไร้สายด้วย แต่จะไม่ดูดติดแน่นสนิทเหมือน iPhone 12 ซีรีส์
ใช้ชาร์จอุปกรณ์อื่นที่ไม่ใช่ iPhone ได้
ที่ชาร์จ MagSafe รองรับชาร์จอุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีมาตรฐานชาร์จไร้สาย Qi, สามารถชาร์จ AirPods, AirPods Pro ได้ แต่ไม่สามารถชาร์จ Apple Watch ได้
ใส่เคสแล้ววางชาร์จได้ เคสที่มี MagSafe จะดูดติด, ไม่มีจะไม่ค่อยดูด
เมื่อนำ iPhone 12 ใส่เคสก็สามารถวางชาร์จบนที่ชาร์จ MagSafe ได้, โดยถ้าเป็นเคสที่มี MagSafe อย่างเคส iPhone 12 ของ Apple ก็จะดูดติดได้ดี หรือไม่หากเคสจากผู้จำหน่ายภายนอกที่มี MagSafe ในตัวเคสก็จะดูดติดได้ดีเช่นกัน
สำหรับเคสที่ไม่มี MagSafe ก็จะไม่ค่อยดูดติดเท่าไหร่ แต่ก็ต้องดูความหนาของเคสด้วย ถ้าเคสบางก็จะเริ่มดูดติดได้ง่าย แต่ถ้าเคสหนา ๆ ก็จะดูดติดลำบาก
ชาร์จได้สูงสุด 15W
Apple ระบุไว้ในสเปคสินค้าว่า หากใช้ที่ชาร์จ MagSafe ร่วมกับหัวชาร์จ USB-C 20W จะชาร์จได้สูงสุด 15W ใน iPhone 12, iPhone 12 Pro, iPhone 12 Pro Max ส่วน iPhone 12 mini ชาร์จได้สูงสุด 12W
ส่วนอุปกรณ์อื่น ๆ อย่างเช่น AirPods, AirPods Pro นั้น จะชาร์จได้สูงสุด 7.5W
ชาร์จไปด้วยเล่นไปด้วยไม่ค่อยเหมาะ
หากนำที่ชาร์จ MagSafe มาติดกับ iPhone แล้วยกขึ้นมาเล่นก็สามารถเล่นได้ แต่ตัวเครื่องก็จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นดังนั้นจึงไม่เหมาะที่จะยกขึ้นมาเล่น เสียบสายที่ช่อง Lightning ไปด้วยเล่นไปด้วยจะสะดวกกว่า
เคสหนังจะเป็นรอย
Apple ระบุในหน้าเว็บสินค้าชัดเจนว่า หากใช้ที่ชาร์จ MagSafe ร่วมกับเคสหนัง MagSafe อาจมีรอยประทับเป็นวงกลมจากการกดทับของหนัง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
สรุป
ที่ชาร์จไร้สายอันเดียว รองรับอุปกรณ์หลายตัว
ที่ชาร์จ MagSafe เหมาะสำหรับคนที่มี iPhone 12 หรืออุปกรณ์มาตรฐาน Qi แล้วไม่อยากพกที่ชาร์จหลายแบบ (เช่น มี iPhone, AirPods และสมาร์ตโฟน Android) แล้วต้องการที่ชาร์จอันเดียวใช้ได้หลายอุปกรณ์
อยากวางชาร์จไร้สายแบบแม่น ๆ
ประโยชน์หลัก ๆ ที่ได้ลองใช้มานั้นก็คือการดูดติดระหว่างที่ชาร์จ MagSafe กับ iPhone 12 ที่ช่วยให้การวางชาร์จแม่นยำขึ้น เพราะก่อนหน้านี้หากใช้ที่ชาร์จไร้สายแบบไม่มี MagSafe บางครั้งวางไม่ตรงก็ไม่ได้ชาร์จ หรือไม่ก็มีอะไรไปเลื่อนหน่อยก็หลุดจากการชาร์จแล้ว
จุดพิจารณา
จุดพิจารณาของที่ชาร์จ MagSafe ก็คือถึงแม้จะเป็นที่ชาร์จไร้สายที่ชาร์จได้เร็วถึง 15W แต่ก็ไม่ได้มีความแตกต่างจากการชาร์จผ่านช่อง Lightning มากเท่าไหร่, ประมาณว่ามีชุดชาร์จผ่านสายอยู่แล้วก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องซื้อเพิ่ม
ราคาและการสั่งซื้อ
ที่ชาร์จ MagSafe ขายราคา 1,490 บาท สั่งซื้อได้ที่ Apple Store ออนไลน์ไทย, ซื้อได้ที่หน้าร้าน Apple Iconsiam, Apple Central World รวมไปถึงหน้าร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ