เปิดขายค่อนข้างเร็วสำหรับ Xiaomi ในประเทศไทย หลังจากเปิดตัวที่เมืองจีนได้เพียงเดือนเดียว Mi Band 5 ก็พร้อมวางขายในประเทศไทย 22 ก.ค. 63 ในราคาเพียงแค่ 1,190 บาท ซึ่งถือว่าไม่ได้แพงกว่าที่จีนเท่าไหร่นัก แลกกับการรับประกันผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย
Mi Band 5
จุดเด่นของ Mi Smartband 5 รุ่นนี้ก็คือใหญ่กว่า Mi Band 4 ประมาณ 20% มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาดอยู่ที่ 1.1 นิ้ว ส่วนรูปทรงก็ไม่ได้หนีจากรุ่นเดิมเท่าไหร่นัก (แต่หากมองจริง ๆ จะพบว่ามันมีความแตกต่างอยู่บ้าง) และหายเบื่อกันไปเลยเพราะมีหน้าจอให้เลือกถึง 65 รูปแบบ และสายสำหรับเปลี่ยนถึง 6 สีด้วยกัน
หากคุณเป็นคนชอบออกกำลังกาย ถือว่ามาได้ถูกต้องแล้วเพราะ Mi Band 5 สามารถกันน้ำได้ถึง 50 เมตร (ระดับนักดำน้ำ) ใส่ไปว่ายน้ำหรืออาบน้ำได้สบาย และนอกจากนี้ก็ยังคงมีโหมดสำหรับว่างน้ำให้โดยเฉพาะด้วยเช่นกัน แถมมีโหมดกีฬาเพิ่มเติมให้อีก 11 รูปแบบ (มีเพิ่มมากกว่ารุ่นเก่า) ไม่ว่าจะเป็นกีฬาในร่มหรือกลางแจ้ง
- พายเรือ (Rowing machine)
- เครื่องเดินวงรี (Elliptical)
- โยคะ (Yoga)
- วิ่งกลางแจ้ง (Outdoor running)
- ปั่นจักรยานกลางแจ้ง (Outdoor cycling)
- ว่ายน้ำ (Pool swimming)
- เครื่องปั่นจักรยาน (Indoor cycling)
- กระโดดเชือก (Jump rope)
- ลู่วิ่งไฟฟ้า (Treadmill)
- เดิน (Power walking)
- ฟรีสไตล์ (Freestyle)
จะเห็นได้ว่ามีการออกกำลังกายรูปแบบใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาเยอะมากถึง 5 อย่างเลยทีเดียว (ตามที่ได้ทำตัวหนาไว้) และก็ไม่เพียงแค่กีฬาเท่านั้น ยังมีการเพิ่มเรื่องคุณภาพในการวัดการนอน เกี่ยวกับการหลับลึกและอัตราการเต้นของหัวใจ มีการเพิ่มเซ็นเซอร์วัดความหนาแน่นของออกซิเจนในเลือดมาให้ด้วย เท่ากับมีครบทุกอย่างในเครื่อง
สเปก | Mi Band 5
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.1 นิ้ว
- ความลึกของสี 16 บิต
- ความสว่างหน้าจอ 450 นิต
- ความละเอียด 126 x 294 พิกเซล
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 BLE (NFC ในบางรุ่น)
- หน่วยความจำ 512 KB
- พื้นที่เก็บข้อมูล 16 MB
- แบตเตอรี่ 125 mAh ใช้งานได้นาน 14 วัน (NFC) และ 20 วัน (รุ่นไม่มี NFC)
- เซ็นเซอร์ : เครื่องวัดความเร่ง, ไจโรสโคป, อัตราการเต้นหัวใจ PPG, ตรวจจับวัตถุแบบไร้การสัมผัส, การตรวจจับ IR (NFC), วัดความกดอากาศ
- กันน้ำลึก 40 เมตร ยาวนาน 30 นาที (5 ATM)
ความน่าสนใจของ Mi Band 5 รุ่นนี้ก็คือการเพิ่มเซ็นเซอร์ SpO2 โดยสามารถตรวจจับออกซิเจนในกระแสเลือด ในระดับ “วินาที” เป็นระยะเวลานานติดต่อกัน 8 ชั่วโมง เพื่อที่จะใช้วัดคุณภาพการนอนหลับของผู้ใช้งาน แต่น่าเสียดายที่รุ่น NFC จะขายในเมืองจีนเท่านั้น เพื่อรองรับระบบจ่ายเงินให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ราคาและวันวางจำหน่ายในประเทศไทย
สำหรับรุ่นที่เมืองไทยจะวางขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 ก.ค. 63 จะเป็นรุ่นที่ไม่รองรับ NFC โดยมีราคาอยู่ที่ 1,190 บาท ขายพร้อมกันทั้งในส่วนของหน้าร้าน Mi Store รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่างเว็บไซต์ JD Central, Lazada, Shopee และ ShopAt24