ว่าด้วยเคสกันกระแทกที่ขึ้นชื่อหลายๆ คนคงนึกถึงยี่ห้อ UAG ใช่ไหมครับ ด้วยความทนถึกบึกบึนติดตั้งเข้า iPhone แล้วช่วยกันกระแทกได้ดีส่วนการออกแบบนั้นก็ตามสไตล์ของแต่ละคนว่าจะชอบหรือไม่ วันนี้ครับผมมีอีกหนึ่งยี่ห้อชื่อว่า “Mous” (เม้าส์) แบรนด์ดังจากอังกฤษ มานำเสนอพร้อมทดสอบความอึดให้ชมกัน จะตื่นเต้นและน่าชมขนาดไหน งานนี้บอกเลย การทดสอบครั้งนี้โหดสุดตั้งแต่ iMod เคยทำมา!!
รีวิวเคส Mous เคสกันกระแทก iPhone X, 8, 7, 6 สุดโหด เทสจริง ตกตึกเครื่องไม่แตก !!
Disclosure: บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Mous Thailand โดยรีวิวนี้เขียนจากข้อมูลและการทดสอบจริงโดยทางทีมงาน iMod แนะนำว่าห้ามลอกเลียนแบบ
ทำความรู้จักกับแบรนด์ Mous กันก่อน
Mous เป็นแบรนด์ที่ผลิตเคสโทรศัพท์ที่เพิ่งเกิดใหม่จากประเทศอังกฤษ โดยมีจุดกำเนิดมาจากการระดมทุน (Crowdfunding Project )ใน Indiegogo โดยเริ่มโปรเจกต์ระดมทุนนี้ในปี 2016 เพื่อพัฒนาเคสกันกระแทกสำหรับ iPhone ที่ยังคงความหรูหราในการใช้งาน ในขณะที่โทรศัพท์ยังคงได้รับการป้องกันอย่างดีเยี่ยม
Mous เป็นโปรเจกต์ที่มีผู้คนทั่วโลกให้การสนับสนุนมากที่สุดในกลุ่มอุปกรณ์เสริม(เคส)สำหรับโทรศัพท์มือถือ โดยมีสั่งกว่า 55,000 คน ให้การสนับสนุนและได้รับยอดงเนิสนับสนุนทั้งหมดกว่า $2,500,000 USD หรือประมาณ 80 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งถือเป็นแบรนด์เคสโทรศัพทืมือถือที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก
เอาหละรู้จักที่มาที่ไปของ Mous กันแล้ว เรามาดูในส่วนของเคสที่เราจะทดสอบในครั้งนี้กันดีกว่าครับว่า มีรุ่นไหน สีอะไร สเปค วัสดุ ฯลฯ และสามารถใช้กับรุ่นไหนได้บ้าง
ข้อมูลทางเทคนิคของเคส Mous
จุดเด่นของ Mous คือ กันกระแทกสุดโหดด้วยเทคโนโลยีพิเศษและการออกแบบที่สวยงาม นี่คือหัวใจหลักของเคสแบรนด์นี้ครับ ทีมงานของสรุปสเปคที่น่าสนใจของเคสมีให้ชมกันเป็นข้อๆ ดังนี้ครับ
- คุณสมบัติเฉพาะของ Mous ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า AiroShock ซึ่งเป็นวัสดุที่มี Air Pocket อยู่ภายในจำนวนมาก ทำให้สามารถช่วยลดแรงที่เกิดจากการตกกระแทก ไม่ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อโทรศัพท์เมื่อตกจากที่สูงได้อย่างดีเยี่ยม (ดีเยี่ยมขนาดไหนชมคลิปด้านล่างนะครับ)
- การออกแบบที่ความสวยงามซึ่งปกติเคสกันกระแทกจะดูบึกบึน เข้มแข็งสไตล์ผู้ชายๆ หน่อย แต่ Mous นั้นสร้างความแตกต่างและยังนำวัสดุจากธรรมชาติเข้ามาใส่ในเคสนี้ด้วย จึงทำให้ดูโดดเด่นสวยงามน่าใช้เป็นอย่างมาก
- 5 วัสดุสุดสวย ได้แก่ Shell(เปลือกหอย), Walnut(ไม้วอลนัท), Bamboo(ไม้ไผ่), Leather(หนังแท้), และ Carbon Fibre(คาร์บอนไฟเบอร์) ซึ่ง Mous ได้นำมาทำเป็นลายด้านหลังของเคสโดยวัสดุที่ใช้เป็นของจริงทั้งหมด 100%
- ได้รับมาตรฐานการป้องกันการกระแทก MIL-STD 810G-516.6
- ความหนาของเคสเพิ่มขึ้นเพียง 2.2 mm
- น้ำหนัก 40 กรัม
- สามารถติดตั้งเข้ากับ Magnetic Mount ได้ เนื่องจาก Mous มีการฝังแผ่นเหล็กกลมๆ ไว้ที่ด้านหลังของเคส ทำให้สะดวกต่อผู้ใช้งาน ที่สามารถนำไปยึดติดกับ Magnetic Mount ไม่ว่าจะเป็นในรถ หรือที่อื่นๆ ได้
- ใช้งานร่วมกับแท่นชาร์จไร้สายได้ ทดสอบแล้วบนแท่นชาร์จาก IKEA และ Samsung
- ใช้งานร่วมกับกระจกกันรอยได้ ทดสอบแล้วกับกระจกกันรอยแบบเต็มจอจาก Focus
ทราบข้อมูลทางเทคนิคกันไปแล้ว หลายคนอาจจะยังไม่เชื่อตัวหนังสือ แต่ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวเราไปชมเคสจริงกันก่อนที่จะเข้าสู่การทดสอบขั้นโหดครับ ทีมงานจัดหนักจัดเต็มให้ชมกันแน่นอนครับ
แกะกล่องเคสกันกระแทก Mous
Mous มีให้เลือก 5 ลาย ได้แก่ Shell(เปลือกหอย), Walnut(ไม้วอลนัท), Bamboo(ไม้ไผ่), Leather(หนังแท้), และ Carbon Fiber(คาร์บอนไฟเบอร์) สามารถใช้งานได้กับ iPhone X, 8, 8 Plus, 7, 7 Plus, 6s, 6s Plus, 6 และ 6 Plus โดยในกล่องจะมีอุปกรณ์มาให้ดังนี้
- เคส Mous 1 ชิ้น
- ฟิล์มกันรอยชนิด TPU 3 ชั้น ดูดซับแรงกระแทกได้ 3 เท่า
- ชุดทำความสะอาดหน้าก่อนติดฟิล์ม
- คู่มือการใช้งาน
ทาง Mous แนะนำว่าควรติดฟิล์มกันรอยที่แถมมาให้ด้วยเพื่อการปกป้องที่รอบด้านทั้งหน้าและหลัง
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่แนะนำให้ทำตามคลิปทดสอบที่ทาง Mous และทีมงาน iMod ได้นำเสนอเอาไว้นะครับ
เพราะถึงแม้ว่าเครื่องภายนอกอย่างจอจะไม่แตกแต่ว่าระบบภายในอาจจะได้รับความกระทบกระเทือนทำให้ระบบเสียหายได้ ดังนั้นใส่เคสนี้เอาไว้ใช้ยามจำเป็นนะครับ 😉
เอาเป็นว่าเราไปชมเนื้องานจริงของเคสแต่ละแบบกันเลยครับ
เคสรุ่น iPhone 8, 7, 6s, 6 รุ่นธรรมดาและ Plus ตัวเคสจะพิเศษหน่อยคือมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดและเข็มจิ้มซิมให้ด้วย สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศและสลับซิมบ่อยๆ น่าเสียดายที่ไม่มีในรุ่นของ iPhone X ด้วย
ในส่วนของฟิล์มกันรอยชนิด TPU ที่ให้มานั้นถือว่าคุณภาพดีมากๆ เลย แนะว่าให้ติดคู่กันได้เลยครับ ถ้าใครยังไม่ได้ซื้อฟิล์มกันรอยก็สามารถซื้อเคสนี้แล้วได้ฟิล์มไปด้วย ประหยัดไปอีก
ติดตั้งเคสเข้ากับตัวเครื่องแล้วดูดี สวยนะ ส่วนตัวแล้วชอบสีวอลนัทมากที่สุด
ส่วนสีอื่นๆ ที่เหลือก็ลองชมภาพถ่ายแบบใกล้ๆ กันดูนะครับ เผื่อใครจะชอบลายไหนก็เลือกตามใจได้เลย เคสจะมีความลื่นนิดหน่อยเมื่อใช้งานไปแล้วมีเหงื่อแต่จะไม่ลื่นมากเท่ากับเคสใสแบบเพียว
ได้เห็นรายละเอียดกันครบแล้วเราชม รีวิวเคส Mous สุดโหดโดยทีมงาน iMod กันครับ และย้ำนะ แนะนำว่าห้ามลอกเลียนแบบนะครับเพราะอาจจะส่งผลกระทบกับระบบภายในของ iPhone ได้
สรุป
ตัวเคสประกอบด้วยวัสดุหลายอย่างได้แก่ TPU สำหรับขอบบัมเปอร์, Polycabonate ด้านหลังของเคส, แผ่นวัสดุ 5 อย่างแยกแต่ละรุ่นและมีแผ่นเหล็กที่ฝั่งในเคสและเน้นจุดเด่นจากวัสดุพิเศษ AiroShock ที่ขอบภายในของเคสช่วยในเรื่องดูดซับแรงกระแทก ทีมงานขอสรุปให้อ่านเป็นข้อๆ ดังนี้
- ติดตั้งและถอดเคสง่าย เมื่อใส่เคสแล้วจะกระชับกับตัวเครื่อง ไม่หลวม ไม่หลุด
- มุมทั้ง 4 ของเคสที่ด้านหน้าจะสูงกว่าจอ ทำให้จอไม่ติดพื้น และพิเศษด้วยบริเวณตรงกลางขอบเคสจะมีความเว้าเพื่อให้การใช้งานทำได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะการจับและการใช้งานการสัมผัสหน้าจอด้วยหัวแม่มือ ทำให้ขอบเคสไม่ขัดกับนิ้ว
- เว้นช่องสำหรับลำโพง ไมค์และช่องเสียบ Lightning ได้อย่างสะดวก
- ปุ่มกดทำได้ง่ายทั้งปุ่มด้านข้างและปุ่มเพิ่มลดเสียง
- ช่อง Mute สามารถใช้งานได้ง่าย
- กันการกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม ผ่านการทดสอบ Drop Test หลายครั้งและด้วยความสูงที่มากกว่า 5 เมตร ยังสามารถป้องกันความเสียหายไม่ให้เกิดกับ iPhone ได้
- ฟิมล์ที่แถมมาด้วยคุณภาพดีแนะนำให้ติดพร้อมกันได้เลย
- ใช้งานคู่กับฟิล์มกระจกแบบเต็มจอได้
- ผ่านการทดสอบ Drop Test จากเครนความสูง 10 เมตร: https://goo.gl/1iQSvC
- ผ่านการทดสอบ Drop Test จากเฮลิคอปเตอร์: https://goo.gl/WLvVvo
คุ้มค่าได้ทั้งเคสและฟิล์ม เคสงานดี ทนทาน ดีโซน์สวยงาม #ของมันต้องมี จัดไปครับ
ราคาและที่สถานที่จัดจำหน่าย
ราคาและที่สถานที่จัดจำหน่าย ราคาสินค้า 1,690 บาท สำหรับ BAMBOO, WALNUT,LEATHER, 1,890 สำหรับ CARBON FIBRE และ 1,990 สำหรับ SHELL เป็นเจ้าของ Case Mous ได้ที่ Facebook Page: Mous Thailand
ขอบคุณ Mous Thailand สำหรับตัวอย่างสินค้าในการทดสอบครั้งนี้
รีวิวโดยทีมงาน iPhoneMod