อ้าวเฮ้ย! นี่เรามาสนามบินก่อนเวลาเช็คอินตั้งหลายชั่วโมงแถมสายการบินก็ไม่ให้โหลดกระเป๋าก่อนเครื่องออก 2 ชั่วโมงซะด้วย ทำไงดีหละทีนี้? ปกติแล้วไม่ค่อยจะได้โหลดกระเป๋าหรอก เพราะส่วนใหญ่จะใช้กระเป๋าใบเดียวแบกขึ้นเครื่องเลย จึงต้องหาทางออกว่า จะมีวิธีไหนทำให้การรอขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองรู้สึกไม่น่าเบื่อ?
โดยปกติแล้ว.. ถ้าผมมาสนามบินเร็วกว่าเวลาเครื่องออก พอหลังเช็คอินออนไลน์เสร็จ ก็จะนั่งดื่มกาแฟหรือรับประทานอาหารในร้าน หลังจากนั้นก็จะนั่งทำงานต่อเพื่อรอขึ้นเครื่อง แต่วันนี้ผมมาสนามบินเร็วกว่าปกติเหมือนทุกครั้ง แต่ต่างจากเดิมตรงที่กระเป๋ามันโหลดยังไม่ได้(สายการบินยังไม่ให้โหลดก่อนขึ้นเครื่อง 2 ชั่วโมง) ก็เลยต้องหาทางออกว่าจะหาร้านแบบไหนที่สามารถแบกกระเป๋าใบใหญ่ไปนั่งทำงานด้วยได้
ตัดสินใจเดินขึ้นไปดูชั้น 2 ของ ดอนเมือง Terminal 2 ชั้นนั้นจะมีร้านขายอาหารค่อนข้างเยอะก็ไม่ได้คาดหวังอะไรนอกจากหาร้านกาแฟที่น่านั่งสักร้าน แต่บังเอิญว่าไปเจอกับที่ที่หนึ่งตอนแรกนึกว่าเป็นเลาจน์ของสายการบินก็เลยเดินผ่านๆ เพื่อไปดูว่าของเจ้าไหน
แต่สิ่งที่เจอนั้นกลับกลายเป็นว่ามันคือ Co-Working Space ของ Miracle ที่สืบทราบต่อมาว่าเป็นเจ้าเดียวกับที่ทำ SleepBox ในดอนเมือง เหมือนว่าเขาเปิดพื้นที่ Co-Working Space นี้เพิ่มขึ้นมาว่า ผมเลยไปแอบส่องดูว่าราคาค่าบริการนั้นเป็นอย่างไร เห็นแล้วว่า “เออ ราคาพอไหว” ก็เลยลองเข้าไปใช้บริการดูครับ วันนี้เลยนำมาบอกเล่าสู่กันฟังเผื่อว่าใครเจอเหตุการณ์เดียวกันจะได้ไปลองใช้บริการบ้าง
รีวิว Miracle Co-Working Space ณ สนามบินดอนเมือง
ตั้งอยู่บริการชั้น 4 ตรงกับช่องเช็คอินของสายการบินนกแอร์มองเห็นค่อนข้างง่ายครับใครมีกระเป๋าและรถเข็นก็สามารถเอาเข้าไปในนั้นได้เลยนะครับ
อัตราค่าบริการ Miracle Co-Working Space ช่วงนี้น่าจะเป็นโปรโมชันครับลด 20% ใช้งานได้ 2 ชั่วโมง
บรรยากาศภายใน
Co-Working Space แห่งนี้ดูเหมือนเลาจน์อย่างที่ผมได้บอกไปครับ ภายในนั้นมีที่นั่งให้เลือกหลากหลายแบบทั้งแบบโซฟานั่งนุ่มๆ โซฟายาวๆ และโต๊ะทำงานใหญ่ๆ เลือกนั่งได้ตามสบาย
หลังจากที่จ่ายค่าบริการ(Pre-paid) เราจะได้ใบเสร็จและรหัส Wifi มาใช้งานได้จำนวน 2 ชั่วโมง ได้แบบไม่จำกัดดาต้าแต่ว่าความเร็วนั้นมากสุดแค่ 1MB ส่วนตัวแล้วผมว่ามันน้อยไปสำหรับพื้นที่ที่เรียกว่า Co-Working Space ซึ่งความเร็วนี้อาจจะเอาไว้แก้ขัดมากกว่า แต่ส่วนตัวแล้วผมใช้ TrueWiFi แทนเอาครับเรื่องเน็ตเลยไม่มีปัญหา
ใน Co-Working Space นี้มีอะไรให้บ้าง?
เอาจริงๆ นะ ตอนแรกที่เข้ามาก็นึกว่าที่นั่งธรรมดาเท่านั้นแต่ที่ไหนได้ในราคาที่เราจ่ายไปนั้นมันรวมค่าอาหารและเครื่องดื่มด้วย อาหารที่ว่านี่คืออาหารแบบจริงจังเลยนะครับ มีข้าว มีกับข้าวหลากหลายเมนูให้เลือก ทั้งอาหารไทย, สลัด, ผัดไทย, ผลไม้, ของว่าง ฯลฯ ทั้งหมดนี่คือกินได้เลยแบบบุฟเฟต์เลย
ส่วนเครื่องดื่มที่ฟรีนั้นจะเป็นน้ำผลไม้, กาแฟที่กดจากเครื่องชงแบบสำเร็จ, น้ำเปล่า, น้ำอัดลมพื้นฐาน เครื่องดื่มเหล่านั้นดื่มฟรีครับ แต่หากต้องการกาแฟสดหรือเครื่องดื่มอื่นๆ ก็สามารถแจ้งเพิ่มเติมได้ครับมีไว้ให้บริการเช่นกัน
โดยรวมแล้วเรื่องรสชาติของอาหารนั้นถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว มานั่งที่นี่นอกจากได้ที่ทำงานแบบส่วนตัวแล้วยังได้กินข้าวเย็นก่อนที่จะเดินทางอีกต่างหาก คุ้มจริงๆ
ส่วนใครที่ต้องการพักผ่อนแบบงีบนั้นก็สามารถทำได้นะผมแอบเห็นบางคนที่เข้ามานี่นอนแบบจริงจังเลย ฮ่าๆๆ พักผ่อนสายตาได้ 2 ชั่วโมงก่อนที่จะไปต่อเครื่องก็ดีนะ จ่ายไม่แพงด้วยและไม่ต้องกังวลเรื่องกระเป๋าหาย
สรุป
Miracle Co-Working Space ดอนเมือง จริงๆ แล้วผมว่ามันคือเลาจน์เสียมากกว่า เอาไว้คั่นเวลาเผื่อว่าใครต้องรอเดินทางนานๆ ก่อนที่จะเช็คอินเข้าในเกตหรือเป็นที่สำหรับใครต้องการทานอาหารแบบบุฟเฟต์, สถานที่พักผ่อน ก็คือว่าเหมาะเลยครับช่วยให้การรอขึ้นเครื่องไม่เป็นเรื่องที่น่าเบื่ออีกต่อไป ถ้าหากมีโอกาสจะไปใช้งานอีกแน่นอนครับ