ศิลปินสิงคโปร์ใช้เทคโนโลยีสร้างศิลปะเพื่อการพัฒนาประเทศและให้คนอยู่กับธรรมชาติอย่างยั่งยืน งานนี้ได้ MeshMinds ซึ่งเป็นองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นมาโดยไม่แสวงผลกำไรเป็นตัวกลางช่วยผลักดันให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมของโลกในปัจจุบัน โดยใช้เทคโนโลยีในการสร้างผลงานนำเสนอที่ช่วยเพิ่มความสนใจแก่ผู้ชมมากยิ่งขึ้น
ชมงาน MeshMinds 2.0 ArtxTechForGood ใช้ศิลปะผนวกเทคโนโลยี เพื่อโลกที่ยั่งยืน
7 มี.ค. 2562 ทีมงาน iMoD ได้มีโอกาสเข้าร่วมชมงานนิทรรศการ MeshMinds 2.0 ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะและวิทยาศาสตร์ (ArtScience Museum) ในประเทศสิงคโปร์ ในงานครั้งนี้มีอะไรที่น่าสนใจบ้างเราขออนุญาตนำข้อมูลมาบอกเล่าให้ได้ทราบกันครับ
1. MeshMinds คือใคร?
MeshMinds เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านเทคโนโลยีที่สร้างสรรค์ ซึ่งวิสัยทัศน์ของ MeshMinds คือ การรับมือกับความท้าทายในการเปลี่ยนแปลงของโลกจากมุมมองของผู้คนชาวเอเชีย ภารกิจที่ MeshMinds ทำคือ เชื่อมโยงเหล่านักศิลปินเข้ากับบริษัททางด้านเทคโนโลยีที่ให้ความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นการสร้างผลงานศิลปะโดยการเล่าเรื่องให้เข้าถึงความรู้สึกของผู้ชมงานศิลปะและโฟกัสไปที่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของผู้คนและโลกที่พวกเราอาศัยอยู่ใบนี้
2. งาน MeshMinds 2.0 เกี่ยวกับอะไร?
ในงานนี้จะมีผลงานศิลปะจากศิลปินทั้งจากประเทศสิงคโปร์และต่างชาติเป็นการนำเสนอแนวคิดของตนเองที่มีต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในด้านการพัฒนา, การแก้ปัญหาของสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น หรือแม้แต่การนำปัญหามลภาวะต่าง ๆ ที่มนุษย์กำลังเผชิญนั้นถ่ายทอดออกมาเป็นผลงาน โดยความโดดเด่นของชิ้นงานศิลปะเหล่านี้อยู่ที่การนำเสนอที่จะทำให้ผู้ชมนั้นเข้าถึงความหมายและมีความรู้สึกร่วมกับชิ้นงานแต่ละอัน
ผลงานของศิลปินที่ใช้ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีในการสร้างสรรค์ผลงานและพัฒนาแอป โดยผนวกรวม VR และ AR เทคโนโลยีเข้ากับงานศิลปะ ยกตัวอย่างเช่น การสร้างกราฟิกด้วยการวาดภาพโดย iPad Pro และ Apple Pencil, การนำ iMac Pro, MacBook Pro มาใช้งานการสร้างผลงานในรูปแบบ AR, VR สำหรับการนำเสนอ
และเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นทีมงานจะพาไปชมตัวอย่างผลงานที่โดดเด่นในงาน MeshMinds 2.0 ครั้งนี้ครับ
3. มีอะไรในงานให้ชมบ้าง?
ในงานจะเห็นการแสดงผลงานทางศิลปะจากศิลปินหลายคนซึ่งผลงานที่นำมาแสดงนั้นหากดูผ่าน ๆ ก็จะเห็นเพียงภาพวาดที่ตั้งโชว์หรือชิ้นงานศิลปะที่วางไว้บนโต๊ะเท่านั้น แต่หากใช้อุปกรณ์อย่างสมาร์ตโฟน (iPhone, iPad ก็ได้) ส่องไปที่ชิ้นงานนั้นก็จะสามารถเห็นรายละเอียดเป็นทั้งภาพเคลื่อนไหวโดยใช้เทคโนโลยี AR เข้ามาช่วยในการสร้างประสบการณ์ในการรับชมมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ชมนั้นเปิดโลกทัศน์ได้มากขึ้นนั่นเอง
ตัวอย่างผลงานที่น่าสนใจที่ทีมงานคัดเลือกมาให้ชมได้แก่
3.1 A Better Tomorrow โดย André Wee
เป็นไอเดียการวาดภาพที่มองอนาคตของประเทศสิงคโปร์ซึ่งเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืนในการใช้พลังงานสะอาดมาใช้งานแทนพลังงานจากซากฟอสซิล, การออกแบบทางด่วน, สวนสาธารณะ ฯลฯ ที่ชี้ให้เห็นว่าเพียงเราเปลี่ยนมุมมองแนวคิดไปในทางบวกเราก็สามารถร่วมกันสร้างโลกในทิศทางที่ดีได้
เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน : iMac Pro, 3D Rendering, iPad Pro, Procreate, Spark AR Studio
3.2 The Mount That Keeps Growing โดย DPLMT
ผลงานชิ้นต่อมาคือภาพวาดที่สวยงามแต่หากมองดี ๆ จะเห็นว่าในภาพนั้นจะพบเจอกับขยะจำนวนมากซึ่งศิลปินสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในปัจจุบันที่เรากำลังพบเจอในเรื่องของขยะที่มีอยู่ในทุก ๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็นในเขตพื้นที่อยู่อาศัย, ทะเลหรือป่าไม้ ซึ่งขยะเหล่านั้นเกิดจากน้ำมือของมนุษย์ หากทุกคนไม่ช่วยกันจัดการในเรื่องนี้สุดท้ายเหล่าขยะเหล่านั้นก็จะล้นโลกในที่สุด
ในการนำเสนอครั้งนี้ศิลปินจะใช้เทคโนโลยี AR เข้ามาช่วยอธิบายให้ผู้ชมได้เห็นภาพมากขึ้น ส่วนเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างสรรค์ได้แก่ MacBook Pro, iPad Pro, Procreate, Amaziograph, Spark AR Stuio
3.3 Ocean Scrub โดย Jason Loo & Cherlyn Mark
ผลงานช้ินต่อไปนั้นมาในรูปแบบของแอปพลิเคชันโดยเน้นสำหรับการสร้างความตระหนักในการไม่ทิ้งเศษขยะลงทะเล ตัวเกม Ocean Scrub เกิดจากการที่ผู้พัฒนาได้เห็นข่าวสารว่าทะเลทุกวันนี้เต็มไปด้วยขยะและสัตว์ทะเลหลายตัวต้องมารับกรรมที่มนุษย์ได้ก่อไว้โดยสัตว์เหล่านั้นได้กินถุงพลาสติกและขยะอื่น ๆ โดยคิดว่ามันเป็นอาหารและสุดท้ายสัตว์เหล่านั้นก็ตายไป
ตัมเกมจะปลูกฝังโดยใช้ผู้เล่น (โฟกัสที่เด็ก) บังคับตัวละครในเกมซึ่งเป็นสัตว์ทะเลโดยหน้าที่คือต้องว่ายน้ำและไปกินอาหารโดยจะต้องไม่ไปกิน (ว่ายน้ำไปโดน) ถุงพลาสติก ถ้าหากกินถุงพลาสติกเข้าไปสัตว์นั้นก็จะตายและเกมก็จะจบ
สิ่งนี้จะช่วยให้เด็กเข้าได้ว่า การที่สัตว์น้ำนั้นกินขยะเหล่านี้เข้าไปก็จะทำให้มันตาย และขยะเหล่านั้นมาจากไหนหละ? ก็มาจากเรา ๆ นี้แหละ ดังนั้นเด็กก็จะถูกปลูกฝังว่าไม่ควรทิ้งขยะเหล่านั้นลงทะเลนั้นเอง
เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน : iPad Pro, Procreate, Unreal Engine, AR Kit
ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปนี้ไปใช้งานได้ฟรีที่ App Store
นอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายผลงานที่ล้วนเกิดจากปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เราสามารถพบเจอได้รอบตัว เช่น มลพิษฝุ่นควันในอากาศ, ขยะในท้องทะเล, ความสะอาดในน้ำดื่ม หรือความสวยงามของธรรมชาติที่ศิลปินต้องการนำมาถ่ายทอดให้เห็นถึงความสำคัญและสร้างความตระหนักร่วมกันในการที่จะรักษาโลกใบนี้ของเราเพื่อให้สวยงามยาวนานตลอดไปนั่นเอง
4. สถานที่จัดงานอยู่ที่ไหน?
จัดที่ ArtScience Museum ที่ Marina Bay ประเทศสิงคโปร์ เดินทางได้ง่ายทั้งรถไฟใต้ดิน, แท็กซี่และรถประจำทาง
5. เสียค่าเข้าชมหรือไม่?
นิทรรศการครั้งนี้เปิดให้เข้าชมพรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
6. นิทรรศการจัดถึงเมื่อไหร่?
MeshMinds 2.0 จัดตั้งแต่วันที่ 7 – 17 มีนาคม 2562 นี้
7. สรุป
งานครั้งนี้ตัวตั้งตัวตีคือองค์กร MeshMinds ที่พยายามจะสร้างความตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมโลก จึงเป็นตัวกลางในการผลักดันให้ศิลปินสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่จากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกในการถ่ายทอดแนวคิดพร้อมทั้งการนำเสนอในรูปแบบที่เข้าถึงความรู้สึกของผู้รับชม
การนำ AR และ VR เข้ามาเป็นตัวหลักในการนำเสนอจึงทำให้ผู้ชมเห็นภาพต่าง ๆ พร้อมทั้งได้รับความรู้สึกว่าเหมือนเรากำลังเข้าไปอยู่ในพื้นที่เหล่านั้น (สร้างสิ่งแวดล้อมเหมือนจริงขึ้นมา) ผลที่ได้คือผู้ชมสามารถเข้าถึงและเข้าใจความหมายของศิลปินที่พยายามสื่อสารเหล่านั้นออกมา
MacBook Pro, iMac Pro, iPad Pro, AR Kit และแอปซอฟต์แวร์อื่น ๆ ในระบบ macOS และ iOS ก็เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ศิลปินนั้นสร้างสรรค์ผลงานในรูปแบบใหม่นี้ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยใช้ระยะเวลาไม่นาน
ในมุมมองของผู้เขียนอยากเห็นนิทรรศการแบบนี้ในประเทศไทยบ้างซึ่งเชื่อว่าศิลปินไทยจำนวนไม่น้อยที่มีแนวคิดและความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลก เมื่อผลิตผลงานออกมาแล้วก็อยากให้รัฐช่วยส่งเสริมและสร้างการรับรู้ไปยังประชาชนทั่วไปหรือนำไปปรับปรุงเข้าหลักสูตรการเรียน เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อมนั้นแต่เดิมทุกคนคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่ชื่อเถอะว่า “ปัญหาเหล่านั้นมันใกล้เรามากกว่าที่คิด ไม่เชื่อก็ลองสูดอาอาศรอบตัวดูสิ PM 2.5 อยู่ข้าง ๆ นี่แหละ”